องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1076

“ไม่ทราบเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้พร้อมกันในหลายพื้นที่”

เจ้าหน้าพูดด้วยเสียงเคร่งเครียด

“จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้พร้อมกันในหลายพื้นที่ น่าจะเป็นเพราอากาศที่แห้งแล้งพ่ะย่ะค่ะ”

“อากาศแห้งอย่างนั้นหรือ?”

ฉินอวี่ยิ้มเย็น เขาไม่เชื่อเรื่องอากาศแน่นอน ต้องมีคนลอบวางเพลิงไม่ผิดแน่

แต่ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นคนที่คอยจับตาเมืองเสิ่นอยู่

“ผู้พิพากษาอยู่ที่ใด เชิญผู้พิพากษามาที่นี่!”

ฉินอวี่สั่ง

เจ้าหน้าที่ตกใจและรีบเรียกผู้พิพากษา ในขณะที่ฉินอวี่กำลังนั่งรอข่าว

หลังจากนั้นไม่นาน ชายสูงวัยคนหนึ่งอายุประมาณห้าสิบหกสิบปี ก็มาเข้าเฝ้าด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนและพูดอย่างเคารพ

“ท่านอ๋องอวี่ ต้องการพบข้าหรือ?”

“เรื่องเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร? เจ้าส่งคนไปช่วยดับไฟแล้วหรือไม่?” ฉินอวี่ถามทันที

“ส่งคนไฟช่วยดับไฟแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้พิพากษาปาดเหงื่อที่หน้าผาก

“แต่ส่งคนไปช่วยสามสี่กลุ่ม แต่มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นหลายจุดมากเกินไป ทำให้ควบคุมได้ยากพ่ะย่ะค่ะ”

“มีใครฉวยโอกาสนี้สร้างปัญหาหรือเปล่า?” ฉินอวี่เหล่ตาถาม

“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้พิพากษาส่ายหน้า

หลังจากที่ฉินอวี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดเสียงต่ำว่า

“ก่อนอื่นเจ้าส่งคนไปช่วยดับไฟให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าจะส่งทหารบางส่วนไปช่วยเจ้าด้วย”

ผู้พิพากษารู้สึกยินดีมากเมื่อได้ยินดังนั้น “ขอบพระทัยอ๋องเหยียนสำหรับการสนับสนุนของท่าน!”

พูดจบเขาก็ไปจัดการตามที่สั่ง

ฉินอวี่ทำตามที่เขาให้สัญญาไว้ เขาระดมคนกว่าพันคนไปช่วยดับไฟ ในเวลาเดียวกันเพื่อความปลอดภัย เขาก็ระดมคนกว่าพันคนคอยรักษาความสงบในเมือง

เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับมีคนวางแผน เขาจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ

เมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อย เขาถึงได้นั่งจิบชาอย่างสบายใจ

ในเวลานี้ มีคนวิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล

คนสองคนวิ่งเข้ามาด้วยความประหม่า คุกเข่าลงกับพื้นและรายงานด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ท่านอ๋อง แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ โกดังเก็บเสบียงของพวกเราถูกไฟไหม้! อีกทั้งมีคนขโมยเสบียงไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

“ว่าอย่างไรนะ?”

ฉินอวี่มีสีหน้าตกใจ เขาลุกขึ้นมาในทันที “เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ?”

ชายทั้งสองตัวสั่นด้วยความกลัวและเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด

หลังจากได้ยินดังนั้น ฉินอวี่พลันโกรธเกรี้ยวและด่าทออย่างรุนแรง

“บ้าจริง ต้องมีคนจงใจวางเพลิงนั่นแน่ๆ ไปตรวจสอบให้ละเอียดได้หรือไม่?”

“ยังไม่...” ชายทั้งสองคนก้มศีรษะลง “กระหม่อมไร้ความสามารถ ได้โปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านผู้นำ เราควรส่งคนไปแจ้งชนเผ่านวี่ห์เจินตอนนี้เลยหรือไม่? ให้พวกเขาบุกเข้ามา มิฉะนั้นคนชองเราไม่อาจหนีออกมาได้ขอรับ”

คำเตือนของคนเก่าแก่ในตระกูลถูกใจเขามาก

จางจื้อสยงพูดทันที

“เจ้ารีบไปจัดการ เร่งให้พวกเขาเข้าไปเมืองเสิ่นให้เร็วที่สุด”

“รับทราบ!” คนเก่าแก่ในตระกูลตอบรับ และเดินจากไป

จางจื้อสยงหยิบถ้วยชาขึ้นมาและรอผลอย่างสบายใจ

อีกด้านหนึ่ง องค์ชายใหญ่รวบรวมทหารทุ่งหญ้าของเขาและเดินทางตามมา

ชาวทุ่งหญ้าไม่พูดอะไรมาก เมื่อเขารับปากแล้ว นั่นคือความสัตย์จริง หากตกปากรับคำแล้ว เรื่องนั้นจะต้องสำเร็จ

ทหารม้าและองค์ชายใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้าเมืองเสิ่นด้วยความเร็ว

เมื่อเห็นว่าเมืองเสิ่นอยู่ใกล้แค่เอื้อม คนเก่าแก่ของตระกูลจางก็เจอพวกเขา สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“สมกับเป็นองค์ชายใหญ่ ความเร็วเช่นนี้ทำให้ข้าละอายใจยิ่งนัก”

พ่อบ้านตระกูลจางยกย่องเขา

“หากพูดถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลแล้ว พวกเราชาวเยี่ยนเป่ยยังล้าหลังชาวทุ่งหญ้าอย่างพวกท่านมาก”

ชาวทุ่งหญ้าได้ยินเช่นนั้นต่างเงยหน้าขึ้น และยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ

องค์ชายใหญ่พอใจกับคำชมและถามออกไปว่า

“อ้อ ใช่แล้ว พวกเราต้องโจมตีเมืองเมื่อไหร่? เจ้าบอกมาได้เลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์