การเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรฉินในหลายวันมานี้ จะว่ามากก็ไม่มาก จะว่าน้อยก็ไม่ได้น้อยเลย ทุกที่ในเก้าแคว้นเมื่อได้รับคำสั่งจากอาณาจักรฉินแล้ว ศาลาว่าการแต่ละที่ก็ได้รีบเคลื่อนไหวทันที
ในระยะเวลานี้มีชาวตาดไม่น้อยที่ได้เข้ามาในอาณาจักรฉินด้วยสาเหตุต่างๆนานา และมีชาวตาดไม่น้อยที่ได้รับผลประโยชน์จริงๆ เสวยสุขจากการถวายตัวของเหล่าหญิงสาว แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมด
ศาลาว่าการทั่วทั้งเก้าแคว้นได้ทำการจับกุมได้หลายร้อยคนภายในระยะเวลาไม่กี่วัน และได้ทำการสกัดเหล่าหญิงสาวที่อยากจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนชาวตาดเอาไว้จนหมด
ดูแล้วเหมือนจะสงบสุข แต่ความจริงแล้วภายในเกิดความโกลาหลมาก
......
อาณาจักรอู๋ งานก่อสร้างอู่ต่อเรือหลวงก็ได้มาถึงตอนท้ายแล้ว
ฤดูใบไม้ผลิได้ผ่านไป ช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดในหนึ่งปีใกล้จะเข้ามาแล้ว แต่โชคดีที่ไม่ต้องทนแดดร้อนๆสร้างอู่ต่อเรืออีก ภารกิจต่อไปของหลิวอวี่หลินก็คือการไปเป็นเสมียนตรวจสอบอะไรนั่นที่อู่ต่อเรือ พูดตรงๆก็คือเป็นคนงานที่มีหน้าที่ดูแลคุณภาพของเรือที่สร้างขึ้นตามระเบียบข้อบังคับ
หลิวอวี่หลินไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่วันนี้ตอนที่เดินอยู่กลางถนนเกิดเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้น ทำให้เขาได้สติขึ้นมาทันที
วันนี้มีนักการในศาลาว่าการหลายคนได้จับชาวตาดคนหนึ่ง ที่มีหนวดเครา รูปลักษณ์ประหลาด และสีผิวของเขามีสีเข้มเนื่องจากสภาพอากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของทุ่งหญ้า เดินออกไปทางด้านนอก
แต่เดินอยู่ก็ถูกผู้หญิงหลายคนมาขวางทาง แล้วโหวกเหวกโวยวายตรงนั้น
“พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาจับเขา เขาทำอะไรผิด!”
“ใช่ ปล่อยเขานะ พวกเจ้ามีเหตุผลกันรึไม่!”
“เหตุใดพวกเจ้าจึงหยาบคายเช่นนี้ หากทำคนของข้าเจ็บจะทำอย่างไร!”
เหล่าหญิงสาวพากันร้องตะโกนห้ามนักการในศาลาว่าการพาผู้ชายชาวตาดไป
เมื่อหลิวอวี่หลินเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วพูดพึมพำว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน? เจ้าชาวตาดคนนั้นทำอะไรผิด?”
ผู้จับกุมที่อยู่อีกด้านมองบนแล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการเหล่านั้นพร้อมพูดว่า “คนที่พวกเขาต้องจับคือคนคนนั้น”
“คนนั้น?” หลิวอวี่หลินเบิกตากว้างแล้วมองไปยังผู้ชายคนนั้น
ด้วยหน้าที่ตำแหน่ง นักการในศาลาว่าการเดิมยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างอดทนว่า
“แม่นางทั้งหลาย ชาวตาดผู้นี้ไม่ได้จัดทำสมุดลงทะเบียนในอาณาจักรฉิน และไม่มีหนังสือราชการใดๆเลย ตามระเบียบของอาณาจักรฉินแล้วนี่คือไส้ศึก”
“พวกเจ้าพูดจาไร้สาระ เขาไม่ใช่ไส้ศึกเสียหน่อย เขาคือคนดี!”
บังอาจฉีกหนังสือราชการ แถมยังเป็นหนังสือที่ทางเมืองหลวงส่งมาอีก นี่คือโทษมหันต์ เขายกมือขึ้นอยากจะตบหน้าผู้หญิงคนนั้น แต่ยังไม่ทันลงมือ ผู้คนนั้นก็ร้องไห้ก่อน
“อะไรกัน พวกเจ้าคิดจะตบผู้หญิงอีกงั้นรึ? พวกเจ้าเป็นผู้ชายเหตุใดจึงหยาบคายเช่นนี้ รังแกผู้หญิงอย่างข้าอย่างงั้นรึ พวกเจ้ามีความเป็นสุภาพบุรุษได้ครึ่งหนึ่งของบาตูลูรึไง? ยังกล้าว่าเขาชั่วร้าย คนที่ชั่วร้ายคือพวกเจ้านั่นแหละ”
ว่าแล้วหญิงสาวก็ร้องไห้โวยวายไปทั่ว
“ทุกคนรีบมาดูเร็วเข้า ข้าราชการรังแกผู้หญิง!”
เหล่าชาวเมืองที่อยู่รอบๆที่ไม่รู้สถานการณ์แต่แรก บัดนี้พากันถกเถียงกันขึ้นมา
“เจ้าพวกข้าราชการมีเหตุมีผลหน่อยได้รึไม่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรรังแกผู้หญิงนะ”
“นั่นสิ อ๋องเหยียนเคยตรัสเอาไว้ว่าผู้หญิงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แล้วผู้ชายอย่างพวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมารังแกผู้หญิงอย่างพวกข้า?”
“ใช่แล้ว พวกเจ้ารังแกผู้หญิงคิดว่ายอดเยี่ยมมากนักรึ? อย่าร้องไห้เลยนะ พวกข้าจะช่วยเจ้าเอง จะไม่ยอมให้เจ้าคนพวกนี้รังแกเจ้า!”
เหล่าผู้หญิงที่ไม่รู้ความจริงต่างก็ตั้งตัวปะทะกับนักการในศาลาว่าการขึ้นมา อีกทั้งยังเคืองใจอย่างยิ่ง ราวกับว่าถูกทำร้ายอย่างแรงยังไงอย่างงั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...