องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 470

หลิวเชียนเชียนพยายามโน้มน้าวเขาเพราะเห็นแก่มิตรภาพที่ทั้งสองทำงานร่วมกันมานานกว่าหนึ่งปี

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งสองมาจากสองอาณาจักร กำแพงระหว่างพวกเขาไม่อาจลบล้างได้

ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นมิตรที่ดีขนาดไหน หรือทำธุรกิจร่วมกันมานานเท่าไร

ตราบใดที่เรื่องประเทศชาติมีส่วนเกี่ยวข้อง ทุกคนจะเชื่อมั่นและวางใจในอาณาจักรของตนเอง ดังนั้นซูปั้นเฉิงถึงพูดเช่นนี้

“ผู้ดูแลหลิว ข้าเองมิได้มีเจตนาร้าย แต่หากเจ้ายังยุข้าให้ก่อกบฏอีก แสดงว่าเจ้าดูถูกข้า”

ต่อให้ซูปั้นเฉิงตาย เขาก็ไม่เชื่อทั้งคำพูดและการกระทำของหลิวเชียนเชียน เขาเชื่อว่าสิ่งที่หลิวเชียนเชียนพูดในวันนี้เป็นเพราะต้องการยุให้เขาก่อกบฏ

หลิวเชียนเชียนเองก็จนปัญญาเช่นกัน นางหวังดีแต่นางไม่คิดว่าซูปั้นเฉิงจะหัวแข็งขนาดนี้

“คำพูดดีๆ ยากต่อการโน้มน้าวพวกที่หิวโหย ข้าคงพูดได้แค่นี้ หากเจ้าเสียใจหรืออยากให้เหลือลู่ทางให้แก่ตระกูลซู”

หลิวเชียนเชียนมองไปที่ซูซิน หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ข้างนาง

“เจ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอด ความร่วมมือที่พวกเราร่วมมือกันมามากกว่าหนึ่งปี ข้าหลิวเชียนเชียน มั่นใจว่าลูกหลานตระกูลซูจะฝ่าฟันความยากลำบาก มีอาหารและเสื้อผ้าใช้อย่างเพียงพอ”

ซูปั้นเฉิงพูดอย่างดูถูก

“ผู้ดูแลหลิว พวกเราต่างเป็นพ่อค้านักธุรกิจ แต่ในแง่เรื่องความเข้าใจที่มีต่อโลกนี้ เจ้ายังอ่อนหัดนัก”

“แม้ว่าอู๋ซานกุ่ยจะก่อกบฏและกลับมาโจมตีเปี้ยนจิง แต่การเงินของข้าสามารถป้องกันข้าไม่ให้อู๋ซานกุ่ยทำอะไรข้าได้”

“ท้ายที่สุดแล้ว ข้า ซูปั้นเฉิงมีชื่อเสียงและร่ำรวยพอๆ กับอาณาจักรอื่นๆ ข้าไม่ได้พูดล้อเล่น”

หลิวเชียนเชียนพูดไม่ออก ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าวันนี้เขาผิดพลาดที่ตรงไหน

แต่ความร่วมมือทำงานกันมาอย่างยาวนาน โดยปกติซูปั้นเฉิงจะเคารพหลิวเชียนเชียนเป็นอย่างมาก แต่เมื่อพูดถึงเรื่องประเทศชาติบ้านเมือง เขากลับดูไม่พอใจอย่างชัดเจน

หลิวเชียนเชียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอดทนและพูดออกไปว่า

“ผู้จัดการซู ข้าและเจ้าทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนาน เหตุใดท่านถึงต้องสงสัยข้าด้วยเล่า?”

ซูปั้นเฉิงไม่เชื่อแม้แต่น้อย พูดอย่างเย็นชา

“ช่างมันเถิดผู้ดูแลหลิว อย่ากังวลเรื่องข้าอีกเลย”

หลิวเชียนเชียนกัดฟันด้วยความหงุดหงิด นางอยากจะตบหน้าเขาให้ได้สติเสียจริง

“ซูปั้นเฉิง! เหตุใดเจ้ายังมองสถานการณ์ตรงหน้าไม่ออกอยู่อีก!”

