ฉินเหยียนลงสนาม บรรดาผู้เล่นในอาณาจักรฉินไม่กล้ามองเขา แต่ต้าซานยังคงรายงานอย่างไม่เกรงกลัวว่า
“องค์ชาย พวกเราแพ้หนึ่งแต้มแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากพูดเช่นนั้นเขาก็ก้มหัวลงด้วยความอับอาย
ฉินเหยียนตบไหล่เขาแล้วพูดว่า
“ยังพอมีโอกาสอยู่ เสียแค่ประตูแรก ค่อยทำแต้มกลับมาก็ยังทัน อย่าได้เสียใจไปเลย”
หลังจากได้ยินคำปลอบใจของฉินเหยียน บรรดาสมาชิกต่างเงยหน้าขึ้น
ฉินเหยียนกล่าวต่อ
“ฟังข้าให้ดี ความร่วมมือระหว่างผู้เล่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ละคนมีความสามารถและทักษะที่แตกต่างกัน ดังนั้นเจ้าต้องมีความยืดหยุ่นและรับมือกับคู่ต่อสู้ที่แตกต่างกัน”
“ใช้กลยุทธ์ที่แตกต่าง ปรับเปลี่ยนรูปแบบ เพิ่มความสามารถของผู้เล่นแต่ละคน เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะเอาชนะได้”
หลังจากได้รับคำแนะนำจากฉินเหยียน สมาชิกต่างกลับมามีความมั่นใจ ราวกับว่าพวกเขาได้กำจัดเมฆที่หม่นหมองออก มองเห็นแสงสว่างตรงหน้าขึ้นมาทันที
ในเมื่ออ๋องเหยียนไม่ยอมแพ้ พวกเขามีเหตุผลอะไรให้ยอมแพ้เล่า หากคิดเสียว่าทั้งหมดนี้ก็เพื่ออ๋องเหยียน เช่นนั้นพวกเขาจะต้องเล่นให้ดียิ่งกว่านี้
พวกเขาเชิดอกขึ้นทันที เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและสัญญาว่า
“อ๋องเหยียนทรงอย่าได้กังวลไปเลยพ่ะย่ะค่ะ พวกเราจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง!”
ฉินเหยียนพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“นี่สิถึงจะเป็นนิสัยของอาณาจักรฉินของพวกเรา แต่ขอย้ำอีกครั้งว่ามิตรภาพต้องมาก่อนการแข่งขัน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ พวกเจ้าแค่ทำให้ดีที่สุด!
“รับทราบ!”
จากนั้นฉินเหยียนก็กลับมายังที่นั่งของตน จ้าวฉี่หมิงพูดอย่างดูถูกขึ้นมาว่า
“คำแนะนำไร้ประโยชน์ เห็นๆ กันอยู่ว่าอาณาจักรฉินของเจ้ายังขาดความร่วมมือ กล้าหาญแต่ไร้ซึ่งแผนการ ต่อให้เก่งเพียงใดก็ไร้ประโยชน์”
ฉินเหยียนยิ้มเบาๆ และเตือนว่า
“ได้ผลหรือไม่นั้นต้องแข่งขันถึงจะรู้คำตอบ”
จากนั้นเขาก็ประกาศเสียงดัง
“การแข่งขันรอบที่สองเริ่มได้!”
ด้วยเสียงกลองดังกึกก้อง การแข่งขันครั้งที่สองจึงเริ่มต้นขึ้น”
ครั้งนี้ฝั่งอาณาจักรจ้าวเป็นผู้เริ่มก่อน หัวหน้าใช้ทักษะการเลี้ยงบอลของเขาหลบหนีคนอื่น
“เล่นได้ดี!”
กลุ่มทูตอาณาจักร้จาวต่างรู้สึกยินดี เชื่อว่าเขาจะต้องชนะการแข่งขันในครั้งนี้อีกแน่นอน
องค์ชายใหญ่ องค์ชายเจ็ดและไท่ฟู่ต่างก็มีเหงื่อซึมและบ่นพึมพำว่า
“โง่จริงๆ ส่งลูกได้โง่มาก!”
“หนีสิ รีบหนี!”
“ไอหย่า โอกาสมีตั้งหลายครั้ง!”
ฉินเหยียนกลับพูดอะไรบางอย่างออกมาแทน
“เล่นได้ดี!”
อาณาจักรปฏิบัติต่อพวกนางอย่างสุภาพ ให้ความเคารพ อีกทั้งยังคิดถึงครอบครัวแทนพวกนาง มีเพียงเจ้านายเช่นนี้เท่านั้นที่พวกนางยอมสละชีวิตให้
กลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวยังคงรักษาภาพลักษณ์ของผู้บังคับบัญชาและสั่งว่า
“ฟังข้าให้ดี ทันทีที่การแข่งขันนี้จบลง กองกำลังหนึ่งแสนนายของอาณาจักรจะเข้ามาสมทบและโจมตีเมือง ในเวลานั้น พวกเจ้าต้องให้ความร่วมมือกับทหารด้านนอก สังหารพวกอาณาจักรฉิน เข้าใจหรือไม่?”
ไส้ศึกหญิงระงับความขุ่นเคืองในใจและพูดพร้อมกันว่า
“รับทราบเจ้าค่ะ!”
กลุ่มทูตอาณาจักรจ้าวยังพูดต่อว่า
“ความพ่ายแพ้ของอาณาจักรฉินนั้นเป็นเรื่องที่คาดการณ์เอาไว้แล้วพวกเจ้าชดใช้ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้วว่าทำได้ดีแค่ไหนในภารกิจนี้ หากพวกเจ้าต้องการมีชีวิตรอด ให้เชื่อฟังคำสั่ง ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกฆ่าตายอย่างไร้ความปรานี!”
หญิงไส้ศึกพยายามไม่ให้พวกเขาได้เห็นสีหน้าของพวกนาง จึงก้มหัวต่ำลงแล้วพูดว่า
“เจ้าค่ะ บ่าวจะทำตามคำสั่ง”
หลังจากได้ยินเช่นนั้นทูตอาณาจักรจ้าวเดินจากไป
“เฮอะ ยังบังคับให้พวกเราทำงานให้อีกหรือ ฝันไปเถอะ!”
“หน้าไม่อาย หากไม่ใช่ว่าต้องแสร้งทำเป็นเชื่อฟังล่ะก็ ข้าอยากจะตบเขาจริงๆ!”
ไส้ศึกหญิงต่างบ่นเกี่ยวกับนิสัยของกลุ่มทูตฝั่งอาณาจักรจ้าว
หญิงไส้ศึกคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า
“นี่ไม่ใช่เวลามาบ่นเรื่องนี้ เราควรรีบแจ้งให้องค์ชายทราบถึงจะถูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...