อีกด้านหนึ่ง
ซูซินลูกชายของปั้นซูเฉิงวิ่งกลับไปยังหอหม่านฮวา
เมื่อไปถึงเห็นว่าไม่มีใครอยู่ด้านในแม้แต่คนเดียว เขาจึงตะโกนอย่างกังวลใจว่า
“ผู้ดูแลหลิว! ผู้ดูแลหลิว!”
ในเวลานี้ มีคนเดินออกมาจากสวนด้านหลังและถามว่า
“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาที่นี่เล่า?”
เมื่อซูซินหันหน้ากลับไป เห็นว่าเป็นผู้ดูแลหลิว เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า “ตึก” เขาคุกเข่าลงแทบเท้าหลิวเชียนเชียนแล้วพูดว่า
“ช่วยด้วย ได้โปรดช่วยพ่อข้าด้วย!”
“เจ้าหน้าที่ทางการและทหารปิดล้อมบ้านข้าไว้หมดแล้ว อีกทั้งยังใส่ร้ายพ่อข้าว่าสมรู้ร่วมคิดกับพวกศัตรู ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการและทหารเข้ามารื้อบ้านข้าอยู่!”
“ได้โปรดช่วยพ่อข้าด้วย ได้โปรด ข้าจะยอมทำทุกอย่าง!”
ซูซินถึงกับหลั่งน้ำตา ก้มหน้าขอร้อง
หลิวเชียนเชียนถอนหายใจยาว นางเคยเตือนซูปั้นเฉิงแล้ว แต่ไม่อาจโน้มน้าวในเขาได้ ซูปั้นเฉิงเป็นคนดื้อรั้น ทำให้ตระกูลซูเจอชะตากรรมเช่นนี้
นางก้มลงประคองซูซินที่กำลังร้องไห้ขึ้นมา และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ข้าไม่สามารถช่วยพ่อเจ้าได้ ข้าและพ่อของเจ้าตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คนจากราชสำนักกำลังเพ่งเล็งหอหม่านฮวา เจ้ารีบไปกับข้าเถิด มิฉะนั้นหากช้ากว่านี้พวกเราอาจจะหนีไม่ทัน”
ซูซินมองหลิวเชียนเชียนด้วยน้ำตาคลอเบ้า และพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผู้ดูแลหลิว พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้จริงๆ หรือ?”
หลิวเชียนเชียนใจเต้นแรง การยึดที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทุกคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปล่อยเด็กให้เผชิญหน้าเรื่องนี้คนเดียวเพียงลำพัง ช่างโหดร้ายจริงๆ
แต่ด้วยสถานการณ์บังคับให้นางไม่อาจทำอะไรได้เลย นางส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
ความหวังสุดท้ายของเขาถูกทำลายลง เขาทรุดตัวลงไปนั่งและร้องไห้
“ทำไม ทำไมพวกเขาถึงมาค้นบ้านเรา เพราะเหตุใดกัน?”
หลิวเชียนเชียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อ๋องเหยียนบันทึกเอาไว้ว่า ไม้เด่นเกินไพร ลดพัดหักโค่น”
“ข้าและพ่อของเจ้ามีรายได้เข้ามามากกว่าค่าภาษีที่อาณาจักรจ้าวเก็บมาได้ในรอบหลายสิบปี ตอนนี้อาณาจักจ้าวนั้นล้มละลาย การที่ราชสำนักเข้าโจมตีประชาชนเช่นพวกเรานั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงมิได้”
ซูซินร้องไห้หนักมากจนหายใจไม่ออก หลิวเชียนเชียนตบไหล่และปลอบโยนเขา
“ข้ารู้ว่าเจ้าเศร้าโศกเสียใจ แต่ตอนนี้เจ้าคือความหวังเดียวของตระกูลซู ถ้าพ่อเจ้าสั่งให้เจ้ามาหาข้า เช่นนั้นข้าจะปกป้องเจ้า รีบหนีไปกับข้าเถิด รีบหนีไปจากที่นี่ เรื่องหลังจากนี้ค่อยมาวางแผนกัน”
“แต่ว่า...”
ซูซินลังเล เขาไม่สามารถทิ้งตระกูลซูหรือพ่อของเขาไปได้
“ไม่มีแต่แล้ว หากยังไม่รีบไป เราจะหนีไปไม่ทันแล้ว!”
พูดจบ หลิวเชียนเชียนพาซูซินไปที่เพิงไม้ที่สวนหลังบ้าน
หลิวเชียนเชียนหมุนเชิงเทียนที่ผนัง จากนั้นเกิดเสียงดังขึ้น ผนังทั้งสองฝั่งแยกออกจากกัน ปรากฎทางเดินลับและยาวขึ้นตรงหน้า
หลิวเชียนเชียนอธิบายว่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตรวจค้นทุกห้องแล้ว กลับไม่พบเจอใครเลย จึงมารายงานจ้าวฉี่หมิงว่า
“ไม่เจอใครเลยขอรับ!”
“ไม่มีคนแม้แต่คนเดียวขอรับ!”
“อะไรนะ! ไม่มีใครเลยหรือ?”
จ้าวฉี่หมิงคำรามด้วยความโกรธ
“ค้นตัวพวกมันมาให้ข้า อย่าปล่อยให้บรรดาผู้หญิงหนีไปได้!”
แต่ในเวลานี้ ในหอหม่านฮวา นอกจากโต๊ะ เก้าอี้ และม้านั่งแล้ว ของมีค่าทุกอย่างกลับถูกย้ายไปก่อนแล้ว ไม่เหลือแม้แต่หม้อสักใบ
ทั้งอาคารเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
จ้าวฉี่หมิงโกรธมากจนด่าออกมา สีหน้าเขาน่าเกลียดมาก
“ไอ้พวกสารเลว ข้าจ่ายเงินไปมากมายกับพวกผู้หญิงพวกนั้น แต่พวกมันกลับหนีไปอย่างไร้ร่องรอย!”
เดิมทีจ้าวฉี่หมิงต้องการใช้โอกาสนี้ตรวจสอบหอหม่านฮวา แล้วนำทุกอย่างไปเป็นของตนเอง
หลัจากที่ได้เงินทั้งหมดแล้ว นางโลมทั้งเจ็ดคนนั้นเขาจะจับพวกนางไปไว้ที่จวนของตน และทุกอย่างกลับผิดพลาดไปเสียหมด
“ข้าไม่เชื่อว่านังผู้หญิงพวกนั้นมีปีกบินหนีไปได้!”
จ้าวฉี่หมิงโกรธจัด กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
“กระจายคำสั่งออกไป ตรวจค้นให้ทั่วเมือง ประกาศจับนางโลมหอหม่านฮวาทุกคน อย่าปล่อยให้พวกนางหนีไปได้ ข้าต้องการพวกนางทุกคน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...