องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 827

ราชสำนักอาณาจักรหลู่

เรื่องเฉียนเชียนอี้แต่งงานกับหลิวหรูซือทำให้ทั้งอาณาจักรหลู่ระส่ำระสาย

ฮ่องเต้หลู่ไม่พอใจและโกรธมาก แม้ว่าเฉียนเชียนอี้จะถูกลดตำแหน่งให้เป็นแค่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวถิง แต่ตำแหน่งที่แท้จริงของเขาคืออัครเสนาบดีในราชสำนัก

ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ท่องและแต่งบทกวีได้ เขาใจหลักธรรมและจริยธรรมต่างๆ มากมาย เป็นข้าราชที่มีความสามารถ กลับต่อต้านเขาและแต่งงานกับหญิงขายตัวเพื่อแทงข้างหลังอาณาจักรหลู่

นี่ไม่เรียกว่าเขาเอาหน้าของฮ่องเต้และคนในราชสำนักขว้างทิ้งลงพื้นและเหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือ!

“ปึง”

ยิ่งฮ่องเต้หลู่คิดเรื่องนี้มากเท่าไร เขายิ่งโกรธมากเท่านั้น เขาจึงตบโต๊ะและตะโกนออกมาว่า

“ไอ้สารเลว อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว แต่กลับถูกผู้หญิงหลอกจนได้ ความถูกต้องและยุติธรรมนั้นไร้ความหมาย เป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ!”

ฮ่องเต้โกรธมาก ขุนนางทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นต่างพากันคุกเข่าลงด้วยความตกใจ

“ฝ่าบาท ทรงใจเย็นก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้หลู่โกรธมากจนเวียนหัว ตะโกนออกมาว่า

“ขุนนางที่โง่เขลาเช่นนี้ เราจะสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร! เขาทำความผิดสมควรตาย ไม่รู้จักเรื่องถูกผิด!”

เมื่อขุนนางได้ยินเช่นนั้น พวกเขารีบโน้มน้าวทันที

“ฝ่าบาททรงคิดให้รอบคอบก่อนพ่ะย่ะค่ะ! แม้ว่าใต้เท้าเฉียนจะแต่งงานกับหญิงขายตัวแห่งอาณาจักรฉิน แต่เขาไม่ได้กระทำความผิดที่ควรลงโทษประหารชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมเห็นด้วยพ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทยืนกรานจะประหารใต้เท้าเฉียนเพื่อระบายความโกรธ กระหม่อมขอให้ฝ่าบาทคิดใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”

สีหน้าของฮ่องเต้ไม่พอใจมากนัก เขาเองก็สับสนเช่นกัน สิ่งที่ข้าราชสำนักพูดมาก็ไม่ได้ไร้เหตุผล เฉียนเชียนอี้ทำผิดที่หลงใหลในตัวผู้หญิง แม้ว่าทำให้ราชสำนักเสียหน้า แต่เขาไม่ได้ทำความผิดถึงขั้นต้องประหารชีวิต

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า

“ช่างเถิด เว้นโทษประหาร แต่ยังมีความผิด รีบส่งคำสั่งข้า ถอดเฉียนเชียนอี้ออกจากตำแหน่งในราชสำนักทั้งหมด ไม่อนุญาตให้เขากลับมายังเมืองหลวง!”

...

อีกด้านหนึ่ง

ตำหนักยมราช

ตาเฒ่ากลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกันเพื่อพูดคุยกันอย่างลับๆ

มีเสียงเย็นดังมาจากด้านหลัง

“มีเบาะแสอะไรไหม?”

ลูกน้องส่งมอบรายงานทีละคน

“นายท่าน หลังจากที่พวกเราไปสืบสวน เราพบว่าชายแขนเดียวเป็นคนในกลุ่มคุ้มกันสินค้าซุ่นเฟิง เขาคือกงซุนอู่หมิงแน่ๆ ขอรับ”

“เรายังค้นพบอีกว่า ทุกวันนี้ในตำหนักอ๋องเหยียนและหอหม่านฮวาเองก็กำลังตามหากงซุนอู๋หมิงเช่นกัน พูดให้ชัดเจนก็คือพวกเขากำลังตามหาเด็กผู้หญิงที่อยู่กับกงซุนอู๋หมิง”

“ตามรายงาน เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นสายเลือดของอ๋องเหยียนและจ้าวจือหย่า ในปีนั้นที่อาณาจักรจ้าวตกอยู่ในสงคราม ผู้ดูแลหอหญิงต้องการส่งจ้าวจือหย่าไปยังอาณาจักรหลู่ แต่กลับถูกโจรสลัดโจมตี”

ซวงเอ๋อร์พูดด้วยความตื่นเต้น

“ลุงแขนข้างเดียว หลังจากที่เราไปถึงอาณาจักรฉินแล้ว เราไปเที่ยวเล่นที่เมืองเซียนตูกันเถิดเจ้าค่ะ ครั้งที่แล้วซวงเอ๋อร์ยังเที่ยวเล่นไม่พอเลย ครั้งนี้พวกเราไปอยู่ที่นั่นกันสักพักเถอะนะเจ้าคะ!”

นับตั้งแต่วันที่เฝิงตู่ล้มเลิกความคิดตามหาครอบครัวให้ซวงเอ๋อร์ ทั้งสองก็เริ่มติดตามกลุ่มผู้คุ้มกันสินค้าเพื่อหารายได้เล็กๆ น้อยๆ เดินทางไปทั่วใต้หล้า ตอนนี้พวกเขามีเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อที่จะพาซวงเอ๋อร์ไปอยู่ที่เมืองเซียนตูได้นานขึ้น เขาเห็นด้วยทันที

“ได้ ข้าทำตามเจ้า อีกสองสามวันพวกเราจะถึงเมืองเซียนตู”

ซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นอย่างมีความสุขและพูดอย่างตื่นเต้น

“เยี่ยมไปเลย ข้าอยากกินถังหูลู่ ลูกกวาด เค้กงา เค้กข้าวเหนียวและของอร่อยๆ อย่างอื่นอีก!”

เฝิงตู่ยิ้มออกมาด้วยความรัก

“ได้ ดูท่าทางเจ้าสิ โตมาเป็นเกตะกละจริงๆ!”

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุย ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที

“กงซุนอู๋หมิง เจอเจ้าจนได้!”

เฝิงตู่หันหลังกลับ เห็นคนกลุ่มหนึ่งร้องตะโกนดังขึ้นมา และมุ่งหน้ามาทางเขา

เขาแอบคิดว่าบางอย่างผิดปกติ เขาไม่คาดคิดว่าศัตรูจะเจอตัวเขาเร็วเช่นนี้ เขามัดซวงเอ๋อร์ไว้กับเอวเขาอย่างว่องไวและพูดเตือนว่า

“เด็กน้อย กอดข้าไว้แน่นๆ พวกเราไปกันเถอะ! ฮึ้ย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์