ทั้งสองคนผ่านค่ำคืนแห่งการเข้าเรือนหอด้วยการหวนนึกถึงอดีต และรักใคร่กัน
จ้าวจือหย่าคอยประกบติดฉินเหยียนอยู่ตลอด แล้วถามคำถามหัวข้อรุนแรงให้ฉินเหยียนตอบตามความจริง
แล้วฉินเหยียนจะตอบอย่างไรได้ คำถามเช่นเรื่องบนเตียงของใครดีที่สุด ฉินเหยียนก็ต้องตอบไม่ตรงกับใจ สุดท้ายทำเอาฉินเหยียนเสียสติไป
เช้าวันที่สอง
ทั้งสองตื่นมาชำระล้างกาย จู่ๆจ้าวจือหย่าก็พูดขึ้นว่า
“สามี วิชามหาเสน่ห์ที่เจ้าสอนนางโลมแนวหน้าเหล่านั้น ช่วยชี้แนะให้ข้าหน่อยได้รึไม่?”
ฉินเหยียนขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นว่า “เจ้าจะเรียนเรื่องพวกนี้ไปทำไมกัน?”
จ้าวจือหย่าโกหกไม่เป็น นางพูดตรงไปตรงมาเข้าประเด็นว่า
“ในบันทึกของข้า มีเพียงวิชามหาเสน่ห์ที่เจ้าสอนเหล่านางโลมที่ไม่มีการบันทึกอย่างละเอียด ข้าเพียงแค่อยากรู้ว่าฝึกฝนอย่างไรกันแน่ จึงได้ทำให้ผู้หญิงทั้งแปดที่งามที่สุดในแผ่นดินเป็นที่รู้จักกัน และทำให้ทุกคนต้องตกตะลึงมากขนาดนี้”
ฉินเหยียนระวังอยู่บ้าง จึงได้ลองเชิงถามขึ้นว่า “เจ้าอยากจะถาม หรือท่านพ่อของเจ้าอยากรู้กันแน่?”
จ้าวจือหย่าเช็ดหน้าแล้วตักน้ำมา จากนั้นก็เช็ดหน้าฉินเหยียนด้วย
“สามีเฉลียวฉลาดจริงๆ แต่เจ้ามองออกได้อย่างไรว่าท่านพ่อของข้าอยากจะรู้?”
ฉินเหยียนพูดว่า “อย่างไรนางโลมแนวหน้าเหล่านั้น เพียงแค่คนเดียวก็สามารถล้มล้างได้ทั้งอาณาจักรจ้าวแล้ว แถมพวกเจ้ายังเป็นทายาทของราชวงศ์อาณาจักรจ้าวด้วย เขาต้องอยากรู้บ้างอยู่แล้ว อยากรู้ว่าวิชาลับของข้านั้นวิเศษแค่ไหน”
ฉินเหยียนตั้งใจเช็ดหน้า
“พูดตรงๆ การทำลายล้างอาณาจักรจ้าวนั้น เฉินหย้วนหย้วนเป็นเพียงชนวน ดูผิวเผินนางคือแนวหน้าอันดับหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วที่อาณาจักรจ้าวล่มสลายนั้นคือผลลัพธ์ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ใครทำก็เหมือนกันทั้งนั้น”
จ้าวจือหย่าถามตรงๆอีกว่า “ท่านพ่อยังอยากรู้อีกว่าเจ้าจะล้มล้างอาณาจักรหลู่อย่างไร”
ฉินเหยียนมองจ้าวจือหย่าอย่างผวา “เจ้าถามคำถามเช่นนี้ได้ตรงๆเช่นนี้เลยรึ?”
“บัดนี้เจ้าและข้าคือสามีภรรยากันแล้ว มีเรื่องอะไรที่พูดไม่ได้รึ?”
ฉินเหยียนถามต่อว่า “เจ้าจะเอาไปบอกท่านพ่อของเจ้ารึไม่?”
“บอก ข้าไม่รู้ว่าปิดบังไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร”
เมื่อไม่มีอารมณ์ความรู้สึกแล้ว แม้แต่โกหกก็ยังยาก ให้จ้าวจือหย่ามาล้วงความลับเช่นนี้ จ้าวเหวินเซิงฉลาดเหมือนกันนะ
“เจ้ากลับไปบอกท่านพ่อของเจ้าว่า สถานการณ์ในเเผ่นดินนี้ เมื่อเเตกเเยกมานานก็จักรวมสมาน รวมสมานมานานก็จักเเตกเเยก พายเรือทวนน้ำ ไหลไปตามกระแสน้ำ ทั้งเก้าแคว้นต้องเป็นหนึ่งเดียวกันตามธรรมชาติ”
“ขอบคุณที่ชี้แนะเจ้าค่ะ” จ้าวจือหย่าย่อตัวเล็กน้อย จากนั้นหยิบเสื้อผ้ามาจะเปลี่ยนให้ฉินเหยียน
เมื่อคืนมีหลายคนคอยพูดข้างหูเขาว่า เขาทำเช่นนี้กับอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน ไม่กลัวว่าจะถูกเอาคืนโดยการวางยาพิษใส่ แล้วถึงแก่ชีวิตงั้นรึ
จ้าวเหวินเซิงรีบพูดขึ้นว่า “ข้าไม่ดื่มแล้วล่ะ เจ้าไปรอข้างนอกเถิด”
ฉินเหยียนหิวน้ำพอดี เขาจึงได้ดื่มน้ำชาจนหมดแล้ววางแก้วลง จากนั้นก็ไปรอที่ห้องโถง
เสียงสวมเสื้อผ้าดังขึ้นจากหลังฉากบังลม ผ่านไปชั่วครู่จ้าวเหวินเซิงก็เดินออกมาแล้ว
จ้าวจือหย่าและฉินเหยียนกล่าวทักทายว่า “ขออวยพรให้ท่านพ่อสุขภาพแข็งแรง”
“อืม”
เมื่อจ้าวเหวินเซิงนั่งลงแล้ว ยิ่งมองฉินเหยียนเขาก็ยิ่งรู้สึกเสียวสันหลัง เพื่อห้ามไม่ให้เขามาสู่ขอบุตรสาว เขาได้ใช้แผนการทั้งหมด สุดท้ายกลับทนต่อความอับอายมากมายเช่นนี้ได้ ไม่แปลกที่จ้าวเหวินเซิงจะกลัวว่าจะถูกเอาคืน ตอนนี้เขาอยากจะหาข้ออ้าง รีบไล่ฉินเหยียนไปอย่างเดียว
“ลูกเขย ดังคำที่กล่าวว่าสร้างครอบครัวก่อนสร้างตัว บัดนี้เจ้าเองก็ทำได้ตามที่หวังแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ไปทำตามที่ได้กตลงกันไว้ ไปพัฒนาพื้นที่ตระกูลจ้าวเถิด ”
ฉินเหยียนอึ้งไป “จะไล่ข้าเร็วเพียงนี้เชียวรึ ข้ายังอยากจะกตัญญูอีกนะ”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรเลย! รีบไปเถิด รีบไปเลย!”
ในสายตาจ้าวเหวินเซิง ฉินเหยียนก็เป็นเหมือนโรคระบาด รีบไล่ไปดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...