องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 510

จวนเจ้าเมืองอวิ๋นเฉิง

ตอนเช้า ฉินเหยียนได้รับพระราชโองการจากฮ่องเต้ฉิน

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ พระราชโองการของฮ่องเต้ฉินนั้นเต็มไปคำพูดไม่พอใจ

“ฉินเหยียน เจ้าลูกไม่รักดี วันๆ มัวแต่ทำอะไรอยู่!”

“ยังไม่นำความสงบมาให้เมืองอวิ๋นเฉิงอีก จับพวกกบฏได้แล้ว เหตุใดถึงยังไม่พาตัวกลับมาให้ข้า!”

“เราต้องให้เจ้าออกเดินทางทันทีเพื่อคุ้มกันไท่ฟู่กลับมยังเมืองหลวง ข้าต้องการจัดการกับพวกกบฆคนที่คิดทรยศเป็นการส่วนตัว!”

เมื่อขันทีอ่านจบ เขารู้สึกได้ว่ามีเหงื่อไหลเย็นจากหลังของเขา จากนั้นเขาก็ยื่นพระราชโองการของฮ่องเต้ฉินให้ฉินเหยียน

ฉินเหยียนรับพระราชโองการมาจากเขา และพูดขอบคุณ

“ข้าจะทำตามคำสั่งเสด็จพ่อ”

หลังจากยืนขึ้น ฉินเหยียนก็ออกคำสั่งว่า

“รีบจัดขบวน และนำตัวไท่ฟู่กลับไปยังเมืองหลวง คุ้มกันให้หนาแน่น!”

“รับทราบ!”

องครักษ์เงายื่นมือออกไปรับคำสั่งและจัดการทันที

จากนั้นฉินเหยียนก็เรียกจางอวิ๋นซูมา หลังจากอธิบายการก่อสร้างและการพัฒนาเมืองอวิ๋นเฉิงแล้ว เขาก็รับหยางจิ่นซิ่วและนำกองกำลังขนาดใหญ่เพื่อคุ้มกันไท่ฟู่กลับไปยังเมืองหลวง

บนท้องถนนฉินเหยียนขี่ม้าและเดินนำหน้ากองทัพ

ไท่ฟู่ที่มีสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง นั่งบนเกวียน ที่เคลื่อนตัวตามรถม้าด้านหน้า เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า

“ฉินเหยียน เจ้าคนชั่ว จ้าคิดว่าเจ้าชนะข้าแล้วหรือ?”

ข้าขอบอกเอาไว้เลยว่าพลังของตระกูลขุนนางนั้นมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งนัก เด็กเมื่อวานซืนจะเทียบข้าได้อย่างไร!”

“เจ้าก็แค่รนหาที่ตาย คอยดูเถิด ไม่ต้องรอให้ถึงเมืองหลวงเจ้าได้ตายก่อนแน่!”

คำพูดสกปรก คำด่า คำสบประมาทออกมาจากปากของไท่ฟู่ ไม่มีภาพลักษณ์ของคนที่เคยเป็นอาจารย์ของฮ่องเต้เลยแม้แต่น้อย

องครักษ์เงาที่นำตัวเขามานั้นได้ยินเสียงเขาก่นด่าอ๋องเหยียน พวกเขาได้แต่หวังว่าตนจะสามารถฆ่าตาเฒ่าคนนี้ได้ในทันที

ต้าหย่งโกรธมาก กัดฟันแน่น เขาขี่ม้าไปหาฉินเหยียนแล้วถามว่า

“องค์ชาย ตาแก่คนนั้นหยาบคายกับท่านมาก หรือว่าให้ข้าสั่งสอนเขาให้หุบปากเสียดีหรือไม่ขอรับ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างไม่สนใจว่า

“เขาเป็นแค่ตั๊กแตนที่ออกมาหลังฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น เขาจะเอาตัวรอดได้อีกไม่นานอยากจะพูดอะไรให้เขาพูดไป ในไม่ช้าแม้ว่าข้าอยากจะให้เขาพูด เขาก็คงพูดไม่ได้อีกต่อไป”

อ๋องเหยียนใจกว้างเสียเหลือเกิน ต้าหย่งเองก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก เขาทำได้เพียงระงับความโกรธในใจและปล่อยให่ไท่ฟู่พูดจาหยาบคายต่อไป

หลังจากเดินทางมาตลอดหนึ่งวัน ฉินเหยีนและพรรคพวกของเขาก็มาถึงเมืองถัดไป

ฉินเหยียนหัวเราะเยาะเย้ยและพูดต่อ

“ใจคนนั้นไม่แน่นอน เจ้าควรจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าข้า จ้าใช้เวลาเพียงไม่นานเพื่อให้พวกเขาเห็นสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และพวกเขาเต็มใจจะเป็นพวกเดียวกับข้า”

“เพื่อเป็นการให้กำลังใจพวกเขา ข้าได้ตั้งกฎใหม่ขึ้นมา เพื่อให้กบฏเช่นพวกเขามาเป็นทหารให้ข้า จะได้รับการแต่งตัวและสถาปนาตำแหน่งที่ดีในอนาคต”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ไท่ฟู่อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึกๆ

ปรากฏว่าองค์ชายใหญ่ฉินชงนำกองทัพประจำการกลับมายังสิบห้าเมืองเขตการปกครองเยี่ยนหยุน ไร้คู่ต่อสู้ สามารถฆ่าตระกูลขุนนางจนไม่เหลือซาก

กองทัพส่วนตัวเหล่านั้นที่ยอมจำนนต่อฉินเหยียน ตัดหัวคนหนึ่งเพื่อแลกกับตำแหน่งทางทหาร หากพวกเขาตัดหัวคนได้ถึงสิบหัว เขาจะได้เลื่อนตำแหน่ง

เพราะว่าค่าหัวของกบฏเหล่านี้มีค่ามาก ดังนั้นในตอนที่ทุกคนต่างฆ่ากบฏ พวกเขาทั้งกล้าหาญและมุ่งไปให้ถึงเป้าหมาย

พวกเขาเอาหัวที่ฟันมานั้นคาดเอวแล้วฆ่าคนต่อไปจนกระทั่งทั้งร่างกายของเขาจะเต็มไปด้วยหัวของคนที่ก่อกบฏ การขอยอมแพ้ กลับไร้ประโยชน์ พวกเขากลับฆ่าต่อไป

ฉากนองเลือดทำให้คนที่เห็นต้องตกใจ ในเวลาเพียงไม่กี่วันตระกูลขุนนางทั้งหมดก็ถูกสังหาร

กองทัพที่กล้าหาญและมีความสามารถใครดเห้ฯต่างก็พากันตกใจและรู้สึกสยดสยอง

หลังจากฉินเหยียนอธิบายจบ ไท่ฟู่อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เขาคิดมาโดยตลอดว่าฉินเหยียนเป็นคนฉลาด แต่ไม่คาดคิดว่าจะกล้าฆ่าคนเช่นนี้

ร่างกายของไท่ฟู่เป็นเหมือนมะเขือยาวที่ถูกแช่น้ำแข็ง เขารู้สึกหดหู่และพูดอะไรไม่ออก

ในที่สุดหมากรุกกระดานนี้ เขาก็พ่ายแพ้ให้กับเด็กเหลือขอคนนั้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์