ในเวลานี้ซูปั้นเฉิงเองก็เริ่มไม่พอใจเช่นกัน เขาประสานมือและพูดอย่างเย็นชา

“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว พูดกันไม่เข้าใจ เช่นนั้นเป็นอันว่าเราแยกย้ายกันไปตามทางเถิด!”

พูดจบเขาพาลูกชายเดินจากไป

หลิวเชียนเชียนกระทืบเท้าด้วยความโกรธและด่าว่า

“ซูปั้นเฉิง เจ้ามันคนโง่!”

...

ซูปั้นเฉิงที่นั่งอยู่บนรถม้าเพื่อเดินทางกลับบ้าน เขาไม่คิดว่าหลิวเชียนเชียนจะดีดลูกคิดรางแก้วใส่หัวเขา

ซูซินถามอย่างระมัดระวัง

“ท่านพ่อ ข้ารู้สึกว่าคำพูดของผู้ดูแลหลิวนั้นมีความเป็นไปได้อยู่นะขอรับ ตอนนี้สถานการณ์ของอาณาจักรจ้าวนั้นอธิบายได้ยาก ไม่สู้เราปกป้องตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ?”

“เจ้าเข้าใจอะไรกัน!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ ซูปั้นเฉิงไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าเขาจะถูกสวมเขา

ซูซินมองไปที่เจ้าหน้าที่และทหารที่รีบวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ จับคนออกมา และเอาทรัพย์สินเงินทองไป เขาน้ำตาไหลออกมา

“พ่อ พ่อควรเชื่อคำพูดผู้ดูแลหลิว ตอนนี้ทำอย่างไรดี?”

ซูปั้นเฉิงอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก

สมาชิกราชวงศ์ที่เป็นเพื่อนของเขาต่างมารวมตัวกันที่คฤหาสน์ของเขา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโลภ

“เอาเงิน เอาผู้หญิง เอาเงินของซูปั้นเฉิงไปให้หมด รีบเอามา!”

ภายใต้การนำของพระญาติของฮ่องเต้ เจ้าหน้าที่และทหารจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าไปยังคฤหาสน์เหมือนโจร และขโมยของที่มีค่าไปทุกชิ้น

ไม่เพียงแต่ทองคำและเงินเท่านั้น แม้แต่นางสนมทั้งเจ็บสิบแปดคนของซูปั้นเฉิงก็ไม่มีใครรอดเงื้อมมือไปได้ พวกนางถูกเอาตัวไป ผู้หญิงบางคนถึงกับถูกลากเข้าป่าไปในทันที มีเสียงร้องไห้ขอความเมตตาดังก้องไปทั่วถนน

ซูปั้นเฉิงไม่คาดคิดว่าสมาชิกราชวงศ์อาณาจักรจ้าวจะไร้ยางอายและชั่วช้าขนาดนี้

โชคดีที่เขาเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรจ้าว ปีที่ผ่านมาเขามีรายได้หลายร้อยล้าน แต่เขาก็มอบเงินจำนวนมากให้คนพวกนี้อย่างน้อยๆ ก็แสนตำลึง พวกเขาเป็นเหมือนหมาป่าที่กินไม่รู้จักอิ่ม ต่างเป็นสัตว์ร้ายในคราบคน

“พ่อ ควรทำอย่างไรดี พูดอะไรสักอย่างสิ!”

ซูปั้นเฉิงถูกซูซินดึงสติขึ้นมา เขามองดูลูกชายด้วยความมึนงง มาถึงจุดนี้เขาต้องตัดสินใจที่ขัดต่อความตั้งใจเดิมของเขา

“แควก”

เขาฉีกเสื้อ กัดนิ้วตนเอง และเขียนจดหมายลงไปด้วยมืออันสั่นเทา จากนั้นยัดใส่มือลูกชาย

“ซินเอ๋อร์ เจ้าเก็บมันไว้ พ่อเขียนตำแหน่งเงินที่ข้าซ่อนเอาไว้ ไปที่หอหม่านโหลวและขอความคุ้มครองจากผู้ดูแลหลิว ป้องกันตัวเองตราบใดยังมีชีวิต ย่อมมีความหวัง รีบหนีไป!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์