องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 146

เมื่อแผนการของฉินเหยียนสำเร็จมุมปากของเขาจึงยกขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า

"ก่อนที่ท่านทั้งสองจะมา ทหารทั้งสองฝ่ายก็ขับเคี่ยวกันอยู่เช่นกัน ข้าจึงจัดการแข่งขันชู่จวีขึ้น เชิญท่านทั้งสองเดินไปยังกำแพงเมืองเพื่อดูการแข่งขันกันเถิด"

จ้าวฉี่หมิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของฉินเหยียน ดูเหมือนว่าการแข่งขันได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว เขากังวลว่าจะมีการฉ้อโกงจึงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า

"ช้าก่อน เจ้าคงมิใช่ว่าจะมีลูกไม้อันใดอีกหรอกนะ?"

ยังไม่ทันที่ฉินเหยียนจะเอ่ยปาก ไท่ฟู่ก็กล่าวขึ้นมาว่า

"มันก็แค่ชู่จวี อาณาจักรจ้าวของพวกเจ้ากลัวแพจึงไม่กล้าแข่งล่ะสิ ไม่กล้าแข่งก็ไสหัวไป แม่ทัพที่อยู่ใต้บังคับบัญชาพ่ายแพ้ ช่างขายขี้หน้านัก!"

ผู้กล้ามิอาจทนต่อคำสบประมาทได้ เดิมทีจ้าวฉี่หมิงมีความคับข้องใจต่อไท่ฟู่ไม่น้อย เมื่อถูกยั่วยุเช่นนี้จ้าวฉี่หมิงจึงตอบตกลงว่า

"แข่งก็แข่ง แม้เจ้าจะเล่นลูกไม้อาณาจักรจ้าวของข้าก็ยังสามารถเอาชนะได้เช่นกัน!"

ฉินเหยียนกลั้นยิ้ม ชายชราผู้ดื้อรั้นทั้งสองนี้ไม่มีใครยอมอ่อนข้อเลยจริงๆ เขานำทางพลางกล่าวว่า

"ทั้งสองท่าน เชิญทางนี้"

.......

ทุกคนมาถึงบนกำแพงเมือง และตรงกลางของสนามในเวิ่งเฉิงก็มีประตูของชู่จวีวางเอาไว้

มีกลองใหญ่วางอยู่ทางด้านซ้ายของสนาม สนามแข่งชู่จวีค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นจึงตีกลองเพื่อเป็นสัญญาณในการเริ่มแข่งขัน เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้ยินเสียงคำสั่ง

ทางด้านขวาของสนามมีโต๊ะและเก้าอี้ที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบพร้อมด้วยชุดชาอันวิจิตรบรรจงอยู่ด้านบน

ทุกคนนั่งลงบนที่นั่งของตน ฉินเหยียนนั่งอยู่ตรงกลางของผังที่นั่งรูปตัวซี ส่วนจ้าวจือหย่ายืนอยู่ด้านหลังเขา

ทางด้านซ้ายคือไท่ฟู่ องค์ชายใหญ่ชินชง และองค์ชายเจ็ดฉินหยู่

ทางด้านขวาคือคณะผู้แทนเจรจาของอาณาจักรจ้าว จ้าวฉี่หมิงและเหล่าทูตผู้มาเยือนกว่าสิบคน

ฉินเหยียนออกคำสั่งกับจ้าวจือหย่าว่า

"เริ่มได้"

จ้าวจือหย่าพยักหน้าและประกาศเสียงดังว่า

"ใต้เท้าทุกท่านโปรดเงียบ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขอเชิญชมการร่ายรำเพื่อทำให้จิตใจของทุกท่านสงบลง"

จ้าวฉี่หมิงตะคอกอย่างเย็นชาว่า

"ชู่จวีก็ชู่จวี ยังจะต้องเล่นอะไรแผลงๆมากมายเช่นนี้เพื่ออะไร"

จ้าวจื่อหย่าเพิกเฉยต่อคำพูดของจ้าวฉี่หมิง และปรบมือสองครั้ง

จากนั้นทั้งสองฟากฝั่งของสนามก็มีหญิงงามกว่าร้อยคนสวมใส่อาภรณ์ที่งดงามเดินย่างก้าวเบาๆทีละก้าวราวกับนางฟ้ามายังกลางสนาม

"พวกเจ้ารังแกกันมากเกินไปแล้ว องค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวของข้าอยู่ในสถานะอันใด ที่อภิเษกสมรสกับอาณาจักรฉินของพวกเจ้าก็เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองอาณาจักร พวกเจ้าไม่เคารพเทิดทูนนางก็แล้วไป แต่ยังให้นางมาร่ายรำท่ามกลางฝูงชน พวกเจ้ามีเจตนาอันใด!"

ไท่ฟู่ก็ไม่คิดว่าสตรีในอาภรณ์สีแดงที่กำลังร่ายรำอยู่อย่างสง่างามนี้จะเป็นองค์หญิงสามของอาณาจักรจ้าว เขาจึงมองฉินเหยียนด้วยความตกใจ

ฉินเหยียนยิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า

"เจ้าเป็นถึงอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรจ้าว คงมิใช่ไม่รู้ว่าอาณาจักรจ้าวแพ้การประลองในงานเลี้ยงตอนกลางคืน และองค์หญิงสามของเจ้าก็กลายเป็นทาสหญิงของข้าหรอกกระมัง"

จ้าวฉี่หมิงย่อมรู้ ทว่าเขาคิดว่าอย่างน้อยอาณาจักรฉินจะเกรงกลัวความแข็งแกร่งของอาณาจักรจ้าว และจะไม่รุนแรงกับองค์หญิงสามมากจนเกินไปนัก

วันนี้เมื่อเห็นไม่คิดเลยว่าอาณาจักรฉินถึงกับกล้าถือว่าองค์หญิงสามผู้สูงศักดิ์ของพวกเขาเป็นทาสหญิงจริงๆ พวกเขาไม่เห็นอาณาจักรจ้าวอยู่ในสายตา จากนั้นเลือดของเขาก็พลุ่งพล่าน เขากัดฟันและกล่าวว่า

"ความไร้ยางอายของชาวฉินวันนี้ข้าได้สัมผัสแล้ว ในเมื่อเป็นการแข่งขันย่อมต้องมีแพ้ชนะ มิสู้พวกเราเดิมพันให้ใหญ่สักหน่อย หากพวกเจ้าแพ้ก็รีบออกจากด่านถงกวานทันทีและไม่กลับมาอีก ทั้งยังต้องปล่อยองค์หญิงสามของพวกเราและถอนหมั้นเสีย เจ้ากล้าเดิมพันหรือไม่!"

ฉินเฉียนพยักหน้าอย่างมั่นใจ

"ทำไมจะไม่กล้า อย่างไรเสียไม่ว่าแพ้หรือชนะสำหรับข้าแล้วก็ไม่มีอะไรเสียหาย"

"หากอาณาจักรจ้าวของพวกเจ้าแพ้ ต้องจ่ายค่าชดเชยด้วยการยกดินแดนให้ต่อไปและส่งบรรณาการมาให้แก่ต้าฉินทุกปี ว่าอย่างไร?"

ก่อนหน้านี้จ้าวฉี่หมิงได้เตรียมการอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทวงคืนด่านถงกวาน เขาจึงตกลงและกล่าวว่า

"ตกลงตามนั้น!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์