อีกด้านหนึ่ง ด้านในเมืองถูเหอ
ฉินเหยียนเตรียมอาหารและเหล้าเอาไว้แล้ว ได้แต่นั่งรอเงียบๆ
ในเวลานี้ จ้าวจือหย่าเข้ามาและแจ้งว่า
“ท่านอ๋อง จางฝูมาแล้วเพคะ”
“ให้เขาเข้ามา” ฉินเหยียนรีบส่งสัญญาณมือ
จากนั้นชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแปลกตาเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง
เขาคือจางฝู นักธุรกิจค้าไม้ที่ให้ความช่วยเหลือเสิ่นเฟยครั้งที่อู่ต่อเรือประสบกับวิกฤตเมื่อครึ่งเดือนก่อน อีกทั้งยังไม่กลัวกลุ่มคณะกรรมการอู่ต่อเรือเข้ามาขัดขวางหรือคุกคาม
“ข้าน้อย จางฝู ยินดีที่ได้เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”
จางฝูเดินเข้าไปและโค้งคำนับ
ฉินเหยียนยืนขึ้น ยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายโค้งคำนับและพูดว่า
“เจ้าคือจางฝูใช่หรือไม่? ข้าได้ยินเสิ่นเฟยพูดถึงเจ้าหลายครั้งว่าเป็นเพราะเจ้า ทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี ทำให้แผนการในอนาคตของอาณาจักรฉินไม่ล้มเหลว”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้าพอจะทำได้ก็เท่านั้น”
ในใจจางฝูตื่นกลัวเล็กน้อย เขาได้ยินชื่อเสียงของอ๋องเหยียนมานานแล้ว
ต่อหน้าบุคคลนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจดังจนเกินไปเพราะกลัวว่าจะเป็นการดูหมิ่นนักปราชญ์ผู้นี้
ฉินเหยียนหัวเราะ พร้อมกับตบไหล่จางฝู จากนั้นจับมือเขาและพูดว่า
“เอาล่ะ อย่าให้เสียเวลาเลย ไป ข้าเตรียมอาหารไว้ให้เจ้าแล้ว”
จางฝูรู้สึกยินดีและพูดว่า
“อ๋องเหยียน นี่... ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ท่านเป็นถึงอ๋องเหยียน ข้าเป็นแค่พ่อค้าคนธรรมดา ข้ารับไว้ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ!”
“ไม่เป็นไรน่า ไปเถิด!”
“ไอหย่า เช่นนั้นข้าทำตามที่ท่านต้องการพ่ะย่ะค่ะ!”
จางฝูได้แต่ตอบตกลง
แต่ในใจเขายังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ก่อนหน้านี้ เขาหวังว่าตนเองจะได้รับความสนใจจากอาณาจักรฉินบ้าง
มิฉะนั้น ในตอนที่เสิ่นเฟมาขอความช่วยเหลือจากเขา เขาจะตอบตกลงทันทีได้อย่างไรล่ะ
เป็นเพราะว่าเขาเองก็เห็นความสำคัญของต้นไม้ใหญ่อย่างอาณาจักรฉิน
จางฝูมีความคิดไม่เหมือนกับประชาชนที่ดื้อรั้นในเยี่ยนเป่ย เขาแยกแยะสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนและรู้ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร
หากเป็นแค่อาณาจักรฉิน บางทีเขาอาจจะไม่ประจบประแจงอีกฝ่าย และมุ่งมั่นทำธุรกิจของตนไปแทน
แต่กับอ๋องเหยียนนั้นไม่เหมือนกัน อ๋องเหยียนเป็นคนควบรวมทุกอาณาจักรในจิ่วโจวเข้าด้วยกันและเป็นเจ้าของใต้หล้าอย่างแท้จริง
จางฝูยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าฉินเหยียนถามอย่างจริงใจหรือมีแผนอื่น เขาลังเลและพูดอย่างช้าๆ
“คนเยี่ยนเป่ย ไม่พอใจอาณาจักรฉิน ที่ข้าน้อยทราบมาตอนนี้เยี่ยนเป่ยเป็นของอาณาจักรฉินแล้ว แต่ในเยี่ยนเป่ยยังคงมีคนที่ต่อต้านและไม่สามารถแยกแยะความจริงได้...”
จางฝูพูดเยอะมาก ทุกเรื่องที่พุดมานั้นตรงใจฉินเหยียน
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของฉินเหยียนค่อยๆ จางหายไป จางฝูรีบพูดขึ้นมาว่า
“ท่านอ๋อง ประชาชนส่วนใหญ่ในเยี่ยนเป่ยไม่ได้มีเจตนาร้าย หลายอย่างที่พวกเขาทำไปนั้น เขาทำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาถูกคนอำนาจในท้องถิ่นบังคับขู่เข็ญ พวกเขาไม่อาจต่อต้านได้”
“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้ตั้งใจจะคิดเล็กคิดน้อยกับประชาชนในเยี่ยนเป่ย ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้พวกเขาถือว่าเป็นคนของอาณาจักรฉิน”
ฉินเหยียนถอนหายใจและพูดว่า
“แต่ปัญหาในตอนนี้คือ ข้าเต็มใจอะลุ่มอล่วยให้พวกเขา ถือว่าพวกเขาเป็นคนของข้า แต่ชาวเยี่ยนเป่ยกลับไม่คิดเช่นนั้น พวกเขากลับไม่ยอมโอนอ่อนเลย เจ้าเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่?”
จางฝูสงสัย ตอบกลับอย่างจริงจัง
“ท่านอ๋องอย่าได้ทรงเป็นกังวลเลยพ่ะย่ะค่ะ หลังจากที่ข้าน้อยกลับไป จะพยายามใช้กำลังทั้งหมดเพื่อนำประชาชนให้เดินในเส้นทางที่ถูกต้อง และป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกตระกูลที่มีอิทธิพลเข้าควบคุมอีก”
“เจ้าเข้าใจดีทีเดียว”
ฉินเหยียนพยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นถอนหายใจอีกครั้งและพูดว่า
“แต่ปัญหาก็คือ อาณาจักรเยี่ยนนั้นกว้างใหญ่มาก ด้วยกำลังของเจ้า จะสู้กับจำนวนคนมากมายในเยี่ยนเป่ยได้อย่างไร? อำเภอรอบๆ เมืองถูเหอก็เกินความสามารถของเราแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพื้นที่อันกว้างใหญ่ของเยี่ยนเป่ยเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...