องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 626

อีกด้านหนึ่ง

ฉินเหยียนพาเสี่ยวมาถึงที่ๆดื่มเหล้ากับเฝิงตู่

“หยุด!” เขาดึงสายบังเหียนหยุดรถม้าลง จากนั้นก็หันกลับไปเอาไหเหล้า เขากระโดดจากรถแล้วเดินไปที่ต้นไม้ต้นนั้น แล้วออกคำสั่งไปด้วยว่า

“เสี่ยวจิ่ว ยกอาหารรสเลิศมา”

“เพคะ”

เสี่ยวจิ่วยกกล่องอาหารลงจากรถม้าแล้วเดินตามฉินเหยียนไปทันที

หยางจิ่นซิ่วและพวกต้าหย่งเห็นว่ารถม้าของอ๋องเหยียนจอดลงแล้ว พวกเขาก็รีบทำการคุ้มครองอยู่ระยะร้อยเมตรอย่างแน่นหนา จะปล่อยให้อ๋องเหยียนมีอันตรายแม้แต่น้อยไม่ได้

ฉินเหยียนและเสี่ยวจิ่วนั่งลงตรงที่เคยก่อกองไฟ เมื่อจัดวางอาหารที่นำมาด้วยแล้วฉินเหยียนก็กวาดตามองไปยังมุมมืด แล้วพูดเองเออเองว่า

“ข้ารู้ว่าเจ้ามาแล้ว ออกมาเถิด”

เฝิงตู่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา เสียงของเขาล่องลอยอยู่ในท้องฟ้ายามราตรี

“เจ้ามาพบข้าในฐานะอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน หรือในฐานะหมอรึ?”

ฉินเหยียนพูดอย่างไม่ลังเลว่า “อย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เจ้าคิดว่าข้าคือใคร ข้าก็คือคนนั้น”

เสียงของเฝิงตู่ดังขึ้นอีกว่า “ข้าคิดว่าเข้าคืออ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน ไม่เช่นนั้นบนภูเขาคงไม่มีทหารมากมายมาคอยเฝ้าระวัง”

ฉินเหยียนยิ้มเจื่อนๆแล้วพูดว่า “ช่วยไม่ได้นะก็เจ้าเก่งกาจเกินไป แล้วชีวิตของข้าก็สำคัญมากด้วย หากจะมาพบเจ้าเพียงลำพังพวกเขาก็ไม่ไว้วางใจ ข้าบอกไม่ให้ตามแล้วแต่พวกเขาไม่ยอม”

เฝิงตู่พูดประชดว่า “ดูท่าว่าเจ้าก็ไม่ใช่นักปราชญ์ที่พูดคำไหนคำนั้นสินะ”

เมื่อสิ้นเสียงแล้วเฝิงตู่ก็ตกลงมาจากต้นไม้ เขาเลือดอาบและเสียแขนขวาไป

“แขนของเจ้า!” เมื่อฉินเหยียนเห็นสภาพน่าอนาถของเฝิงตู่แล้วก็รีบเข้าไปดูอาการ และออกคำสั่งว่า “เสี่ยวจิ่ว ไปนำกล่องยามา!”

“เพคะ!” เสี่ยวจิ่ววิ่งกลับไปที่รถม้าและหยิบกล่องยาออกมา

เดิมทียาพวกนั้นจะนำไปรักษาหยางจิ่นซิ่วที่ถูกเฝิงตู่โจมตีเข้า ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้ก่อน

เมื่อพูดจบแล้วเขาก็หันหน้าไปหาฉินเหยียน “แล้วฐานะของเจ้าเป็นอย่างไร?”

ฉินเหยียนเองก็ดื่มเหล้าแล้วพูดถึงประวัติของตนเองตรงๆว่า “ท่านแม่ของข้าเป็นนางกำนัล ท่านพ่อของข้าเมาแล้วขืนใจนาง จากนั้นก็เลยมีข้า”

“เพราะท่านแม่ของข้ามีฐานะที่ต่ำต้อย ข้าจึงไม่ได้มีอำนาจอะไรมาก ท่านพ่อไม่สนใจไยดีข้าตั้งแต่ยังเล็ก และเพราะเหตุนี้ข้าจึงไม่หวังว่าจะโดดเด่นกว่าใคร เพียงแค่อยากจะพยายามทำบางสิ่งให้กับทุกชีวิตด้วยกำลังทั้งหมดที่มี”

พวกเขาดื่มแล้วพูดความจริงเกี่ยวกับความเป็นมาของตนเองออกมา เล่าให้อีกฝ่ายฟังอย่างไม่ปิดบัง

เฝิงตู่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผู้ที่สั่งให้ข้าไปสังหารอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินคือพระญาติของราชวงศ์อาณาจักรจ้าว หรือก็คือผู้ที่ตระกูลกงซุนคอยให้การช่วยเหลือมานับหลายยุคสมัย”

“ที่ข้ามีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะพวกเขาคอยให้การสนับสนุน ช่วยเหลือและดูแลข้าจนเติบใหญ่ การที่ได้เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่ง และสืบทอดชื่อกงซุนอู๋หมิงมาได้ก็เพราะพวกเขาทั้งนั้น หรือจะบอกว่าชีวิตของข้าเป็นพวกเขาเลยก็ได้”

“ในบรรดาเด็กผู้ชายร้อยคนจะมีผู้มีฝีมือฉกาจหนึ่งคน เมื่อข้าได้รับสืบทอดแล้วก็ตอบตกลงว่าจะช่วยพวกเขาสังหารบุคคลสำคัญสามคน ก็ถือว่าได้ใช้หนี้ที่เลี้ยงดูมา และได้รับอิสระ และเจ้าคือคนที่สาม แต่ข้าก็กลืนคำพูด”

ฉินเหยียนพูดอย่างครุ่นคิดว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเคยทำคดีหนึ่ง ขุนนางในพระราชสำนักเที่ยวตามล่าเด็กผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น”

“เมื่อเลี้ยงดูพวกนางจนเติบใหญ่แล้วก็สั่งให้พวกนางไปขายตัวเพื่อหาข่าวสารมาเป็นประโยชน์ให้แก่ขุนนาง หลังจากนั้นข้าก็จัดการพวกนั้นไป และตัดทางของพวกมันไปอย่างสิ้นเชิง เรื่องของเจ้าคล้ายคลึงกับเรื่องนี้นัก แต่อำมหิตยิ่งกว่าเท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์