จ้าวจือหย่าส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา อีกาในใต้หล้าล้วนดำทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยโบราณมาไม่มีบุรุษใดที่ไม่ลุ่มหลงในราคะ
เหตุใดนางจึงตกหลุมรักคนเหลวไหลมากรักเช่นนี้ได้นะ!
ดวงตาของฉินเหยียนยื่นยาวจนแทบจะไปถึงร่างของจ้าวจีเอ๋อร์ และสายตาของเขาก็จ้องมองจ้าวจีเอ๋อร์อย่างไม่วางตา
จวบจนกระทั่งจ้าวจีเอ๋อร์นั่งลงแล้วสายตาของทั้งคู่จึงประสานกัน
ฉินเหยียนมิได้มองดูหญิงงามจริงๆ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกใจสั่นระรัว เมื่อสบตากันในใจก็เต้น'ตึกตัก'
ความช่ำชองของเขาบอกเขาว่าสตรีผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
อย่าเห็นแต่เพียงว่างามล่มเมือง แท้จริงแล้วภายในกลับเป็นสตรีที่โหดเหี้ยมและร้ายกาจ!
คณะทูตที่อยู่ข้างๆจ้าวจีเอ๋อร์นั้นแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา
หลังจากที่พวกเขาแต่ละคนนั่งลง แม้ว่าจะไม่มีการสื่อสารด้วยวาจาแต่พวกเขาก็สบตากันและในมือของพวกเขาก็มีการเคลื่อนไหวซึ่งคนทั่วไปมิอาจสังเกตเห็นได้ง่าย
ในบางครั้งใช้มือเช็ดจมูก ยกมือขึ้นคลำหู และใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะจัดเลี้ยงให้ดูเหมือนมิได้ตั้งใจ
การเคลื่อนไหวเหล่านี้เหมือนกับรหัสมอร์ส พวกเขากำลังสื่อสารด้วยวิธีที่ละเอียดอ่อนเพื่อมิให้ชาวฉินสังเกตเห็น
ฉินเหยียนทำงานในสำนักงานความมั่นคงมาหลายปีแล้ว ในฐานะสายลับชั้นยอดเมื่อมองดูก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นประเภทเดียวกับตนและเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวดระวัง
งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ถูกกำหนดมามิให้สงบสุข
"ฮ่องเต้ฉินเสด็จ!"
เมื่อขันทีประกาศทำให้เสียงสนทนาที่อื้ออื่นในท้องพระโรงหยุดทันที ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นยืนและถวายความเคารพ
"ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปีพะยะค่ะ!"
"ทุกคนลุกขึ้น"
ความน่าเกรงขามของฮ่องเต้ฉินแผ่ออกมา เขานั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรในท้องพระโรงด้วยพระพักตร์ที่สง่างาม
"คณะทูตของอาณาจักรจ้าวตามสบาย วันนี้เป็นวันมงคลเนื่องในโอกาสการอภิเษกสมรสระหว่างองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรต้าฉิน เริ่มงานเลี้ยงได้"
หลังจากตรัสจบเหล่านางกำนันที่สวมชุดเครื่องแบบก็ก้มศีรษะลง และยกอาหารและสุราไปวางไว้บนโต๊ะจัดเลี้ยงของแต่ละคน
ในสายตาของฉินเหยียนมีอาหารอันโอชะที่ใดกัน โรคบ้างานกำเริบแล้ว เขาจ้องมองไปที่คณะทูตของอาณาจักรจ้าวพลางสังเกตการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของพวกเขาและวิเคราะห์อยู่ในใจ
ฉินเหยียนในเวลานี้คล้ายจะกลับไปสู่สมรภูมิรบของเขาเองแล้ว
สิ่งนี้เหมือนกับการยืนหยัดอย่างเงียบๆของสายลับชั้นยอด
ในขณะที่กำลังมองอย่างใจลอยนั้นเอง จู่ๆเสียงระฆังของคณะดนตรีที่อยู่ด้านหลังเขาก็ดังขึ้น
"ตึง"
ขนของฉินเหยียนลุกชันด้วยความตกใจจนเกือบจะล้มโต๊ะจัดเลี้ยง
"ปัดโธ่เอ๋ย ทำอะไรนะ!"
