น้ำเสียงของเขาจริงจังมาก จนดูควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ คนรับใช้ไม่เคยเห็นนายท่านของตนเองเป็นเช่นนี้มาก่อน จึงตกใจจนขาสั่นแล้วตะเกียกตะกายวิ่งคลานออกไป
เมื่อมองคนรับใช้ที่วิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนกแล้ว จางจื้อสยงก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เขารีบเดินออกจากห้องทันที เขาเองก็จะไปเรียกระดมกำลังคนเพื่อไปยังเมืองเสิ่นด้วยตนเอง หากอาณาจักรฉินทำอะไรบุ่มบ่าม เช่นนั้นเขาก็จะทำให้อาณาจักรฉินรู้ซึ้งถึงคำว่าเสียใจภายหลัง!
......
เมืองเสิ่น
หลิวชางที่ใกล้จะถึงวันตายแล้วยังไม่ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอก เขายังคงกินดื่มกับเหล่าสหาย เที่ยวเตร่อย่างสบายใจ จนกระทั่งกองทัพอาณาจักรฉินมาถึงใกล้ๆเมืองเสิ่นแล้ว พวกเขาจึงจะได้รับข่าว
แต่หลิวชางยังคิดว่าเป็นเรื่องหยอกล้อ เขาพูดประชดอย่างดูถูกว่า
“พูดบ้าอะไรกัน? กองทัพอาณาจักรฉินรึ? ที่นี่คือเยี่ยนเป่ย คนอาณาจักรฉินติดปีกรึไงถึงได้ถ่อมาถึงเยี่ยนเป่ยได้?”
“นั่นสิ เราจะกลัวอะไร ต่อให้คนอาณาจักรฉินจะมาแล้วอย่างไรเล่า? เรายืนให้มันบั่นคอมันยังไม่กล้าเลย”
ลูกน้องอีกคนพูดขึ้นอย่างไม่แยแส เพราะเขาได้เห็นลูกพี่หลิวชางของตนเองยืนอยู่ตรงหน้าของเจ้าอ๋องอวี่อะไรนั่น แล้วให้บั่นคอด้วย แต่สุดท้ายอีกฝ่ายกลับไม่กล้าทำอะไรด้วยซ้ำ เจ้าพวกคนขี้ขลาดเช่นนี้กล้ามาทำซ่าที่เยี่ยนเป่ยรึ! น่าขันยิ่งนัก!
เมื่อคนอื่นๆได้ยินเช่นนั้นก็พากันหัวเราะขึ้นมา ไม่เชื่อเรื่องนี้เช่นกัน
“จริงๆขอรับคุณชายหลิว อย่างไรหลบซ่อนก่อนเถิด คนอาณาจักรฉินมาจริงๆ แล้วยังไม่เป็นมิตรด้วยขอรับ!”
คนรับใช้ตระกูลจางคนหนึ่งเกลี้ยกล่อมอย่างสุดกำลัง
“เจ้าคนไร้ประโยชน์! เงียบซะ ข้าจะทำอะไร เจ้ามีสิทธิ์มายุ่งรึ? ใจเสาะจริงๆ นี่เจ้าปอดแหกกว่าคนอาณาจักรฉินอีกรึ?” หลิวชางข่มขู่ด่าทอ
คนรับใช้รู้สึกผวาและไม่กล้าพูดอะไรอีก
“ฮ่าๆ พี่หลิวพูดถูก หากเจ้าพวกนั้นกล้ามาที่เมืองเสิ่น เราก็จัดการพวกมันให้สิ้นซาก”
ลูกน้องของหลิวชางพูดยกยอว่า “ไม่จำเป็นต้องให้ลูกพี่หลิวของเราลงมือเลย เพียงแค่เราปรากฏตัว พวกมันก็กลัวแล้ว”
“ใช่แล้ว ที่นี่คือเยี่ยนเป่ยเชียวนะ ไม่ใช่ดินแดนของคนป่าเถื่อนทางใต้ พวกมันคงวิ่งหางจุกตูดกันหมด”
“ฮ่าๆ......”
ทุกคนหัวเราะ ราวกับไม่ได้เห็นกองทัพอาณาจักรฉินอยู่ในสายตาเลย
ทันใดนั้นเองก็มีคนรับใช้ตระกูลจางวิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวายแล้วพูดด้วยเสียงตกตะลึงว่า
“แย่แล้ว กองทัพอาณาจักรฉินล้อมเมืองแล้วขอรับ!”
“ว่าอย่างไรนะ!”
“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ”
รองผู้บังคับบัญชาประสานมือคารวะ จากนั้นก็นำลำโพงออกมาแล้วตะโกนสุดเสียงว่า
“อ๋องอวี่มีคำสั่งให้ส่งตัวพวกหลิวชางออกมา ไม่เช่นนั้นจะบุกเข้าเมือง!”
ส่งตัวหลิวชางรึ? จะเป็นไปได้อย่างไร นี่คือคนที่จางจื้อสยงย้ำให้ปกป้องคุ้มครองหลายครั้งเชียวนะ
คนตระกูลจางที่เฝ้าประตูเมืองขมวดคิ้วแล้วตอบกลับว่า
“พวกคนอาณาจักรฉินเสียสติไปแล้วรึไง? นี่คิดจะทำอะไร? คิดจะสังหารหมู่ในเมืองเสิ่นงั้นรึ?”
“หลิวชางจงใจวางเพลิง เผาข้าราชการอาณาจักรฉินตายมากกว่าสิบคน แถมยังจงใจทำร้ายคน และเหยียบย่ำผู้หญิงอาณาจักรฉิน มีทั้งหลักฐานและพยานบุคคล หลิวชางมีความผิดมหันต์ รีบเปิดประตูเมืองซะ!”
รองผู้บังคับบัญชาตะโกนอย่างเคียดแค้นว่า “อีกอย่างนี่คือคำสั่งของอ๋องอวี่ คิดกบฏกับทั้งเมืองงั้นรึ?”
“พูดบ้าอะไรของเจ้า ที่นี่คือเยี่ยนเป่ยไม่ใช่อาณาจักรฉินของพวกเจ้า เยี่ยนเป่ยมีกฎใดที่บอกว่าข้าไม่สามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้รึ? อ๋องอวี่บ้าบออะไรกัน ก็แค่เจ้าคนปอดแหกก่อนหน้านี้ไม่ใช่รึ ยืนให้บั่นคอก็ไม่ลงมือ ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ แน่จริงพวกเจ้าก็บุกเข้าเมืองดูสิ! ฮ่าๆๆ”
หลิวชางหัวเราะเยาะอย่างโอหัง ในสายตาเขา คนอาณาจักรฉินก็แค่วางมาดใหญ่โต ไม่เห็นอยู่ในสายตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...