องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 678

ส่วนอันดับที่สี่ก็คือสำนักคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิง

เจิ้งเต้า หัวหน้าของสำนักคุ้มครองความปลอดภัย แม้ว่าจะเป็นง่อย แต่เขาเดินทางไปทั่วโลกมาหลายปี ไม่มีการเดินทางที่เขาไปไม่ได้

ภายใต้การนำทางของเขา สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยซุ่นเฟิงได้พัฒนาขึ้นมาก กิจการรุ่งเรือง มีสาขาเปิดทั่วพื้นที่ มีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นนักรบฝีมือดีอยู่หลายหมื่นคน เป็นกำลังที่ไม่อาจดูถูกได้

อันดับที่ห้าคือตำหนักอ๋องเหยียนที่ลึกลับ ตำหนักอ๋องเหยียนนั้นมีความหมายตามชื่อ เป็นกองกำลังใหม่ของท่านอ๋องที่สิบสี่แห่งอาณาจักรฉิน ฉินเหยียน ผู้ที่สามารถเข้าร่วมตำหนักอ๋องเหยียนได้ จะต้องมีความสามารถที่เหนือชั้น และมีความรู้ทั้งวรรณกรรมและการต่อสู้

บัดนี้ตำหนักอ๋องเหยียนได้พัฒนาเป็นกองกำลังที่ลึกลับขนาดใหญ่ กระจายอยู่ทั่วทั้งเก้าแคว้นเจ็ดอาณาจักร มีข่าวลือว่าตำหนักอ๋องเหยียนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยควบคุมของวิสาหกิจ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐาน จึงถูกจัดอยู่อันดับที่ห้าชั่วคราว

ฉินเหยียนมองการจัดอันดับความแข็งแกร่งในยุทธภพอย่างละเอียด ในความแข็งแกร่งห้าอันดับแรก มีสี่ที่ที่เขาเป็นผู้สร้างมัน มีเพียงสำนักเฉาที่แทรกอยู่ตรงกลาง ทำให้เขามองแล้วรู้สึกขัดหูขัดตา

เขาปิดหนังสือแล้วโยนลงบนโต๊ะ

“ไป๋เสี่ยวเซิงกล่าวว่า แม้แต่วิสาหกิจที่เป็นอันดับหนึ่ง หากต้องการทำการค้าขายก็ต้องพึ่งการขนส่งของสำนักเฉา สำนักที่เป็นอันตรายเช่นนี้ หากไม่ควบคุมเอาไว้เป็นของข้า ข้าคงจะอยู่ไม่เป็นสุข”

คำพูดของฉินเหยียนชัดเจนมาก หลังจากพิธีอภิเษกสมรสแล้ว เขาจะจับตาดูสำนักเฉาเป็นพิเศษ จะต้องครอบครองสำนักใหญ่ทั้งสามเอาไว้ในกำมือให้ได้

เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาประสานมือคารวะน้อมรับคำสั่งทันที

“กระหม่อมจะพยายามอย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนลุกขึ้นแล้วเดินไป จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งไม่พ่ายแพ้ ส่งรายงานเกี่ยวกับสำนักเฉามาให้ข้าทั้งหมด!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบมุ่งหน้าไปหอสมุดแผนกซวนจิง และนำเบาะแสทั้งหมดที่เกี่ยวกับสำนักเฉาออกมา ในขณะที่กำลังจะรีบนำไปส่งให้ฉินเหยียน

“ข้าอยากจะมีอายุยืนยาวอีก......ห้าร้อยปี!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบหยุดฝีเท้าลงแล้วรอคอยอย่างเคารพ ไม่นานฮ่องเต้ฉินก็ฮัมเพลง ปรากฏตัวออกมาด้วยการแต่งตัวที่ไม่เรียบร้อย

“เยี่ยนเอ๋อร์ ทำอะไรของเจ้ารึ?”