เขายกมือขึ้นแล้วตบไปบนศีรษะของนักดนตรีที่ตีระฆัง
"เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจสิ ข้าตกใจหมดเลย!"
หลังจากที่นักดนตรีตีระฆังถูกฉินเหยียนตบศีรษะ เขาก็ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"นี่!"
"ตบหัวเจ้าสิ ไสหัวไป!"
ฉินเหยียนจัดแจงเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่ จากนั้นจึงหยิบจอกสุราขึ้นมาและดื่มรวดเดียวจนหมด
เฮ้อ สุรานี้เหตุใดจึงรสเบาถึงเพียงนี้ ช่างไม่มีรสชาติเอาเสียเลย
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้สีหน้าของฮ่องเต้ฉินก็เปลี่ยนไปทันที
สายตาของเหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ในท้องพระโรงต่างก็เต็มไปด้วยความสงสัยและอดไม่ได้ที่จะกระซิบ
"ว่าอย่างไรนะ คัดลอกมาหรือ?"
"ถึงว่าในนี้มีอะไรแปลกๆอยู่ องค์ชายสิบสี่นะหรือจะสามารถเขียนบทกวีเช่นนี้ออกมาได้ เชื่อก็บ้าแล้ว"
"นี่ทำให้ต้าฉินของพวกเราอับอายขายขี้หน้าจนถึงที่สุด เฮ้อ!"
ฮ่องเต้ฉินไม่พอพระทัยจึงตรัสถามว่า
"คัดลอกบทกวี? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"
จ้าวจีเอ๋อร์จึงกล่าวว่า
"เพลงวารีเคลื่อนคล้อยเพลงนั้นที่มีแนวคิดทางศิลปะในอดีตอันยาวนานและเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสของบทกวีที่องค์ชายสิบสี่ทรงคัดลอกมา เป็นบทกวีของอาณาจักรจ้าวของหม่อมฉัน แน่นอนว่าการที่บทกวีของอาณาจักรจ้าวของหม่อมฉันสามารถเป็นที่นิยมในต้าฉินได้ย่อมเป็นเกียรติยศของอาณาจักรจ้าวเพคะ"
ใบหน้าของฮ่องเต้ฉินมืดครึ้มหาได้เปรียบ เมื่อครู่ยังยกย่ององค์ชายสิบสี่ว่ามีความสามารถไม่เป็นสองรองใคร ไม่คิดเลยว่าจะถูกหักหน้าเร็วถึงเพียงนี้
"คำพูดลอยๆไม่มีหลักฐาน เจ้ากล่าวว่าบุตรชายคนที่สิบสี่ของข้าลอกบทกวีของอาณาจักรจ้าว เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?"
แม้ว่าจะคัดลอกมาจริงๆแต่คำพูดลอยๆไม่มีหลักฐาน เพื่อศักดิ์ศรีของต้าฉินจะยอมรับไม่ได้เป็นอันขาด
จ้าวจีเอ๋อองค์หญิงสามแห่งอาณาจักรจ้าวยิ้มเล็กน้อย
"บทกวีนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของเหวินเจิ้งหมิงนักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในอาณาจักรจ้าวมานานแล้ว ที่ข้าพูดนั้นถูกต้องกระมัง?"
คณะทูตของอาณาจักรจ้าวต่างก็เห็นด้วย
ในหมู่พวกเขามีชายชราผมขาวที่มีรูปร่างหน้าตาสง่างามและเย่อหยิ่งกล่าวว่า
"เมื่อใดจะมี จันทรากระจ่าง ยกจอกสุราขึ้นถามนภา มิรู้พระราชวังแห่งสวรรค์ ค่ำนี้คือปีใด เพลงวารีเคลื่อนคล้อยนี้เป็นเพลงที่กระหม่อมประพันธ์พะยะค่ะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...