ในสนามรบ
ภายในเวลาเพียงสั้นๆ กองทัพอาณาจักรฉินก็พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ แม่ทัพถูกฆ่าทีลคน ทหารและม้าต่างหตีเตลิดด้วยความตกใจ ถอดหมกและชุดเกราะออก
แม่ทัพสือและผู้ติดตามขอเขามีเป้าหมายชัดเจน โดยพุ่งเป้าไปที่ผู้นำของตระกูลชนชั้นสูง นี่เป็นคำสั่งลับของอ๋องเหยียน ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว และสังหารคนที่อยู่ในตระกูลชนชั้นสูงให้สิ้นซาก
“ฟึบๆ”
ชายหนุ่มจากตระกูลชนชั้นสูงกำลังหลบหนี แต่กลับถูกลูกธนูของทหารพรานยิงเข้าใส่
โชคดีที่การป้องกันของชุดเกราะนั้นดีมาก ลูกธนูไม่อาจพุ่งทะลุเกราะได้
“ฮ่าๆ เจ้าพวกโง่ พวกเจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้หรอก!”
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ ลูกธนูจำนวนมากกลับบินพุ่งมาอย่างไม่ขาดสาย
“ฟึบ”
ความยินดีเมื่อครู่ นำมาซึ่งความเศร้า ถูกลูกธนูปักเข้าที่ด้านหน้าหลายดอก และเสียชีวิตในทันที
แม่ทัพฉินชงถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้พ่ายแพ้ เขาก็รีบหนีเอาตัวรอดไปเช่นกัน
ขณะที่เขากำลังหลบหนี เขาวิ่งสะดุดศพหนึ่งเข้าโดยไม่รู้ตัว
แม่ทัพสือถือหอกและควบม้าไปทางเขา
“หยุด!”
ม้าตัวสูงยกขาสูงขึ้น เกือบจะเหียบเข้าไปที่ฉินชงแล้ว
“จบแล้ว ไม่มีโอกาสแล้ว!”
แม่ทัพสือมองไปที่ชุดเกราะของฉินชง เป็นชุดเกราะเกล็ดมังกรหนังสัตว์สีเหลืองทอง เมื่อยืนยันว่าถูกต้อง เขาต้องเป็นผู้บังคับบัญชาอย่างแน่นอน ถามออกไปอย่างเย็นชาว่า
“เจ้าคือฉินชงใช่หรือไม่?”
ฉินชงที่คิดว่าเขาต้องตายอย่างแน่นอน หลับตาลงและรอความตาย เขาไม่ได้คาดหวังว่าอีกฝ่ายจะถามเช่นนี้ เขาพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัวและพูดว่า
“ชะ ใช่ ทหารถูกฆ่าได้ แต่ไม่ยอมอับอาย ข้าไม่มีวันยอมแพ้!”
ใครจะรู้ว่าเมื่อเขาพูดจบ
อีกฝ่ายกลับโยนกระบอกไม้ไผ่ให้เขา และหันหัวม้าวิ่งจากไปทันที
ฉินชงสับสนเป็นอย่างมาก
เขหยิบกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมา มองไปรอบๆ ขณะที่วิ่งหนี
น่าแปลกมากที่การโจมตีในครั้งนี้ไม่ได้สังหารทหารแต่อย่างใด แต่สังหารแค่ลูกหลานของตระกูลขุนนางเท่านั้น แม้แต่ต้องให้วิ่งล่าไปไกลถึงสิบลี้ พวกเขาก็ต้องตามไปฆ่าไม่ให้เหลือซาก
บนกำแพงเมือง
สงครามสิ้นสุดแล้ว กองทัพอาณาจักรฉินพ่ายแพ้ ฉินชงหนีไปพร้อมกับกลุ่มทหาร มีเสียงหัวเราะดังขึ้น
“เจ้ามันเด็กอ่อนหัด คิดจะสู้กับข้า เจ้ายังตามหลังข้าอยู่อีกมาก ! ฮ่าๆๆ...”
ด้านล่างกำแพงเมือง
แม่ทัพสือเหล่ยควบม้าไปที่ประตูเมือง ลงจากม้าและรายงานทันที
ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว!
แต่ฉินชงในตอนนี้เขากลับตกอยู่ในความมืดมนและความกลัว เขาคิดว่าตนจะต้องตายเสียแล้ว
ในที่สุดความกังวลใจก็ถูกผ่อนคลายลง หลังจากที่เข้าใจความตั้งใจของน้องสิบสี่ เขาเองก็ไม่โวยวายอะไรอีก
เขาเดินออกจากค่ายทหารและสั่งทันที
“นับจำนวนผู้เสียชีวิตในแต่ละกองพันแล้วรายงานทันที!”
อันที่จริงไม่จำเป็นต้องนับก็พอรู้ได้ เสียงร้องไห้ดังทั่วทั้งค่ายหทาร ตอนนี้เหลือเพียงแค่คนแก่ในตระกูลขุนนาง บรรดาเด็กๆ ต่างถูกฆ่าตายกันหมด
นอกจากนี้แสดงให้เห็นอีกความหมายหนึ่งว่าตระกูลขุนนางได้ล่มสลายแล้ว ไม่สามารถกลับมามีอำนาจได้อีก
เว้นแต่คนเก่าเหล่านี้ที่ยังมีกำลังเหลืออยู่ พวกเขาสามารถต่อสายสัมพันธ์ของตระกูลออกไปได้
หลังจากรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตมีถึงพันคนเลยทีเดียว
ฉินชงที่มีสีหน้าเคร่งขรึมพูดว่า
“ศึกสงครามในครั้งนี้ได้รับความสูญเสียอย่างมหาศาล ตระกูลขุนนาต่างพ่ายแพ้ เพื่อเป็นการให้ได้มาซึ่งชัยชนะในครั้งนี้ ข้าขอออกคำสั่งทางทหาร นับจากนี้ไป กองทัพส่วนตัวของตระกูลขุนนางจะรวมเข้ากับกองทัพทางอาณาจักร รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีการแบ่งแยกกองทัพอีกต่อไป!”
“อะไรนะ!”
เมื่อคำสั่งทหารนี้ได้ถูกประกาศออกไปถึงหูของชายแก่ในตระกูลขุนนาง พวกเขาต่างมีสีหน้าตกตะลึง
การรวมกองทัพส่วนตัวเป็นของรัฐ มีแต่จะทำให้อำนาจของตระกูลอ่อนลง
ก่อนหน้านี้เราทั้งสูญเสียทหารและได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้กลับถูกปล้นกองทัพส่วนตัวไปอีก นี่ถือว่าเมื่อเสร็จกิจก็ฆ่าลากันชัดๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...