องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 384

ภายในลาน

เหล่าปิ่นหิรัญย์ต่างแจกจ่ายเงินให้แก่เหล่าชาวเมืองตามรายชื่ออย่างมีระเบียบ

“เจ้าชื่ออะไร?”

ชาวนาที่เช่าที่นาที่ยืนอยู่หัวแถวโดยมีเมียและลูกยืนอยู่ด้วย พูดอย่างเคอะเขินว่า

“ข้าชื่อจ้าวฟู๋ นี่คือเมียข้าจางชุนหลาน และลูกชายข้าจ้าวเถี่ยจู้”

เมื่อปิ่นหิรัญย์ตรวจชื่อของพวกเขาในบัญชีแล้วก็ได้หยิบเงินสามส่วนขึ้นมาแล้วพูดว่า

“คนละหนึ่งส่วน รวมสามส่วน รับไว้ล่ะ”

ชาวนารับเงินสามส่วนที่มีน้ำหนักมาแล้วพูดอย่างดีใจว่า “ให้จริงรึ?”

เหล่าปิ่นหิรัญย์ยิ้มแล้วตอบกลับว่า “องค์หญิงสามของเราเอ่ยปากเองก็ต้องให้จริงสิ”

เหล่าชาวนาและครอบครัวยิ้มอย่างดีใจ พวกเขากราบกรานขอบคุณ “ขอบพระทัยองค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ “ขอบพระทัยองค์หญิงสามพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเหล่าชาวนาคนอื่นๆเห็นว่าได้รับเงินจริงๆก็ต่างหารือกันอย่างดีใจว่า “โอ้ ได้เงินจริงๆ!”

“ดีเกินไปแล้ว!”

เหล่าปิ่นหิรัญย์ยืนอยู่ด้านหน้าและจัดแจงว่า “ทุกท่านล้วนมีส่วน ค่อยๆมากันทีละครัวเรือน เจ้าชื่ออะไร?”

“ข้าชื่อ......”

หัวหน้าหม่ามองชาวนาแต่ละครัวเรือนเข้ามารับเงินแล้วรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก เขาภาวนาไม่หยุด หวังว่าองค์หญิงสามจะไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ

แต่บัดนี้จ้าวจีเอ๋อร์ได้รับชัยชนะไปแล้ว เพียงแค่รอให้การแสดงนี้จบลงเท่านั้น

......

หลังจากดำเนินต่อไปอยู่หลายชั่วโมงจนฟ้ามืด เมื่อเหล่าชาวนารับเงินแล้ว ก็ได้เริ่มถามรายละเอียดบางอย่าง เรื่องลับๆที่ตระกูลซ่งและเหล่าหัวหน้าได้แอบทำกัน ก็ได้ถูกเปิดโปงออกมาจนหมดสิ้น

ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวชุนนำบัญชีที่ลงทะเบียนแล้วเดินไปด้านหลังฉากบังลมเพื่อรายงานกับจ้าวจีเอ๋อร์ว่า

“องค์หญิงสามเพคะ หมู่บ้านหลงเหยียนรวมแล้วมีที่ทั้งหมด 154 มีครอบครัวชาวนาผู้เช่า 78ครัวเรือน เหล่าองครักษ์เงาได้ทำการวัดอย่างละเอียดอีกครั้งแล้ว พบว่าพื้นที่ไร่นาที่ได้บันทึกไว้ในหนังสือแผนที่ หายไปมากกว่า 8000แห่งเพคะ อีกทั้งยอดรวมของครัวเรือนก็ไม่ถูกต้องเพคะ ”

จ้าวจีเอ๋อร์นั่งพิงอยู่บนเก้าอี้แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเรียบๆว่า “เป็นเรื่องปกติ ตระกูลซ่งตั้งรกรากอยู่ที่นี่มาหลายปี มีรากฐานมั่นคง เป็นเรื่องปกติที่จะขายที่ดินทรัพย์สินฯ และทำบัญชีเท็จ”

