องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 287

ฉินเหยียนก้าวออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว ภายใต้สายตาของทุกคนเขาคุกเข่าลงพลางประสานมือและกล่าวว่า

"ข้าน้อยฉินเหยียน รับราชโองการพะยะค่ะ!"

ขันทีผู้ดูแลกิจการภายในพระราชวังใช้ท่าทีที่หยิ่งยโส และอ่านราชโองการด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูแคลน

"ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา ให้สามัญชนฉินเหยียนรีบกลับเมืองหลวงทันทีอย่าได้ชักช้า หากฝ่าฝืนราชโองการให้ลงทัณฑ์ทันที!"

องครักษ์ส่วนพระองค์ที่มาพร้อมกับราชโองการจับด้ามดาบไว้แน่น หากฉินเหยียนกล้าที่จะแสดงท่าทีฝ่าฝืนใดๆพวกเขาก็จะไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะชักดาบออกมาและประหารฉินเหยียนทันที

ชาวบ้านต่างร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือด นี่ฮ่องเต้ฉินคิดจะกำจัดอ๋องเหยียนให้สิ้นซาก!

ฉินเหยียนฝืนยิ้มอย่างจนปัญญาพลางประสานมือ และกล่าวเสียงดังว่า

"ข้าน้อยรับราชโองการ ขอบพระทัยฝ่าบาทพะยะค่ะ!"

ขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังยื่นพระราชโองการให้ฉินเหยียนพลางชี้ไปที่รถม้าที่อยู่ไม่ไกล และกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกๆว่า

"รถม้าพร้อมแล้วจงรีบขึ้นรถทันทีและตามข้ากลับเมืองหลวง หากมัวแต่ชักช้าเจ้ามีกี่หัวก็รับผิดชอบไม่ไหว!"

ฉินเหยียนยืนขึ้นโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ และกล่าวว่า

"ทำให้กงกงลำบากใจแล้ว ให้ข้าได้บอกลาชาวบ้านเสียก่อนแล้วก็จะไป"

ขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังสะบัดแส้ และกล่าวอย่างดูแคลนว่า

"มีอะไรก็รีบพูด!"

ฉินเหยียนหันกลับไปกวาดตามองชาวบ้านที่เศร้าโศก และกล่าวอย่างจริงจังว่า

"ข้าฉินเหยียนขอขอบใจในความรักที่ชาวประชานับแสนมอบให้ จากกันวันนี้ภูเขาอันสูงใหญ่สายนทีอันยาวไกล ต่อจากนี้ไปขอให้ทุกคนโปรดรักษาตัวด้วย!"

เมื่อกล่าวจบเขาก็โค้งคำนับให้แก่ชาวบ้านในเมืองใหม่

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของทุกคน พวกเขาต่างคุกเข่าลงและกล่าวว่า

"ท่านอ๋อง โปรดรักษาตัวด้วยพะยะค่ะ!"

ท่ามกลางความมืดชาวบ้านทั่วทั้งเมืองต่างร้องไห้คร่ำครวญ และเมืองใหม่ทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเศร้ารันทด

หลังจากนั้นฉินเหยียนก็ยืดตัวขึ้น และขึ้นรถม้าไปโดยไม่หันกลับมามอง

จ้าวจือหย่าและจ้าวจีเอ๋อร์เช็ดน้ำตาแล้วเดินตามฉินเหยียนเข้าไปในรถม้า

ขันทีผู้ดูแลกิจการในพระราชวังจึงออกคำสั่งว่า

"รีบกลับเมืองหลวง!"

