องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 440

โจทย์ข้อนี้ของฉินเหยียนทำเอาสิบสองปิ่นหิรัญย์ไปไม่ถูก พวกนางต่างก็ล้อมขวดเหล้าแก้วและไข่ไก่ไว้ จับคางแล้วพากันครุ่นคิดอย่างสุดกำลัง

“ใช้มือไม่ได้ แบบนี้มันบังคับให้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นี่!”

“นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยชัดๆ!”

“แต่ท่านอ๋องได้เอ่ยปากแล้วนะ ว่าหากคิดไม่ออกก็ไม่ให้เราร่วมนอนด้วย ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องหาคำตอบให้ได้!”

ว่าแล้วเหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์ก็จ้องมองไข่ไก่และขวดเหล้าแก้วไปทั้งคืนไม่ได้นอน

ในที่สุดฉินเหยียนก็รู้สึกสบายหูขึ้นมา เขาได้นอนหลับสนิทสักที แม้กระทั่งวันที่สองเหล่าปิ่นหิรัญย์ก็ไม่ได้มาก่อกวนเขาอีก ยังคงพยายามคิดว่าจะทำให้ไข่ไก่เข้าไปในขวดแก้วอย่างไรดี

กองทัพได้เดินทางไปครึ่งวัน พอถึงตอนเที่ยงก็ได้มาถึงด่านเจียยวี่แล้ว

ต้าหย่งรายงานโดยมีหน้าต่างคั้น “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ด้านหน้ากำลังจะถึงด่านเจียยวี่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทรงประสงค์จะเข้าด่านเลยรึไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนที่หลับตาแล้วเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันสงบสุขตอบกลับอย่างเกียจคร้านว่า

“ไม่ต้องเข้าด่าน หันหัวกลับไปที่หมู่บ้านซิ่งฮวาก่อน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ต้าหย่งประสานมือคารวะแล้วออกคำสั่งเสียงดังว่า “ไปหมู่บ้านซิ่งฮวา!”

ต้าหย่งและกองทัพเดินหน้าไปยังหมู่บ้านซิ่งฮวาอย่างยิ่งใหญ่

ยิ่งไปไกลหมอกรอบๆตัวก็ยิ่งหนาขึ้น แถมในหมอกก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆลอยมา มันไม่ค่อยชัดเจน ทำให้รู้สึกได้เพียงเล็กน้อย หลังจากผ่านถนนที่คดเคี้ยวและขรุขระก็เห็นแผ่นป้ายหมู่บ้านซิ่งฮวาตั้งอยู่กลางทางเข้าหมู่บ้าน กองทัพใหญ่มาหยุดที่ทางเข้าหมู่บ้าน ทุกคนตกใจกับภาพตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะอุทานขึ้นมาว่า

“โอ้! ที่นี่งดงามเกินไปแล้ว!”

“ในที่สุดข้าก็ได้สัมผัสกับตัวแล้ว ที่ในบทกวีกล่าวว่าแดนสวรรค์บนโลกเป็นอย่างไร!”

ทั่วทั้งหมู่บ้านซิ่งฮวาถูกก้อนเมฆก้อนใหญ่ปกคลุมอยู่ ในกลุ่มหมอกควันมีกลิ่นหอมแปลกๆที่โชยออกมาอย่างรุนแรง เมื่อสูดดมแล้วทำให้รู้สึกเบิกบานใจ และเคลิบเคลิ้มไปกับมัน

แม้แต่หลินเย้าจู้ผู้ซึ่งอ่านหนังสือมาหลายปีก็ยังตกตะลึงกับทิวทัศน์ของหมู่บ้านซิ่งฮวา และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า

“ที่นี่มันดินแดนในอุดมคติชัดๆ!”

และทันใดนั้นเอง ฉินเหยียนก็ลงมาจากรถม้าเหมือนกัน เขามองแล้วพูดกับหลี่ซิ่วไฉที่สีหน้าตะลึงว่า

“สิ่งนี้เรียกว่าปูนซีเมนต์ สิ่งเหล่านี้เป็นวัสดุที่ท่านอ๋องนำมาเพื่อสร้างบ้านจากสวรรค์”

“หมู่บ้านซิ่งฮวาของเราอยู่กลางภูเขา อาคารต่างๆมีความสูงเท่ากันตามปกติเท่ากันไม่นับว่าใหญ่โตอะไร รอพวกเจ้าได้ไปที่เมืองใหม่แล้ว จะเห็นว่าแบบนั้นถึงจะเรียกว่าอาคารใหญ่!”

“ที่นั่นอาคารที่สูงที่สุดมีถึงเจ็ดชั้น ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเลย!”

เหล่าสิบสองหิรัญย์เพียงแค่ได้เห็นอาคารบ้านเหล่านี้ก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากแล้ว อย่าว่าแต่อาคารที่สูงทะยานขึ้นฟ้าของเมืองใหม่เลย พวกนางไม่กล้าจะคิดเลยด้วยซ้ำ

จ้าวจีเอ๋อร์มองเหล่าสิบสองหิรัญย์ที่มองทุกสิ่งแปลกใหม่ไปหมด ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงตอนที่นางมาที่นี่ครั้งแรก อารมณ์ของตนเองตอนที่ได้เห็นอาคารถูกสร้างขึ้นทีละอาคาร นางก็ตกตะลึงเช่นนี้เหมือนกัน

ฉินเหยียนและเหล่าชาวเมืองรำลึกกันเรียบร้อยแล้วก็เรียกผู้ดูแลหมู่บ้านมาแล้วออกคำสั่งว่า

“พวกเจ้าพาคนเหล่านี้ไปเที่ยวชมเสียหน่อย เล่าประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านซิ่งฮวาให้พวกนางฟัง”

จากนั้นก็หันหน้าไปออกคำสั่งต่อเหล่าปิ่นหิรัญย์ว่า “พวกเจ้าตั้งใจดูตั้งใจเรียนรู้ด้วยล่ะ ในหมู่บ้านซิ่งฮวามีแต่ความรู้”

คำพูดของฉินเหยียนมีความเห็นแก่ตัวอยู่ อย่างแรกก็เพื่อกันเหล่าหญิงสาวที่เจี้ยวจ้าวออกไป เพื่อให้เขาสบายหู อย่างที่สองก็เพราะเขาจะพาหลินซิ่วไฉไปชื่นชม นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงในการมาหมู่บ้านซิ่งฮวา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์