องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 305

หออี๋หง

ภายในหอสว่างไสว อีกทั้งยังมีแขกมากมาย ทำให้บรรยากาศข้างในครึกครื้นและมีชีวิตชีวา

รถม้าของฉินเหยียนมาที่ประตูหลังของหออี๋หง เขาสวมหมวกไม้ไผ่ปิดหน้าเพื่อไม่ให้ใครจำเขาได้ เขามองไปรอบๆ อย่างระมัดระวังก่อนลงจากรถม้า

ต้าหย่งเตือนว่า

“อ๋องเหยียนไม่ต้องกังวลขอรับ วันนี้ภายในหออี๋หงไม่มีคนนอก แขกที่มาในวันนี้ล้วนเป็นคนของเราทั้งหมด บรรดาพี่น้องช่วยสอดส่องทั้งหน้าประตูและตามถนนให้แล้วขอรับ”

ฉินเหยียนพยักหน้า จากนั้นถอดหมวกไม้ไผ่ออกแล้วเดินเข้าไปในอาคาร

ไม่ว่าเขาจะเดินไปทางใด บนผู้คนบนถนนไม่ว่าชายหรือหญิง ทุกคนต่างก้มศีรษะเพื่อแสดงความเคารพ

ฉินเหยียนทำตามคำแนะนำของบริกรเดินไปถึงห้องท้องฟ้าหมายเลขหนึ่ง

นี่คือห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในหออี่หง มีหญิงรับใช้รออยู่ก่อนแล้ว มีเครื่องดื่มวางอยู่บนโต๊ะเพื่อรอให้ฉินเหยียนมาถึง

ฉินเหยียนนั่งลงในห้องตรงที่นั่งหลัก

บรรดาทหารส่วนพระองค์ละทิ้งความอวดดี คุกเข่าลง

“อ๋องเหยียนทรงพระเจริญ”

“ขอให้อ๋องเหยียนพบเจอแต่เรื่องสงบสุข!”

ทั้งห้องคุกเข่าลง

ฉินเหยียนสั่ง

“ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองมาก นี่เป็นเรื่องสำคัญ เรียกนักเรียนทั้งสิบสามคนให้เข้ามาพบข้าเสียก่อน”

“รับทราบ”

หลังจากนั้นไม่นาน นักเรียนทั้งสิบสามคนก็เข้ามาในห้องและคุกเข่าลงเพื่อถวายความเคารพ

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนขอรับ ขอให้อ๋องเหยียนทรงพระเจริญ!”

ฉินเหยียนโบกมือแล้วพูดว่า

“ลุกขึ้นมาเถิด”

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียน!”

ฉินเหยียนหยิบถ้วยชาขึ้น แล้วเอ้ยปากพูดว่า

“ตอนนี้พวกเจ้าได้แฝงตัวเข้าไปในตระกูลขุนนางและข้าราชสำนักทั้งหลาย ตอนนี้รู้หรือยังว่าจุดประสงค์คืออะไร?”

นักเรียนทั้งสิบสามคนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น พูดพร้อมกันว่า

“ข้าน้อยต้องซ่อนตัว ปกปิดตัวตนที่แท้จริง รอเวลาที่จะเคลื่อนไหว เมื่อถูกรังแก ก็ต้องรับมือและอดทน คอยตรวจสอบคนอื่น เมื่อพบเจอความผิดจะต้องไม่ไปบอกคนอื่น เมื่อตรวจพบคนมีเล่ห์เหลี่ยมห้ามแสดงความไม่พอใจ ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก!”

หลังจากได้ยินคำตอบของนักเรียน ฉินเหยียนพลันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ดีมาก พวกเจ้าเข้าใจหลักพวกนี้ก็จะสามารถป้องกันตัวเองได้ พวกเจ้าต้องซ่อนตัวให้ถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พวกเจ้าถึงจะเข้ารอบ”

“ตอนนี้ในราชสำนักอาณาจักรฉินนั้นเต็มไปด้วยเหตุร้าย รอให้พวกเจ้าได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นั้นขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้วว่าจะนำพาความสงบมาสู่ราชสำนักได้หรือไม่”

นักเรียนทั้งสิบสามคนตื้นเต้นกับคำพูดของอ๋องเหยียน พวกเขาโค้งคำนับและประสานมือพูดพร้อมกันว่า

“พวกเราสาบานว่าจะรับใช้อ๋องเหยียนจนวันตายและไม่มีวันทำให้อ๋องเหยียนต้องผิดหวังขอรับ!”