“หม่อมฉันมานำรายงานเพื่อจะนำไปให้อ๋องเหยียนเพคะ”

ฮ่องเต้ฉินทำเสียงเย็นชา “กล้างานพระสนมที่รักของข้า ชักจะเหิมเกริมเกินไปแล้วนะ”

ฮ่องเต้ฉินจะไปเอาเรื่องกับฉินเหยียนอย่างโมโห ฉีเยี่ยนเอ๋อร์จะห้ามก็ห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อเข้าไปด้านในแล้วก็เห็นหนังสือจัดอันดับของไป๋เสี่ยวเซิงกองเต็มไปหมด

“นี่มันอะไร?” ฮ่องเต้ฉินหยิบการจัดอันดับอาณาจักรขึ้นมาดู

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ย่อตัวแล้วพูดว่า “หม่อมฉันขอตัวไปส่งหนังสือเหล่านี้ให้อ๋อนเหยียนก่อนนะเพคะ มันค่อนข้างสำคัญเพคะ”

“ไปเถิดไปเถิด”

ฮ่องเต้ฉินถูกเนื้อหาด้านในดึงดูด เขาโบกมือเพื่อให้ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบไป เขายิ่งดูก็ยิ่งตกตะลึง ในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้ เจ้าสิบสี่ก็ได้พัฒนาอาณาจักรฉินได้สุดยอดขนาดนี้แล้ว

สร้างท้องพระคลังเพิ่มใหม่หนึ่งร้อยแห่ง! มีอาคารที่มีชื่อเสียงอย่างน้อยสิบสองแห่งในทุกเขต! กำลังทรัพย์ กำลังทหาร กำลังอาณาจักรได้พัฒนากว่าที่เคยร้อยเท่า ทำให้ฮ่องเต้ฉินมองแล้วถึงกับน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

ฉินเหยียนถามอย่างประหลาดใจว่า “หมายความว่าอย่างไร”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์พูดอย่างจนปัญญาว่า “รายงานเกี่ยวกับอาณาจักรหลู่มากมายมีทั้งจริงและเท็จ บางรายงานก็บอกว่า เมื่อจ้าวจือหย่ากลับไปถึงอาณาจักรหลู่แล้วก็กลายเป็นศพไปแล้ว อีกทั้งยังทำการฝังแล้วด้วยเพคะ”

“มีบางรายงานบอกว่าจ้าวจือหย่านั้นเสียสติ ยังบอกว่านางเคยมีบุตร รายงานเช่นนี้ส่วนใหญ่เป็นเท็จเพคะ หม่อมฉันจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก”

ฉินเหยียนขมวดคิ้วแน่นแล้วดูรายงานแต่ละฉบับ รู้สึกว่าการวางหมากในอาณาจักรหลู่ไม่น่าพึงใจมากนัก

“อาณาจักรหลู่เป็นศัตรูตัวฉกาจ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า หรือหอหม่านฮวา เมื่อเข้าสู่อาณาจักรหลู่แล้วจะเงียบหายไปโดยปราศจากร่องรอย”

จ้าวจีเอ๋อร์สวมชุดเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากหลังฉากบังลม “ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันช่วยอะไรได้บ้างเพคะ?”

ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “ใครให้เจ้าสวมเสื้อผ้ากัน ถอดแล้วไปรอข้าบนที่นอน รีบไปซะ”

“เพคะ”

จ้าวจีเอ๋อร์หันหลังเดินกลับไป ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เองก็หน้าแดงก่ำไปหมด นางรีบประสานมือคารวะขอตัว

“หม่อมฉันไม่รบกวนการพักผ่อนของอ๋องเหยียนแล้วเพคะ ขอตัวเพคะ”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์กำลังจะออกไปก็ได้ยินฉินเหยียนพูดว่า “อีกไม่กี่วันก็จะถึงพิธีอภิเษกสมรสแล้ว หลายวันมานี้เหนื่อยหน่อยนะ ข้าหวังว่าในพิธีอภิเษกสมรสจะไม่มีอะไรผิดพลาด”

“เพคะ” ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ปิดประตูถอยไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์