เมื่อทุกอย่างจัดแจงเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ออกไปปฏิบัติการกันหมด ฉินเหยียนจึงได้โล่งใจแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ เมื่อเห็นว่าฉินอวี่ยังดูเหมือนกำลังโกรธอยู่ เขาก็รินน้ำชาให้อีกฝ่ายแล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า
“พี่เจ็ด ยังไม่สบอารมณ์อยู่งั้นรึ?”
ฉินอวี่ถือน้ำชาดื่มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “ข้าไม่ได้โกรธ ก็แค่รู้สึกไม่สาแก่ใจ อยากจะสังหารคนเยี่ยนสักหน่อย”
ฉินเหยียนถอนหายใจแล้วพูดว่า “พี่เจ็ด ใช่ว่าคนเยี่ยนจะชั่วร้ายเสียหมด ไม่ว่าที่ใดก็ล้วนมีปลาเน่า อีกอย่าง หากพูดตามความจริงแล้ว เยี่ยนเป่ยถือว่าเป็นคนอาณาจักรเยี่ยนเพียงครึ่งเดียว เมื่อก่อนอาณาจักรเยี่ยนเองก็ไม่อยากจะสนใจด้วย”
ฉินเหยียนรู้ว่าฉินอวี่ต้องรู้อยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้เกลี้ยกล่อมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรมาก เขาจึงได้พูดว่า
“เช่นนี้ละกัน เมื่อกองทัพของแม่ทัพสือมาถึงแล้วเราก็คงสืบรู้แล้วว่าเป็นฝีมือใคร ข้าขอยกกองทัพให้พี่ไปจับตัวมา หากจับมาได้แล้วพี่อยากจะบั่นคอเลย ข้าก็จะไม่ห้าม เป็นอย่างไร?”
“ได้ ตกลงเช่นนั้น”
ฉินอวี่ได้ยินดังนั้นก็ตาเป็นประกาย เขาถูมืออย่างตื่นเต้นและลุกขึ้นยืน อีกทั้งยังถือดาบขึ้นมาด้วย ดูแล้วจะออกไป
ฉินเหยียนถามอย่างสงสัยว่า “ดึกดื่นป่านนี้จะไปที่ใดรึ?”
“ต้องไปสืบตัวคนร้ายอยู่แล้ว หากไม่ได้สังหารเจ้าพวกสารเลวพวกนั้น ข้าก็นอนไม่หลับ!”
ฉินอวี่พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เจ้ารีบไปพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้ข้าจะต้องลากตัวออกมาได้แน่”
“......”
ฉินเหยียนมุมปากกระตุกแล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “ก็ได้ พาคนไปมากหน่อยนะ อย่าได้เกิดเรื่องขึ้นอีกเลย”
“หึหึ ข้ารู้แล้วน่า”
ฉินอวี่โบกมือแล้วเดินจากไปอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดว่าจะไปดำเนินการตามแผนของตนเอง
ฉินเหยียนมองแผ่นหลังของเขาแล้วส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นก็เดินเข้าห้องไป เขาต้องพักผ่อนให้ดี อย่างไรหลายวันหลังจากนี้ต้องยุ่งอีกนาน
......
มีคนพูดเสียงเบาขึ้นมา ทำให้คนอื่นๆเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ พวกเขาดิ้นรนสู้ในถิ่นหนาวเย็นอันขมขื่นนี้จนได้มีกิจการของตนเอง เรื่องแค่นี้คิดได้อยู่แล้ว
แต่พวกเขาไม่ได้กังวลอะไรมากนัก โดยเฉพาะจางจื้อสยง เขาหลุดหัวเราะแล้วพูดว่า
“เขากล้าทำอย่างนั้นรึ? หากฉินเหยียนเคลื่อนทัพมาที่เยี่ยนเป่ย ข้าจางจื้อสยงก็ขอนับถือเขาเลย หากเขามีปัญญาก็ช่วยบั่นคอพวกข้าให้ตายด้วยนะ”
ถึงตอนนี้พวกคนอาณาจักรฉินก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่ในเยี่ยนเป่ยต่อไปเลย แน่จริงก็สังหารคนเยี่ยนเป่ยให้หมดสิ เลือดนองไหลเป็นสายน้ำสิถึงจะสนุก อย่าว่าแต่ทั้งเก้าแคว้นจะไร้เหมืองแร่ไปเลย จะเกิดความโกลาหลขึ้นรึไม่ เพียงแค่การเคลื่อนไหวของเขา ไม่เกินสามวันจะต้องถูกทั่วทั้งเก้าแคว้นต่อต้านแน่นอน!
“ฮ่าๆๆ ก็จริง คนเยี่ยนเป่ยอย่างเรามีความสามัคคีกันอย่างมาก หากคนอาณาจักรฉินกล้าสังหารไปเรื่อย ก็อย่าคิดจะได้มาเยือนในเยี่ยนเป่ยอีกเลย หากกล้าใช้วิธีกวาดล้างมากดขี่เรา เกิดข่าวหลุดออกไป ทั้งเก้าแคว้นจะต้องต่อต้านอาณาจักรฉินเป็นแน่!”
ทุกคนต่างพากันพูดสมทบ แล้วเผยสีหน้าได้ใจ
ใช่ว่าพวกเขาหยิ่งยโสโอหังหรอกนะ แต่พวกเขามีความมั่นใจเช่นนั้นจริงๆ อีกอย่างต่อให้ฉินเหยียนจะร้อนใจขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็มีผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเอง ไม่มีทางถูกเล่นงานง่ายๆ
เพียงแค่พวกเขาถ่วงเวลาไปได้สามเดือน หลังจากนั้นทั้งเก้าแคว้นก็จะเกิดความโกลาหลเพราะไม่มีถ่านหิน ดังนั้นไม่ว่าจะสถานการณ์แบบไหน พวกเขาก็ไม่มีทางพ่ายแพ้ ต่อให้จะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อาณาจักรฉินก็จะต้องถูกผู้คนร่วมมือกันจู่โจมแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...