องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 920

อาณาจักรฉิน

เมืองจิ่วโจวกำลังจัดงานประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น

งานประชุมนี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน หลังจากได้รับข่าว ประชาชนจากทั่วทุกมุมโลกได้เดินทางมายังจิ่วโจวเพื่อเข้าร่วมงานประชุม

เพื่อให้งานประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่น อาณาจักรฉินไม่ลังเลเลยที่จะทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขนาดใหญ่ขึ้น

พื้นที่อาคารของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีขนาดใหญ่เท่ากับสนามฟุตบอลเกือบสิบสนาม รูปแบบการตกแต่งสถานที่เต็มไปด้วยหลักวิทยาศาสตร์มากมาย ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนได้เข้ามาอีกโลกหนึ่ง

การประชุมมีคณะกรรมการทั้งหมดสี่คนได้แก่ จางอวิ๋นซู คนดูแลการค้า ฟางเจาจวิน คณบดีวิทยาลัยนักศึกษาต่างชาติ หลินเย้าจู๋ เจ้าหน้าที่อันดับหนึ่งกรมทหาร อวี๋เจา ผู้อำนวยการด้านทอผ้า

ก่อนการประชุมจะเริ่มต้นขึ้น ทั้งสี่คนรวมตัวกันอยู่ในด้านใน นอกจากพูดคุยเรื่องแนวคิดด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว สงครามระหว่างสามอาณาจักรยังเป็นที่พูดถึงกันอีกด้วย

“กั๋วฮวายคนนี้เหมือนหมาบ้า เขาตามรังควาญทุกคนที่เขาต้องการ อีกทั้งยังก่อปัญหาไปทั่วจิ่วโจว!”

“ใช่น่ะสิ ชายเสียสติคนนี้กล้าแย่งชิงบัลลังก์และมีท่าทีหยิ่งยโส ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

“อาณาจักรเยี่ยนโจมตีอาณาจักรหลู่และอาณาจักรจ้าว เหตุใดอาณาจักรฉินถึงไม่ส่งกองทัพทหารออกไปเล่า? เห็นๆ กันอยู่ว่าอาณาจักรจ้าวและอาณาจักรหลู่เป็นรัฐบรรณาการอาณาจักรฉิน อาณาจักรฉินควรส่งกองกำลังออกมาช่วยเหลือสิ”

“ตอนนี้อาณาจักรฉินแข็งแกร่งที่สุดในเจ็ดอาณาจักร เป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะทำลายอาณาจักรเยี่ยน แต่ตอนนี้เขากลับไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”

“ใช่ว่าพวกเจ้าไม่รู้ แม้ว่าอาณาจักรฉินจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาสนใจแต่เรื่องพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ได้ให้ความสำคัญด้านกำลังทหาร เพราะเขาตั้งใจจะส่งเสริมเรื่องสันติภาพให้กับโลกนี้”

“ในความคิดข้า อาณาจักรฉินควรทำลายอาณาจักรเยี่ยน รอดูว่ากั๋วฮวายยังจะกล้ายโสโอหังอีกหรือไม่!”

ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างกระตือรือร้น และต่างประณามอาณาจักรเยี่ยนที่จ้องทำลายสันติภาพ

ขณะที่การประชุมกำลังจะเริ่มต้นขึ้น มีรถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามา

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ในรถ เป็นตัวแทนราชวงศ์มาร่วมงานประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลังจากที่รถจอดในตำแหน่งที่วางแผนเอาไว้ หัวหน้าขันทีก็ลงมาเปิดประตูรถให้ฉีกุ้ยเหรินทันที

“ฉีกุ้ยเหรินมาแล้ว!”

สถานที่ที่แต่เดิมมีเสียงดัวไปทุกทิศ ในเวลานี้กลับเงียบกริบ

ทุกคนต่างทำความเคารพ

“เข้าเฝ้าฉีกุ้ยเหริน!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่งดงาม ศีรษะมีปิ่นปักผมสีทองปักอยู่ นางลงมาจากรถอย่างสง่าผ่าเผย เดินก้าวขึ้นไปบนแท่นอย่างเฉิดฉาย เดินไปยังพรมแดง

หลังจากที่พบเจอกับทุกคนแล้ว ฉีเยี่ยนเอ๋อร์อ้าแขนแล้วพูดอย่างมีราศีเจิดจ้าว่า

“ทำตัวตามสบายได้!”

“ขอบพระทัยฉีกุ้ยเหริน!”

หลังจากทุกคนนั่งลงแล้ว ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ก็พูดเปิดพิธีว่า

“นี่คือกังหันน้ำที่ข้าใช้เวลาค้นคว้ามากว่าสามเดือน อุปกรณ์ชนิดนี้สามารถทำงานโดยใช้พลังงานน้ำ ดึงน้ำมาใช้ในการชลประทานในทุ่งนา เป็นวิธีที่สะดวกมาก!”

“นี่คือกังหันลมที่ข้าประดิษฐ์ขึ้น แม้ว่าหน้าตาอาจจะดูไม่สวยงาม แต่ใบพัดทั้งสามสามารถหมุนได้ จากนั้นจะเกิดลมขึ้น เป็นการช่วยประหยัดทรัพยากร!”

นอกจากนี้ยังมีเครื่องทำน้ำ เครื่องร่อน สิ่งที่ดูโดดเด่นมากที่สุดในงานนี้คือปีกนก

ชายคนนั้นจำลองการใช้ปีกนกให้ทุกคนได้เห็น เพื่อแสดงผลลัพธ์เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจให้แก่ทุกคน

หลังจากที่ทุกคนได้ให้พื้นที่ให้เขาแสดงแล้ว ชายคนนั้นก็ขยับปีกของเ แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

บวกกับความเร็วทำให้ปีกใหญ่นั้นทำให้เขาบินได้จริงๆ

“โอ้โห! บินได้จริงๆ ด้วย!”

“เหมือนห่านป่าเลย!”

แม้ว่าระยะทางจะไม่มา แต่ก็มากพอที่จะทำให้ทุกคนตื่นตาตื่นใจได้

หลินเย้าจู๋ที่เป็นกรรมการตัดสิน เมื่อเห็นผู้คนกระตือรือร้นกับสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ ทำให้ในใจมีความรู้สึกมากมาย

เมื่อคิดย้อนกลับไป หากอ๋องเหยียนไม่ขอให้เขาพัฒนาวิทยาศาสตร์ขึ้น เขาจะประสบความสำเร็จอย่างในทุกวันนี้ได้อย่างไร

ตอนนี้ในใจของผู้คนกำลังตื่นรู้อย่างช้าๆ เชื่อว่าในอนาคตวิทยาการและภูมิปัญญาในจิ่วโจวต้องก้าวไปอีกขั้นอย่างแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์