องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1053

จางฝูรีบพูดขึ้นว่า “แผนของกระหม่อมแบ่งได้สามขั้นตอน หลังจากดำเนินการตามสามขั้นตอนแล้ว เมืองถูเหอจะมีเสบียงที่ไม่มีวันหมดเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ขั้นตอนแรก เราจะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับราคาเสบียง ทำให้เสบียงมีราคาที่สูงสุด หลังจากนั้นก็นำเงินมากวาดซื้อเสบียงที่ราคาสูงลิ่วทั่วทั้งเมืองถูเหอพ่ะย่ะค่ะ”

ขั้นตอนนี้ทำเอาฉินเหยียนและจ้าวจือหย่างุนงงไปหมด

จ้าวจือหย่าอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “เพื่ออะไรงั้นรึ? จะให้เราทำให้ราคาเสบียงสูงลิ่ว แล้วยังให้เรากวาดซื้อเองอีก อีกอย่างเสบียงที่เราซื้อมาก็เป็นเสบียงของเราแต่เดิมอยู่แล้วไม่ใช่รึ?”

ฉินเหยียนไม่ได้พูดอะไร เขาจับคางแล้วครุ่นคิด

จางฝูอธิบายว่า “จ้าวปั๋วซื่อคงไม่รู้ ขั้นตอนนี้มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือการยกราคาเสบียงให้สูง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นจ้าวจือหย่าก็ยิ่งไม่เข้าใจ นางขมวดคิ้วพูดว่า

“เจ้ารู้รึไม่ว่าหากราคาเสบียงในเมืองถูเหอเกิดสูงลิ่วมากเกินไป จะทำให้เกิดอะไรขึ้น?”

นางไม่ได้พูดจบ ฉินเหยียนเคยใช้วิธีนี้จัดการศัตรูไปนับไม่ถ้วน แต่จางฝูกลับจะยกราคาเสบียงให้สูงลิ่วเอง นี่มันรนหาเรื่องเองไม่ใช่รึ? แม้แต่นางก็ยังรู้สึกสงสัยว่าจางฝูคือไส้ศึกที่พวกตระกูลใหญ่ส่งมาหรือเปล่า หากราคาเสบียงเมืองถูเหอเสียสมดุล แล้วพวกตระกูลใหญ่ฉวยโอกาสนี้ตีไข่ใส่สี ก็จะทำให้แผนการในเยี่ยนเป่ยของพวกเขาพังทลายลงได้เลย

จางฝูยังอยากจะอธิบายแผนการหลังจากนี้ของเขา แต่ฉินเหยียนก็ยกมือแทรกขึ้นมา แล้วมองเขาด้วยสีหน้าที่จริงจังแล้วถามขึ้นว่า

“เจ้ามีความมั่นใจมากเพียงใด?”

จางฝูยิ้ม จากนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “หนึ่งร้อยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ดี แล้วหากไม่สำเร็จจะทำอย่างไร?”

จางฝูรีบประสานมือคารวะพูดว่า “เช่นนั้นก็ตัดศีรษะของกระหม่อมได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนมองเขาอย่างประหลาดใจแล้วถามอย่างสงสัยมากว่า

“เจ้ามั่นใจมากเพียงนี้เชียวรึว่าแผนของเจ้าจะสำเร็จแน่นอน? ที่จริงหากเจ้าไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนี้ เจ้าก็สามารถตีตัวออกห่างไม่ยุ่งเกี่ยวได้แท้ๆ”

จางฝูยิ้มแล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “ก่อนหน้านี้กระหม่อมเคยกล่าวเอาไว้ กระหม่อมเคยตรวจดูดวงชะตาไว้ ผู้ที่ตรวจให้บอกว่ากระหม่อมดวงแข็ง ในเมื่อเข้าร่วมกับอาณาจักรฉินแล้ว เช่นนั้นก็ต้องไปให้สุดพ่ะย่ะค่ะ”

“ดี เช่นนั้นข้าจะเชื่อเจ้า เจ้ามีแผนใหญ่มากเพียงใด ข้าก็มีความกล้าที่จะสนับสนุนเจ้ามากเท่านั้น ทำตามที่เจ้าบอก หากล้มเหลวข้าจะบั่นคอเจ้า แต่หากสำเร็จ ข้าจะเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าสูงขึ้น!”

จางฝูได้ยินดังนั้นก็คุกเข่ากราบกรานอย่างดีอกดีใจ ไม่ว่าคนงานที่ใดก็ล้วนอยากพบเจอเจ้านายเช่นนี้ทั้งนั้น

และแล้วจางฝูก็ไปปฏิบัติอย่างกระตือรือร้น

ฉินเหยียนเองก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ เขาตั้งตารอคอยการเคลื่อนไหวของจางฝูมาก

“ท่านอ๋องเชื่อว่าเขาจะทำสำเร็จเพียงนี้เชียวรึเพคะ?”

จ้าวจือหย่ายังคงถามเขาอย่างกังวล

เพียงพริบตาก็ผ่านไปสามวันแล้ว ในระหว่างนี้ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นหลายเรื่อง

เรื่องแรกก็คือทหารรถยนต์หนึ่งหมื่นนายได้มาถึงเยี่ยนเป่ยแล้ว และได้รวมตัวกับเซี่ยชิง ผู้บัญชาการสูงสุดคือหยางจิ่นซิ่ว

เรื่องที่สองก็คือราคาเสบียงในเมืองถูเหอสูงขึ้นอย่างมาก อาณาจักรฉินได้ขึ้นราคาเสบียงให้สูง และในขณะเดียวกันก็ได้กวาดซื้อเสบียงในตลาดด้วยราคาที่สูงยิ่งกว่า มีเท่าไรก็เอาเท่านั้น

ไม่นานเสบียงในเมืองถูเหอก็ขาดแคลน ชาวเมืองทั่วไปอยากจะซื้อ ต่อแถวไปก็ไม่มีให้ซื้อ

ส่วนเถ้าแก่แต่ละร้านก็ยินดีที่จะขายเสบียงให้กับคนอาณาจักรฉินมากกว่า เพราะจะได้เงินมากยิ่งกว่า ขั้นตอนนี้ทำเอาชาวเมืองทั่วไปในเมืองถูเหอหาซื้อเสบียงได้ยากอย่างมาก

ในระยะเวลาสั้นๆเสบียงก็ถูกขึ้นราคาสูงลิ่ว แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ณ เจ้อหลี่มู่เหมิง

จางจื้อสยงและอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่ที่นั่งตรงข้ามกัน เมื่อได้รู้เรื่องแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง

“อ๋องเหยียนบ้าอะไรกัน ข้าว่าก็แค่เจ้าคนโง่เขลาเท่านั้น”

“”นั่นสิ ข้าแทบจะหัวเราะจนขาดอากาศ นี่พวกมันกำลังแสดงละครใบ้อะไรงั้นรึ?”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวเก๋ออวี่พูดประชดว่า “วิธีที่โง่เขลาเช่นนี้ เด็กสามขวบในชนเผ่าของเรายังไม่ใช้เลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์