ฉินเหยียนมองไปที่นักเรียนที่มีความตั้งใจมากเช่นนี้ ความเชื่อมั่นในใจพลันแข็งแกร่งขึ้น

“อ๋องเหยียน ข้ารู้อยู่แล้วว่าแม่ของข้าสละชีวิตเพื่อความยุติธรรม และการเสียสละของนางก็คุ้มค่า”

“พ่อแม่ของข้าทั้งคู่ต่างสละชีวิติเพื่ออาณาจักร พวกเขาเป็นแบบอย่างให้ข้า ดังนั้นข้าจะเดินตามรอยพวกเขาเจ้าค่ะ”

ฉินเหยียนรู้สึกตกใจในใจ ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เพิ่งจะอายุสิบหกปี สามารถพูดจาชอบธรรมเช่นนี้ออกมาได้ ทำให้เขาประทับใจมาก

แต่พ่อแม่ของนางได้เสียสละชีวิตเพื่ออาณาจักรนี้แล้ว ฉินเหยียนไม่อยากให้นางต้องทนทรมานกับชะตากรรมเช่นนี้ จึงพูดออกไปอย่างจริงใจว่า

“เจ้าเป็นสายเลือดเพียงคนเดียวของตระกูลฉี อย่าเข้าไปเสี่ยงเลยได้หรือไม่ ข้าขอสัญญา ข้าจะหาครอบครัวที่ดีให้แก่เจ้า ให้เจ้าใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเหมือนคนธรรมดา”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์โค้งคำนับและขอบคุณ จากนั้นปฏิเสธ

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียน หม่อมฉันซาบซึ้งในน้ำพระทัยของท่าน ข้าเกิดมาบนความทุกข์ ข้าจะตายอย่างมีความสุขได้อย่างไรกัน”

“อย่าพยายามโน้มน้าวข้าเลย ข้าตัดสินใจแล้ว ตระกูลฉีของข้าโชคดีมากแล้วที่ได้ทำคุณประโยชน์ต่อประชาชนในใต้หล้านี้!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์คุกเข่าลงพร้อมกับประสานมือรายงานว่า

“ข้าจะบุกน้ำลุยไฟเพื่ออ๋องเหยียน ข้าจะทำทุกอย่าง”

ฉินเหยียนมองไปที่ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ที่เด็ดเดี่ยว โดยรู้ดีว่าเขาไม่มีทางโนม้น้าวใจนางได้

เขายกแก้วเหล้าขึ้นอย่างหมดหนทาง เหลืองมองไปยังหญิงสาวทุกคนแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า

“ข้า ฉินเหยียน ขอดื่มอวยพรให้พวกเจ้า!”

หญิงสาวต่างรู้ว่าทางข้างหน้านั้นคดเคี้ยวเพียงใด แต่เพื่อประเทศชาติ พวกนางจึงไม่ลังเลและไม่เสียใจ จากนั้นดื่มเหล้าเพื่อเป็นการตอบรับ

หลังจากดื่มแล้ว หญิงสาวเหล่านั้นออกจากห้องไป ต้าหย่งเข้ามารายงานเพียงลำพังว่า

“องค์ชาย ข้าน้อยไม่อยากจะเชื่อเลยขอรับว่ามีคนนับหมื่นเดินทางมาจากเมืองใหม่ พวกเขาเต็มใจที่จะบุกน้ำลุยไฟไปพร้อมกับพระองค์ เนื่องจากมีคนจำนวนมากเกินไป ข้าน้อยไม่สามารถแนะนำทีละคนได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์