องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 837

ภูเขาไท่ซาน

สือเหล่ยและต้าหย่งรวมถึงต้าจ้วงมาพบเจอกัน เมื่อส่งมอบงานแล้วสือเหล่ยก็ได้นำกองทัพพยัคฆ์เสือดาวคุ้มกันคนจากวัดเส้าหลิน เขาพยัคฆ์มังกร และเขาอู่ตัง

เมื่อพาทั้งสามสำนักไปส่งยังที่พักตามคำสั่งแล้ว สือเหล่ยก็ได้มารายงานให้แก่ฉินเหยียน

ขณะนี้ฉินเหยียนกำลังวาดองค์ประกอบของสนามประลองอยู่ สือเหล่ยดันประตูเข้ามาแล้วประสานมือคารวะรายงาน

“นายท่านพ่ะย่ะค่ะ ทั้งสามสำนักใหญ่ได้มาถึงที่หมายแล้ว และได้นำไปยังที่พักตามคำสั่งของพระองค์เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนวาดไปด้วยแล้วพูดไปด้วยว่า “ทำได้ไม่เลว ทั้งสามสำนักไม่พอใจอะไรรึไม่?”

สือเหล่ยประสานมือคารวะพูดตามความจริงว่า “ปฐมคุรุสวรรค์แห่งเขาพยัคฆ์มังกรและเจ้าอาวาสแห่งวัดเส้าหลินนั้นรู้สถานการณ์ดี และได้ขึ้นรถม้าทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

“แต่เหล่าลูกศิษย์ของเขาอู่ตังกลับไม่ค่อยพอใจนัก แต่ว่ากองทัพพยัคฆ์เสือดาวได้สั่งสอนแล้ว ผู้นำเขาอู่ตังก็ได้ขึ้นรถม้ามาด้วยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนยิ้มบางๆ ถูกกองทัพพยัคฆ์เสือดาวสั่งสอนเช่นนี้ ดูท่าลูกศิษย์ของเขาอู่ตังจะต้องลำบากมากเป็นแน่

“มาแล้วก็ดี เจ้าเองก็เหนื่อยแล้ว ไปพักเถิด”

สือเหล่ยไม่ได้ถอยไป เขาพูดต่อว่า “กระหม่อมยังมีอีกเรื่องจะรายงานพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าบรรดาสำนักและพรรคต่างๆจะได้รับคำสั่งห้ามแล้ว แต่ในระหว่างที่เดินทางมาภูเขาไท่ซานก็ได้เกิดการต่อสู้กันอยู่ จนเกิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตพ่ะย่ะค่ะ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ยังไม่ทันถึงภูเขาไท่ซาน ยุทธภพก็คงวุ่นวายไปหมดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนหยุดเขียน เขาพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยราวกับได้คาดเอาไว้แล้ว

“บรรดาจอมยุทธส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเลือดร้อน มักจะลงมือเสมอ ติดไฟง่าย ข้าเองก็ไม่คิดว่าข้อห้ามไม่กี่ข้อนี้จะสามารถควบคุมพวกเขาเอาไว้ได้เลยหรอก”

สือเหล่ยพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “นายท่านพ่ะย่ะค่ะ แล้วเราจะปล่อยให้พวกเขาต่อสู้เข่นฆ่ากัน ไม่ต้องสนใจงั้นรึพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “เจ้าบอกให้หู่นิวและเซี่ยชิงพากองทัพพยัคฆ์เสือดาวไปต้อนรับ โดยแต่งกายให้เป็นแบบจอมยุทธ ให้ควบคุมสถานการณ์ให้ได้”

“พ่ะย่ะค่ะ”

สือเหล่ยประสานมือคารวะแล้วถอยไป จากนั้นก็ได้ไปแต่งตัวกับหยางจิ่นซิ่ว เซี่ยชิงและกองทัพพยัคฆ์เสือดาวอีกหนึ่งพันนาย และแล้วก็ลงจากเขาไปต้อนรับเหล่าสำนักและพรรคต่างๆกันมากมาย

......

บนเส้นทางที่ต้องผ่านระหว่างมุ่งหน้าไปภูเขาไท่ซาน

ลูกศิษย์แห่งสำนักคุนหลุนไป๋เอ้อร์ และลูกศิษย์แห่งสำนักไป๋เหมยเว่ยอู่ ทั้งสองเพียงแค่จ้องอีกฝ่ายไม่เท่าไรก็ทำจะต่อสู้กันแล้ว

ทั้งสองต่อสู้กลางทางโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เว่ยอู่เองก็ไม่ยอมอ่อนข้อ เขาได้ตั้งกระบวนท่าเด็ดของสำนักไป๋เหมยทะลวงคอหอยอินทรีย์ดำ ทำให้เกิดความฮือฮาอีกครั้ง

“ให้ตายเถอะ กระบวนท่าทะลวงคอหอยอินทรีย์ดำของเว่ยอู่ หรือก็คือชี้ทะลวงคอหอย กระบวนท่านี้ร่ำลือกันว่าอำมหิตมาก!”

“ร่ำลือกันว่ากระบวนท่านี้เกิดจากเทคนิคกดความดัน เป็นกระบวนท่าสังหารที่ผสมผสานการบีบและยันเอาไว้ ข้าเคยโชคดีพบครั้งหนึ่ง ตอนนั้นปฐมาจารย์แห่งไป๋เหมยได้ใช้มือบีบคอหอยของศัตรูเอาไว้ และได้ใช้นิ้วโป้งนิ้วชี้ในการหยิกจุดเหรินหยิงของศัตรูอย่างรวดเร็ว ทำให้ศัตรูตายในที่สุด เป็นท่าที่เคลื่อนไหวเฉียบขาดมาก!”

กระบวนท่าทั้งสองคนมีความรวดเร็วเหมือนกัน ไม่รู้ว่าใครจะเหนือกว่ากัน ทุกคนต่างก็ชะเง้อหน้ามอง

บัดนี้ไป๋เอ้อร์และเว่ยอู่แผ่จิตสังหารล้นหลาม แล้วตะโกนพร้อมกันว่า “จงรับกระบวนท่า!”

เมื่อสิ้นเสียงแล้วทั้งสองก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน พุ่งเข้าหากัน อยากจะโจมตีอีกฝ่ายให้ถึงแก่ชีวิต

ในขณะที่ทั้งคู่ใกล้จะถึงตัวกันแล้ว

จู่ๆก็มีลูกธนูที่ยิงมาข้างๆเท้า ทำให้ทั้งคู่หยุดลงทันที “เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนเองก็อึ้งไปหมด ต่างก็หันไปมองทิศทางที่ลูกธนูยิงมาอย่างไม่ได้นัดหมาย

สามคนด้านหน้าสุดในขบวนคือชายที่มีร่างกายสูงกำยำ แววตาเฉียบคม ที่ข้างซ้ายและขวาของเขาคือหญิงสาวที่งดงามน่าเกรงขาม หญิงทั้งสองสวมใส่หน้ากากเอาไว้ คนหนึ่งถือทวนเงินเอาไว้ อีกคนดึงธนูเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าธนูสองดอกเมื่อครู่นี้นางเป็นผู้ยิงเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์