ปิ่นหิรัญย์เสี่ยวชุนตอบกลับว่า “องค์หญิงสามคาดเดาแม่นยำยิ่งนัก ตอนที่แจกจ่ายเงินมีอยู่ราวเจ็ดแปดคนที่มารับเงิน แล้วชื่อไม่อยู่ในบัญชี แต่กลับพูดว่าเป็นคนพื้นที่หลงเหยียนเพคะ หม่อมฉันได้แจกจ่ายเงินให้กับพวกเขาตามที่รับสั่งมาก่อนหน้านี้ มิได้ทำให้พวกเขาลำบากใจ พวกเขาจึงยอมจากไปเพคะ”

จ้าวจีเอ๋อร์ถามขึ้นต่อว่า “ตอนที่พวกเจ้าแจกจ่ายเงิน ไม่มีชาวนาคนไหนพูดอะไรกับพวกเจ้าเป็นการส่วนตัวรึ?”

เสี่ยวชุนตอบกลับอย่างมั่นใจว่า “มีชาวนาแอบกระซิบมาจริงๆเพคะ พูดว่าตระกูลซ่งได้ย้ายพื้นที่ไร่นาในหมู่บ้านเป็นชื่อของเครือญาติไปทั้งหมดเพคะ เมื่อเป็นเช่นนี้ที่ดินอันอุดมสมบูรณ์มหาศาลนี้ สุดท้ายก็เหลือเพียงสองสามพันไร่เพคะ ช่างเป็นแผนการเพาะต้นไม้โดยการทาบกิ่งที่ดีจริงๆ”

เมื่อพวกหัวหน้าหม่าเข้ามาแล้วก็พากันคุกเข่าลงแล้วขอความเมตตาว่า

“องค์หญิงสามโปรดเมตตาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ การโอนย้ายชื่อที่ไร่นาไปยังชื่อของผู้อื่นนั้นเป็นคำสั่งของคนตระกูลซ่งทั้งนั้น พวกเราจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยจริงๆพ่ะย่ะค่ะ!”

จ้าวจีเอ๋อร์ปล่อยให้พวกหัวหน้าหม่าคุกเข่าอ้อนวอนอยู่นานจึงจะเอ่ยปากพูดว่า

“พวกเจ้าล้วนเป็นทาสของขุนนางที่มีความผิด ตอนที่จวนตระกูลซ่งถูกยึด เพราะเห็นว่าพวกเจ้าเป็นชาวไร่ชาวนาที่ซื่อสัตย์ ไม่เคยทำเรื่องเลวร้ายอะไร ดังนั้นจึงได้เมตตาไว้ชีวิตพวกเจ้า”

“บัดนี้ตระกูลซ่งเองก็ได้ล่มสลายแล้ว แต่พวกเจ้าก็ช่างฉลาดนักนะ ที่นำพื้นที่ไร่นาที่เดิมทีเป็นทรัพย์สินของตระกูลซ่งมาเป็นของตนเองเช่นนี้ เป็นผลให้ที่ดินไร่นาเหลือน้อย แถมยังคิดจะร่วมมือกันหลอกข้าอีก ช่างเป็นทาสรับใช้ที่ดีของตระกูลซ่งเสียจริง!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วนางก็วางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะเสียงดัง ทำให้พวกหัวหน้าหม่าถึงกับตัวสะดุ้งโหยงจนแทบจะทรุดกองกับพื้น

“พวกข้าน้อยหน้ามืดตามัว รู้ถึงความผิดแล้ว องค์หญิงสามโปรดเมตตาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

หัวหน้าหม่าประสานมือคารวะแล้วพูดติดอ่างว่า “เราจะทำการขายทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมด แล้วนำงเงิน......”

“หุบปาก!” เสี่ยวชุนตะคอกขึ้นทันทีว่า “เดิมทีพื้นที่หมู่บ้านนี้ก็เป็นของเรา พวกเจ้ายังคิดจะทำการค้าขายโดยพลการอีก บังอาจเกินไปแล้ว!”

เมื่อพูดเช่นนั้นก็ทำเอาหัวหน้าหม่าทำอะไรไม่ถูกไปเลยทันที เขาคุกเข่ากราบกรานอ้อนวอนไม่หยุด

“องค์หญิงสามโปรดเมตตาด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยสำนึกผิดแล้วจริงๆ ไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์