องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 944

อีกด้านหนึ่ง

เหล่าหน่วยกล้าตายต่างก็พยายามสังหารฉินชงอย่างเอาเป็นเอาตาย

เหล่ากองกำลังรถยนต์ก็สู้กับเหล่าหน่วยกล้าตายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของฉินหวังอย่างเอาเป็นเอาตาย

ฉินชงรีบหมุนพวงมาลัย เหยียบคันเร่งจนมิด แต่ก็ยังสลัดหน่วยกล้าตายไม่หลุด ถึงขั้นที่ถูกรถที่ไล่ตามมาชนจนวิงเวียนศีรษะไปหมด

และแล้วเหล่ากองกำลังรถยนต์ก็ได้รีบเปลี่ยนแผนรับมือ โดยใช้กำลังทั้งหมดเพื่อทำให้ฉินหวังพ้นจากอันตราย ต่อให้ต้องตายก็ตาม! จากนั้นทหารรถยนต์ก็เลือกที่จะตายไปพร้อมกับเหล่าหน่วยกล้าตาย พวกเขาเหยียบคันเร่งแล้วชนเข้ากับรถของหน่วยกล้าตาย

“ปัง”

“ตูม”

เมื่อรถชนกันก็ทำให้เกิดระเบิดรุนแรง รถเสียได้ลุกเป็นไฟในพริบตา ทหารรถยนต์และเหล่าหน่วยกล้าตายต่างก็ถูกไฟคลอก

ฉินชงหันหน้ากลับไปมองแสงไฟที่ทะยานขึ้นฟ้า เหลือเพียงเขาที่รอดมาได้ กองกำลังรถยนต์หนึ่งขบวนที่ฝึกฝนมาอย่างดีไม่มีใครรอดเลย เขาทั้งโกรธทั้งปวดใจแล้วตบพวงมาลัยพร้อมตะโกนอย่างเดือดดาลว่า

“เจ้าพวกเดรัจฉาน!”

ฉินชงเหยียบคันเร่งด้วยความเดือดดาล รีบขับรถกลับไปยังค่ายรถยนต์ที่อาณาจักรเยี่ยนทันที

เมื่อเหล่าทหารรถยนต์ในค่ายเห็นว่ารถของฉินหวังเสด็จกลับมาแล้วก็เข้าไปต้อนรับอย่างสงสัย ยังไม่ทันได้ประสานมือคารวะคำนับ ก็พบว่าฉินหวังใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด แล้วเดินลงมาจากรถโซเซ จากนั้นก็ล้มลงหมดสติกับพื้น

“ท่านอ๋อง! เกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ!”

ทหารรถยนต์ตื่นตระหนก เขารีบเข้าไปพยุงแล้วตะโกนอย่างร้อนใจ “เรียกหมอมาเร็วเข้า!”

เหล่าทหารพากันอุ้มร่างของฉินหวังเข้าไปในค่าย เมื่อหมอตรวจดูแล้วพบว่าศีรษะของฉินชงมีแผลภายนอกนิดหน่อย เมื่อเช็ดเลือดที่เลอะจนสะอาดแล้ว ก็ได้ใส่ยาจินฉวงให้ หลังงจากทำแผลเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรน่าห่วง เพียงแต่ดูเหมือนว่ากะโหลกศีรษะจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง จึงทำให้ฉินหวังนอนไม่ได้สติ

หมอได้ปรุงยาแล้วป้อนยาที่คลายอาการลงให้ฉินหวัง ที่เหลือก็รอแค่ฉินหวังฟื้นแล้ว

จนกระทั่งถึงยามดึกดื่น ฉินชงจึงจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา

“ท่านอ๋องฟื้นแล้วรึพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินชงถามขึ้นอย่างสะลึมสะลือว่า “ข้าอยู่ที่ใด?”

องครักษ์รีบตอบกลับว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ที่นี่คือค่ายทหารรถยนต์พ่ะย่ะค่ะ”

ฉินชงค่อยๆมองชัดเจนขึ้น เขาพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีองครักษ์คอยประคอง เขาขมวดคิ้วแน่นแล้วเอามือจับศีรษะ พยายามนึกว่าเกิดอะไรขึ้น

“ช่างไม่รู้จักเคราะฝ่าบาทเสียจริง แถมยังตรัสว่าจะล้มล้างการปกครองของฝ่าบาทอีก อีกทั้งยังประกาศว่าจะชิงบัลลังก์จากฝ่าบาท แล้วเขาจะปกครองดินแดนอาณาจักรฉินเองพ่ะย่ะค่ะ!”

“หากไม่ได้กันเอาไว้ โดยวางหน่วยซุ่มโจมตีไว้แต่แรก เกรงว่าบัดนี้องค์ชายใหญ่คงได้สร้างเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ แค่คิดก็เสียวสันหลังไปหมดเลย!”

เมื่อฉินอวี่ได้ยินเช่นนั้นก็โกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขาค่อยโต๊ะแล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“เหตุใดท่านพี่จึงบุ่มบ่ามเช่นนี้! แม้ครั้งยังหนุ่มข้าและเหล่าพี่น้องได้มีสัญญาเอาไว้ ว่าจะให้ท่านพี่ใหญ่เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ แต่จู่ๆท่านพ่อก็สิ้นพระชนม์ แถมยังได้เขียนพระราชโองการว่าจะสืบบัลลังก์ให้ข้า เรื่องเกี่ยวข้องไปถึงดินแดน แล้วข้าจะปฏิเสธได้อย่างไร?”

“ข้าเข้าใจที่ท่านพี่ไม่พอพระทัย แต่หากเขาจะทรยศต่อพระราชโองการ คิดจะมาชิงบัลลังก์จากข้า เช่นนั้นเขาก็คือกบฏ แล้วเขาจะยังมีหน้ามาพบข้าและน้องสิบสี่อีกรึ?”

ท่านลุงคังหย่งเหนียนของฉินอวี่เห็นว่าเขาเดือดดาล จึงได้รีบใส่ไฟ เขาประสานมือคารวะพูดว่า

“ฝ่าบาทอย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทมีพระราชโองการอยู่ เป็นการสืบทอดบัลลังก์อย่างถูกต้อง ต่อให้องค์ชายใหญ่จะไม่พอพระทัยแค่ไหน ก็ต้องเคารพฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“แต่บัดนี้องค์ชายใหญ่ได้นำทหารโจมตีเมือง เห็นได้ชัดว่าไม่แยแสต่อความสัมพันธ์พี่น้องเลย หากฝ่าบาทยังเอาแต่คิดถึงเรื่องเก่าๆ เกรงว่าบัลลังก์จะสั่นคลอนพ่ะย่ะค่ะ!”

บัดนี้ฉินวี่เองก็ถูกความโกรธครอบงำ ในเมื่อท่านพี่ไม่มีเหตุผล ก็อย่าหาว่าข้าใจร้าย จากนั้นก็ออกคำสั่งทันที

“ฟังคำสั่งข้า ระดมกองกำลังทั้งหมดในเมืองเพื่อทำการเตรียมรับมือตลอดเวลา!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์