องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 322

“ในสมัยโบราณ พ่อค้าเกลือทางตอนเหนือและทางตอนใต้ของแม่น้ำหวายเหอถือได้ว่าเป็นคนร่ำรวย มีชีวิตที่หรูหราเทียบเท่าได้กับเชื่อพระวงศ์ มีอำนาจและยึดติดกับความหรูหราของตนเอง พวกเขายังสนับสนุนผู้หญิงจำนวนมาก จัดการสอรส่วนตัวเพื่อสอนผู้หญิงให้รับใช้ผู้ชาย หลังจากสำเร็จการสอนแล้ว พวกเขาจะมอบหญิงเหล่านี้ให้กับบรรดาขุนนางหรือไม่ก็พวกคนรวย เรียกว่า “เลี้ยงม้าผอม”

ฉินเหยียนพูดเต็มไปด้วยอารมณ์ว่า

“หญิงม้าผอมนั้นถูกคัดเลือกมาอย่างดีจากบรรดาผู้ลี้ภัย พวกนางได้รับการสอนด้านการบริหารเสน่ห์มาตั้งแต่ยังเด็ก”

“ไม่สอนด้านอื่นๆ ให้กับพวกนาง จะสอนแค่วิธีการเอาอกเอาใจผู้ชาย เพื่อที่ว่าพวกนางโตขึ้นจะได้ถูกขายให้กับบรรดาขุนนางในฐานะนางสนม”

“และนางสนมเหล่านี้มีความสามารถเข้าใจเรื่องระหว่างชายและหญิง หลังจากที่ถูกส่งเข้าไปยังราชสำนักแล้ว ภายนอกดูเหมือนว่านางเป็นแค่นางสนมของขุนนางระดับสูงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วมีคนที่ควบคุมนางอยู่เบื้องหลัง”

“ไม่ว่าจะเป็นเพื่อส่งข่าวกรอง เป็นตัวกลางในการวางแผนกับฝ่ายอื่น นั่นคือจุดประสงค์หลักของ “ม้าผอม”

ทันใดนั้นทั้งสามคนต่างตระหนักได้ จางอวิ๋นซูพูดออกมาโดยไม่รู้ว่า

“ความหมายขององค์ชายนั่นก็คือ รายชื่อผู้หญิงในสมุดของไท่ฟู่ คือ “ม้าผอม” อย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจัง

“สิ่งที่ไท่ฟู่ทำนั้นเลวร้ายเสียยิ่งกว่าม้าผอมหยางโจวเสียอีก”

ขณะที่พูด เขาก็ชี้ไปที่สมุดบัญชีเก่าที่อยู่ตรงหน้า แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มว่า

“หลังจากที่พวกเราเลี้ยงดูหญิงสาวเหล่านั้นแล้ว ทุกคนล้วนสร้างสถานะปลอมขึ้นมา ส่งตัวให้เข้าไปเป็นนางสนมในจวนของเจ้าหน้าที่ในราชสำนัก”

“ทั้งเมืองหลวงอาณาจักรฉิน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับหนึ่งไปจนถึงระดับเจ็ด ต่างมีนางสนมอยู่ด้วยทั้งสิ้น

“หากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง จะถูกตัดมือจัดเท้า เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อขู่บรรดาหญิงสาวให้เชื่อฟังเขา”

“ด้วยวิธีนี้ ม้าผอมในราชสำนัก หากได้ยินข่าวคราวที่ไม่ดีต่อไท่ฟู่ พวกนางจะบอกต่อกันทันที นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตใดไท่ฟู่ถึงกล้าเชิดหน้าชูตาในราชสำนักได้”

หลังจากได้ยินเช่นนั้น พวกเขาทั้งสามสูดหายเข้าลึกๆ องค์ชายเจ็ดฉินวี่ส่ายหัวแล้วพูดว่า

“ไม่คาดคิดว่าไท่ฟู่จะเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่มีเล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้”

ฉินเหยียนพูดอย่างครุ่นคิด

“ดูจากระยะเวลาของสมุดรายชื่อนี้แล้ว เขาได้วางแผนมานานกว่าสี่สิบปี การที่จะถอดรากถอนโคนเขาให้หมดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”

จางอวิ๋นซูถามอย่างเป็นกังวลใจ

“ไม่มีทางฆ่าเขาได้เลยหรือเจ้าคะ?”

