องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1408

ฉินเหยียนยิ้มอ่อน และบอกฉินชงว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่

หลังจากฟังที่อีกฝ่ายพูดมาแล้ว ฉินชงก็พยักหน้าและถามอย่างลังเล

“เจ้าสิบสี่ ข้าไม่มีปัญหาอื่น แต่อายุเขาไม่เด็กไปใช่หรือไม่”?

เพราะฉินชงคือฮ่องเต้ ดังนั้นเขาต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้น

“พี่ใหญ่ ทรงอย่าลืมสิว่าอาณาจักรฉินยึดมั่นในหลักการเลือกคนที่มีพรสวรรค์เข้ามา ขอแค่เขามีความสามารถ อายุก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”

ฉินเหยียนยิ้มเล็กน้อยและอธิบาย

เมื่อเห็นว่าฉินเหยียนจริงจังกับเรื่องที่เขาพูด ฉินชงก็ไม่ลังเลอีกต่อไป

“ได้ ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนี้ ก็ตกลงตามนี้!” ฉินชงยิ้มตอบ

“แต่ข้ารู้สึกว่า ก่อนที่จะให้เขาดำรงตำแหน่งนั้น ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่เขาสามารถทำได้” ฉินเหยียนคิดอย่างรอบคอบ

“เอ๋? เรื่องอะไรหรือ?”

ฉินชงถามอย่างสงสัย

“ให้เขาไปยังอาณาจักรคุชะเถิด!” ฉินเหยียนกล่าว

“อาณาจักรคุชะ ไม่ได้มีเจ้าเจ็ดคอยเฝ้าอยู่หรอกหรือ?” ฉินชงถามอย่างสับสน

ฉินเหยียนยิ้มและพูดว่า

“สงครามครั้งนี้สำคัญมาก หากชนะ อาณาจักรฉินจะไม่เกิดสงครามอีกต่อไป ให้เขาช่วยพี่เจ็ดในการคิดวางแผนการต่อสู้เสียจะดีกว่า จะได้ควบคุมสถานการณ์ได้มากขึ้น หลีกเลี่ยงเรื่องไม่คาดฝันได้”

ฉินชงคิดไปคิดมา พยักหน้าและตอบว่า

“ได้ ข้าฝากเรื่องนี้ให้เจ้าจัดการเสียแล้วกัน!”

“ตกลง”

ฉินเหยียนยิ้มและไม่ปฏิเสธ หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกับอีกสักพัก ฉินเหยียนพลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้

เขามองไปที่ฉินชงและถามอย่างจริงจัง

“พี่ใหญ่ เรื่องขึ้นครองราชย์ของท่านพี่ล่าช้าไปมากแล้ว ถึงเวลาที่ท่านพี่ต้องเตรียมจัดพิธีครองราชย์สมบัติแล้วล่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินชงยิ้มขมขื่น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกดดันเล็กน้อย

เดิมทีตามแผนควรจัดพิธีขึ้นครองราชย์สมบัตินานแล้ว แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้เขาไม่ได้จัดพิธีเสียที

สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือไม่มีเงิน กรมพระคลังไม่สามารถออกเงินจำนวนมากได้อีกแล้ว

ดังนั้นเรื่องการขึ้นครองราชย์สมบัติของฉินชงจึงไม่สามารถพูดถึงได้ในตอนนี้

แต่ฉินเหยียนในตอนนี้กลับหัวเราะและถามว่า

“พี่ใหญ่คงลืมไปแล้วว่าสองสามวันนี้ข้ามัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องพันธบัตรใช่หรือไม่?”

“พันธบัตร!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินชงก็ตบหัวตัวเองอย่างแรงและยิ้ม

“ข้าลืมเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วเรื่องออกพันธบัตรของเจ้า ข้าไม่ได้เข้าไปดูเลย เป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้ผลเป็นอย่างไรบ้าง?”

หากไม่มีระบบระเบียบ เช่นนั้นก็เหมือนกับว่าเก้าแคว้นนี้แค่เต้นรำร้องเพลงไปวันๆ ไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้ อีกทั้งยังก่อให้เกิดพวกกบฏ

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้งานครองราชย์สมบัตินั้นเกิดขึ้นให้ได้ จะไม่มีทางให้เกิดเรื่องนามไม่เที่ยง วาจาไม่ราบรื่นเป็นอันขาด

“เฮ้อ!”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฉินชงถอนหายใจอย่างหนักและพูดว่า

“เจ้าสิบสี่ ขอบใจเจ้ามาก ที่เจ้าพูดมาทั้งหมด ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะฟังเจ้า!”

“ตกลง เช่นนั้นข้ากลับไปหารือกับเสนาบดีกรมพิธีการ” ฉินเหยียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“ได้ เช่นนั้นข้าไปก่อนนะเจ้าสิบสี่” ฉินชงยืนขึ้น

“อื้ม!”

ทั้งสองมองหน้ากัน ยิ้มและเดินจากไป

ต่อมาฉินเหยียนไม่คิดจะพักผ่อน เขาเดินตรงไปที่กรมพิธีการและตามหาตัวเสนาบดีทันที

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นๆ ปี” เสนาบดีกรมพิธีการโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว

“ใต้เท้าหลี่ ทำตัวตามสบายเถิด”

ฉินเหยียนยิ้มและช่วยประคองอีกฝ่าย “ท่านเสนาบดี วันนี้ข้ามาหาท่าน ข้ามีเรื่องสำคัญจะหารือกับท่าน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสนาบดีกรมพิธีการหยุดยิ้มทันที นั่งลงและถามว่า “อ๋องเหยียนได้โปรดทรงตรัสมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

“ข้าเพิ่งหารือกับพี่ใหญ่เรื่องอาณาจักรมา วันนี้ได้ตัดสินใจเรื่องให้พี่ใหญ่ขึ้นครองราชย์ ข้าอยากรอจนกว่าสงครามจะสงบ จากนั้นจัดงานขึ้นครองราชย์บัลลังก์ให้พี่ใหญ่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์