คนขับรถม้ายกแส้ขึ้นทันทีและออกเดินทาง องครักษ์ส่วนพระองค์ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน

ชาวบ้านต่างก็อาลัยอาวรณ์ฉินเหยียนจึงติดตามรถม้าของเขาไปเพื่อส่งเขาออกเดินทาง

การส่งครั้งนี้ใช้เวลาตั้งแต่ฟ้ามืดจนถึงฟ้าสว่าง

แสงอาทิตย์สาดส่องมายังพื้นโลกในเวลาเช้าตรู่

ด้านหน้าคือขบวนรถของราชวงศ์ และด้านหลังมีชาวบ้านจำนวนมากมาย

"ทำบ้าอะไรกัน ตามมาหลายชั่วยามแล้ว ผู้ที่รู้ก็คือพวกเรากำลังกลับเมืองหลวง ผู้ที่ไม่รู้ยังจะนึกว่าส่งศพ ร้องไห้ระงมตลอดทาง ช่างอับโชคเสียจริง"

ผู้นำองครักษ์ส่วนพระองค์ซึ่งขี่ม้าตัวเขื่องพึมพำด้วยความโกรธ

ขันทีผู้มาถ่ายทอดราชโองการก็ไม่พอใจเช่นกัน เขาจึงสั่งให้หยุดรถเพื่อพักผ่อนในขณะเดียวกันเขาก็มาที่รถของฉินเหยียน และกระแอมในลำคอ

พวกเขาแต่ละคนต่างก็พาครอบครัวและสัมภาระมาด้วย เมื่อองครักษ์ส่วนพระองค์มาถามต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากำลังจะกลับเมืองหลวงเพื่อไปเยี่ยมญาติ กลับบ้านเกิด ปลดอาวุธกลับทุ่งนา และอื่นๆ

คำอ้างเช่นนี้คงจะใส่ร้ายว่าเป็นกบฏไม่ได้กระมัง

ในทางกลับกันทำให้ผู้ที่มีเจตนาชั่วร้ายหมดข้ออ้างที่จะหาเรื่อง

ตลอดทางหลังจากนี้ชาวบ้านที่ร่วมทางเหล่านี้เกรงว่าฉินเหยียนจะกินอยู่ไม่ดี ตราบใดที่หยุดรถพักผ่อนพวกเขาก็จะจุดไฟเพื่อทำอาหารและนำไปให้แก่อ๋องเหยียน ทั้งยังคงปรนนิบัติตามกฎระเบียบในการดูแลอ๋อง

ไม่เพียงแค่นั้นคนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเหล่าองครักษ์ลับที่ติดตามเขาเหมือนเงา และคอยป้องกันความปลอดภัยของฉินเหยียน

ทุกคนล้วนปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างสุดความสามารถเพื่อปกป้องฉินเหยียน

การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาสิบกว่าวัน

เมื่อเห็นว่ากำลังจะถึงเมืองหลวงแห่งอาณาจักรฉินแล้ว ฉินเหยียนจึงลงจากรถม้าและกล่าวกับผู้ที่ติดตามมาว่า

"ทุกท่านติดตามข้ามาตลอดทางทำให้ข้าซาบซึ้งนัก"

"ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกรา ทุกคนแยกย้ายกันไปเถิด!"

แม้ว่าทุกคนจะยังอาลัยอาวรณ์แต่ก็มิอาจปล่อยให้ฉินเหยียนตกอยู่ในอันตรายอีกครั้งเพราะพวกเขา

ชาวบ้านต่างก็คุกเข่าลงอย่างพร้อมเพียงกันด้วยน้ำตานองหน้าและกราบสามครั้งคำนับเก้าครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณฉินเหยียนสำหรับบุญคุณของเขา

ทุกคนลุกขึ้นแยกย้ายกันไป จากกันวันนี้ไม่รู้จะได้พบกันเมื่อใด

มีเพียงทหารผู้ปกป้องชายแดนทั้งสี่ซึ่งก็คือจาง หวาง หลี่ และจ้าวที่ไม่เคยจากไป พวกเขายังคงขี่ม้าตัวเขื่องและยืนหยัดปกป้องรอบๆรถม้าของฉินเหยียนอย่างแน่นหนา

ฉินเหยียนขมวดคิ้วพลางถามว่า

"เหตุใดพวกเจ้าทั้งสี่จึงยังไม่ไป อยากตายหรืออย่างไร?".

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์