เมืองถูเหอ
ฉินอวี่ออกเดินทางกว่าครึ่งวันแล้ว ฉินเหยียนจึงไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่เรื่องวางเพลิงอีก เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายจะจัดการเรื่องนี้ได้ดี เขาจึงได้มุ่งความสนใจไปที่เรื่องของคนที่เสิ่นเฟยแนะนำให้ก่อนจะมาที่เยี่ยนเป่ย
ฉินเหยียนมองไปยังจ้าวจือหย่าแล้วถามขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ข้าให้เจ้าไปสืบเรื่องของจางฝู สืบเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”
“เรียบร้อยแล้วเพคะ” จ้าวจือหย่าตอบกลับอย่างเคารพ “จางฝูคือนักค้าไม้ที่มีชื่อเสียงในเยี่ยนเป่ย ที่เยี่ยนเป่ยไม่เพียงแต่จะอุดมไปด้วยแหล่งแร่เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ที่มีพืชพรรณจำนวนมากเป็นแนวหน้าในเก้าแคว้นด้วย ดังนั้นนอกจากแหล่งแร่แล้ว ก็ยังมีคนที่ทำกิจการค้าไม้มากด้วยเพคะ”
“และในบรรดานั้นผู้ที่มีความโดดเด่นก็คือจางฝู ไม้ของเขาจะขายไปยังหลายอาณาจักร ถือว่าเป็นผู้ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมนี้เพคะ”
เมื่อฟังนางอธิบายแล้วฉินเหยียนก็สับสน เขาพูดอย่างสงสัยว่า
“เป็นแค่นักค้าไม้งั้นรึ? เหตุใดเสิ่นเฟยจึงต้องแนะนำเขาให้ข้าด้วย?”
“อะแฮ่ม เช่นนั้นก็ต้องกล่าวถึงตัวตนอีกอย่างของจางฝูแล้ว เขาก็คงจะคำนึงถึงอีกฐานะของจางฝูด้วย อาจให้ความช่วยเหลือกับเราได้เพคะ” จ้าวจือหย่าอธิบายเบาๆ
“ตัวตนอีกอย่างรึ?” ฉินเหยียนเลิกคิ้วเล็กน้อย
“เพคะ ท่านอ๋องจำได้รึไม่เพคะว่าใครคือผู้วางเพลิง? ตระกูลจางไงเพคะ จางจื้อสยงเป็นผู้บงการ”
ฉินเหยียนพยักหน้า จากนั้นเขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้แล้วพูดอย่างตะลึงว่า
“นี่เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า เจ้าจางฝูและตระกูลจางเกี่ยวข้องอะไรกันงั้นรึ?”
“เพคะ” จ้าวจือหย่าพยักหน้าอย่างจริงจัง นางพูดเสียงเบาว่า “จากข้อมูลที่ได้มานั้น จางฝูและจางจื้อสยงคือพี่น้องกัน และทั้งสองก็ไม่ถูกกันมานานแล้ว นี่ก็เป็นสาเหตุที่จางฝูเลือกมาทำการค้าไม้ ไม่ทำกิจการถ่านหินแบบดั้งเดิมเพคะ”
“เหตุใดพวกเขาจึงไม่ถูกกัน?” ฉินเหยียนจับใจความสำคัญได้แล้วรีบถามขึ้น
จ้าวจือหย่ายิ้มแล้วพูดว่า “เพราะตำแหน่งผู้สืบทอดผู้นำตระกูล ได้กำหนดเป็นภายในว่าผู้สืบทอดคือจางฝู เพราะเขามีความสามารถมากกว่า แต่จางจื้อสยงได้ใช้วิธีสกปรกแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลไป สุดท้ายจางฝูจึงออกมาเพียงลำพัง”
เมื่ออธิบายจบแล้วจ้าวจื้อหย่าก็รีบเสนอขึ้นว่า “ท่านอ๋องเพคะ เราจะต้องดึงจางฝูมาเป็นพวกได้เป็นแน่เพคะ หากเราเกิดความขัดแย้งกับตระกูลจาง เช่นนั้นชาวเมืองเยี่ยนคงเกลียดชังเราเป็นแน่”
“เพคะ!” จ้าวจือหย่าตอบกลับ
ในเมื่อตอนนี้มีวิธีใหม่แล้ว เช่นนั้นแผนก็ต้องเปลี่ยนหน่อยแล้ว ฉินเหยียนครุ่นคิดไปสักพักก่อนจะหยิบใบรายชื่อออกมาวางบนโต๊ะ แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า
“เดิมทีว่าจะจัดการหลิวชาง หลังจากล้างแค้นแล้วเราค่อยแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับตระกูลจาง ในเมื่อตอนนี้ได้รับความช่วยเหลือจากจางฝู เราก็ต้องเปลี่ยนวิธีกันหน่อยแล้ว”
ว่าแล้วเขาก็เอารายชื่อส่งให้จ้าวจือหย่าแล้วออกคำสั่งว่า “คนในรายชื่อล้วนเป็นเหล่าคนตระกูลจางที่อยู่เมืองเสิ่นและละแวกใกล้ๆ นั่นคือหลักฐานการก่ออาชญากรรมตามกฎของอาณาจักรฉิน ล้วนเป็นโทษประหารทั้งสิ้น ติดประกาศนี้แล้วจับมาให้หมด จะทำการตัดสินโทษต่อสาธารณชน!”
“ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าจะบอกกับทุกคนว่าเยี่ยนเป่ยไม่ใช่พื้นที่นอกกฎหมาย นี่คือดินแดนของอาณาจักรฉิน ในเมื่อคือดินแดนของอาณาจักรฉิน ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์ทำผิดกฎของอาณาจักรฉิน!”
“นอกจากนี้รีบส่งจดหมายส่งไปให้พี่เจ็ด บอกกับเขาว่าไม่ต้องกลัวว่าเรื่องจะใหญ่โต สังหารผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีวางเพลิงให้หมด ต่อให้เมืองเสิ่นจะมีคนตายเต็มเมือง ข้าก็จะรับผิดชอบแทนเขาเอง!”
เขาเองก็ทุ่มสุดเช่นกัน ฉินอวี่ใกล้จะต้องเผชิญหน้ากับตระกูลจางอย่างเปิดเผยแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะออกโรงเพื่อหนุนหลังให้พี่เจ็ดเอง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...