องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 251

เมื่อเด็กชายลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาต้องตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า

มีกลุ่มคนหน้าตาน่ากลัวมากหน้าหลายตา รูปร่างกำยำล่ำสัน ล้อมอยู่รอบตัวเขา

เด็กชายถามอย่างหวาดกลัวว่า

“เจ้า พวกเจ้าเป็นใคร มาจากที่ไหนกัน?”

พวกชายฉกรรจ์ไม่ตอบ แต่กลับเคลื่อนตัวกระจายออกไปทั้งสองฝั่ง มีชายร่างสูงเดินออกมา

คนนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหัวหน้าโจรป่า สือเหล่ย

สือเหล่ยนำชามน้ำขิงมาให้เด็กน้อยและพูดอย่างเป็นกังวล

“นี่น้ำขิง รีบดื่มเถิด ร่างกายของเจ้าจะได้อุ่นขึ้น”

เด็กชายรับชามน้ำขิงด้วยความตกใจ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว เขาก็ยกชามขึ้นมาดื่ม “อึกอึก”

สือเหล่ยพูดต่อ

“เจ้าโชคดีมากเจ้าเด็กน้อย เจ้าลอยอยู่ในน้ำนานมาก ข้าคิดว่าเจ้าคงตายไปแล้ว ว่าแต่เจ้าชื่ออะไรหรือ? บ้านอยู่ที่ใดหรือ?”

หลังจากที่ดื่มน้ำขิงลงท้อง ความกังวลและความกลัวในใจของเด็กชายลดลงมาก เขาเช็ดปากแล้วพูดว่า

“ข้าชื่อหลี่ชาง เป็นชาวอาณาจักรจ้าว เมืองอวิ๋นเฉิง”

สือเหล่ยพยักหน้าและพูดว่า

“ชื่อจำง่ายดีจริงเชียว แล้วเจ้าตกลงไปในแม่น้ำได้อย่างไร?”

ทันทีที่เขาถามออกไปภาพเหตุการณ์เมื่อคืนพลันแวบเข้ามาในความคิดทันที

เสียงกรีดร้องของแม่ดังก้องซ้ำๆ ในความคิดของหลี่ชาง

น้ำตาไหลลงมา พร้อมกับเสียง “ฮึกฮึก” สะอึกสะอื้น พูดออกมาว่า

“ข้าถูกตามฆ่า เพราะท่านแม่ต้องการช่วยชีวิตข้า ถูกพวกมัน... ฮือฮือ!”

ภาพการจากลาของเขากับแม่ยังคงชัดเจนอยู่ในใจ เด็กน้อยร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

สือเหล่ยอ้าแขนโอบกอดหลี่ชางเอาไว้และปลอบโยนว่า

“ร้องออกมาเจ้าเด็กน้อย ร้องออกมาให้หมดนะ”

เด็กชายสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นร้องไห้ออกมาเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าในอนาคตจะอยู่อย่างไร หรือต้องไปที่ใด เขามีที่ให้ระบายความเกลียดชัง ความโกรธแค้นของเขาออกมาเลย เขาต้องการแก้แค้นพวกข้าราชสำนักและทหารชาติชั่วพวกนั้นให้ตายเสีย!

หลี่ชางเงยหน้าขึ้นทันที หยิบเหรียญออกมาและถามทั้งน้ำตา

“พวกเจ้าช่วยข้าแก้แค้นได้หรือไม่ ขอเพียงแค่พวกเจ้าจัดการฆ่าบรรดาข้าราชสำนักและทหารชั่วพวกนั้น ข้ายินดีที่จะมอบสิ่งนี้เป็นรางวัล”

สือเหล่ยมองไปยังเหรียญหยกในมือของเด็กชาย สายตาของเขาเปลี่ยนไปในทันที และถามอยางจริงจัง

“คิดอยากแก้แค้น ย่อมทำได้อยู่แล้ว แต่เจ้าเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ข้าฟังอย่างละเอียดเสียก่อน”

...

เมืองใหม่

จวนเจ้าเมือง

ฉินเหยียนยืนอยู่ข้างหน้าต่างยืนชมดวงจันทร์ องครักษ์เงาได้ปรากฏตัวขึ้นเงียบๆ จากด้านหลังเขาละรายงานว่า

“กราบทูลรายงานต่ออ๋องเหยียน อาณาจักรจ้าวกำลังรับสมัครทหารเพื่อเตรียมเข้าไปปราบโจรป่าที่ภูเขาเพื่อแก้ไขปัญหาในเมืองขอรับ”

“ตอนนี้มีคำสั่งออกมาแล้ว โดยแต่งตั้งนายพลหยางจิ่นซิ่วให้เป็นแนวหน้าในการปราบปรามโจรป่า มีคำสั่งให้กลับไปยังเมืองหลวง คาดว่าอีกไม่กี่วันหยางจิ่นซิ่วคงได้รับคำสั่งนี้ขอรับ”

เมื่อจ้าวจีเอ่อร์เห็นว่าฉินเหยียนมาถึงแล้ว รีบลุกขึ้นทำความเคารพ ฉินเหยียนจับมือนางและดึงนางไปยังโต๊ะกินข้าว

“ข้าไม่เจอเจ้ามาหลายวันแล้ว อาการบาดเจ็บของเจ้าดีขึ้นหรือยัง?”

จ้าวจีเอ๋อร์พนักหน้าอย่างนอบน้อม

“ข้าคิดว่ารอยแผลจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้เสียแล้ว ไม่คิดว่ายาที่ท่านให้จะให้ผลดีเช่นนี้ ตอนนี้เหลือเพียงรอยแดงจางๆ เท่านั้นเจ้าค่ะ”

ฉินเหยียนพูดเบาๆ

“ใช้ต่อไปเถิด รอยแดงของเจ้าจะหายไป”

“เจ้าค่ะ”

ขณะที่หยางจิ่นซิ่วไม่พอใจ เมื่อเห็นทั้งสองกำลังจับมือกัน นางทั้งอายและโกรธ

นางนั่งอยู่อีกฝั่งของจ้าวจีเอ๋อร์ด้วยความไม่พอใจ เจ้าวายร้ายคนนี้กล้าพูดจาหวานๆ เพื่อเกลี้ยกล่อมองค์หญิงสามของข้าอีกแล้ว!

ฉินเหยียนเหลือบมองไปที่หยางจิ่นซิ่ว และพูดกับจ้าวจีเอ๋อร์เบาๆ ว่า

“เจ้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่หรือไม่ ข้าให้ห้องครัวเตรียมอาหารมาให้แล้ว เป็นอาหารที่บำรุงเลือดและพลังลมปราณให้แก่เจ้า”

หลังจากพูดเช่นนั้น เขาพลันตบมือสองครั้ง

หญิงรับใช้เข้ามาพร้อมกับกล่องอาหาร เปิดฝาออกมาเผยให้เห็นอาหารเลิศรสมากมาย

หญิงรับใช้วางลงบนโต๊ะและแนะนำทีละอย่า

“นี่คือหูฉลามดอกหมื่นลี่ นี่คือเป็ดตุ๋น หน่อไม้หลงจิ่ง เหมยแดงหอม หมูย่างและหมูอบ…”

อาหารทุกจานนั้นล้วนแต่ตกแต่งอย่างประณีตและส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วห้อง จ้าวจีเอ๋อร์ที่รู้อยู่แล้ว ไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก แต่ในทางกลับกัน หยางจิ่นซิ่วกลัวน้ำลายไหลออกมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์