องค์ชายเจ็ดฉินอวี่กล่าวว่า

“เรามีหลักฐานเหล่านี้อยู่ในมือแล้ว เราจะหาวิธีส่งต่อให้เสด็จพ่อทราบว่าเขายังไม่ตาย!”

ฉินเหยียนส่ายหน้าปฏิเสธ

“เสด็จพ่อของเราเป็นคนขี้ระแวงและช่างสงสัย พี่คิดว่าด้วยชื่อของเราสองคนนำสมุดนี้ส่งไปให้เสด็จพ่อ เขาจะคิดเช่นไร?”

องค์ชายเจ็ดฉินวี่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น แล้วพูดด้วยความกลัว

“เขาต้องคิดว่าพวกเรากำจัดไท่ฟู่”

ฉินเหยียนพยักหน้าและพูดต่อ

“ความจริงเป็นเช่นนี้ จุดประสงค์ของเราคือต้องการให้ไท่ฟู่ตาย”

“หลักฐานส่งเข้าไปในวัง แต่ห้ามเปิดเผยชื่อของพวกเรา ต้องยืมมีดคนอื่นวิธีนี้ถึงจะได้ผล”

ฉินเหยียนหันกลับมาและสั่งทันที

“ทหาร ตีงูต้องตีให้สยบ เราหลอกล่อไท่ฟู่ก่อน ให้เขาได้ลิ้มลองดู!”

ฉินเหยียนมอบหลักฐานทั้งหมดให้ต้าหยาง

“รับทราบ!”

ต้าหย่งรับมา จากนั้นหันหลังจากไปทันที

นางกำนัลคุกเข่าลง ก้มศีรษะและพยักหน้า

“เพื่อร่างกายของท่าน หม่อมฉันยินดียอมรับโทษเจ้าค่ะ!”

ฮ่องเต้ฉินมองนางกำนัลคนนี้ด้วยความสนใจ มองอย่างพินิจพิเคราะห์ และพูดอย่างจริงจังว่า

“ใครสอนให้เจ้าทำเช่นนี้?”

นางกำนัลก้มศีรษะ ในมือถือชามยาไม่กล้าตอบ ราวกับว่านางกำลังปิดบังอะไรอยู่

ฮ่องเต้ฉินกล่าวด้วยเสียงทุ้ม

“ทำให้ข้าขุ่นเคืองใจ เจ้ายังไม่กลัวข้า เหตุใดตอนนี้ถึงได้กลัวขึ้นมา ตอบเรามาเดี๋ยวนี้!”

สีหน้าของนางกำนัลแข็งทื่อไปครู้หนึ่ง จากนั้นกัดฟันพูดว่า

“กราบทูลต่อฝ่าบาท ไท่ฟู่สอนหม่อมฉันเจ้าค่ะ”

ฮ่องเต้ฉินยิ้มอย่างเย็นชา

“เจ้าคือหญิงงามที่ไท่ฟู่ส่งเข้ามาในตำหนักใช่หรือไม่?”

นางกำนัลประสานมือทันที

“หม่อมฉันมีชื่อว่า ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ เป็นลูกสาวทหาร พ่อและแม่ของข้าสละชีวิตเพื่ออาณาจักรนี้ ต่อมาไท่ฟู่รับเลี้ยงหม่อมฉันในฐานะลูกสาวบุญธรรมและสอนหม่อมฉัน...”

นางหยุดกลางคัน ฮ่องเต้ฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า

“พูดต่อสิ ทำไมถึงไม่พูดเล่า!”

ความเครียดของฉีเยี่ยนเอ๋อร์ผ่อนคลายลงทันที จากนั้นนางโค้งคำนับและพูดว่า

“หม่อมฉันขอฟ้องร้องไท่ฟู่ ในเรื่องที่ตั้งกลุ่มเพื่อประโยชน์ส่วนตัว สร้างปัญหาให้แก่ราชสำนัก ทุจริต อีกทั้งยังคิดปิดบัง ตั้งใจแสวงหาอำนาจและช่วงชิงบัลลังก์เจ้าค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์