องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 963

ราชวงศ์จะทำอุตสาหกรรมด้านอู่ต่อเรือรึ? แล้วมันเป็นเรื่องดีๆสำหรับพวกเขาอย่างไร? นี่มันเรื่องการแย่งงานไม่ใช่รึ แย่งงานกับราชวงศ์ พวกเขาจะไปแย่งได้อย่างไร?

“หึหึ ในเมื่อข้าได้เรียกพวกเจ้ามาที่นี่ เช่นนั้นก็จะบอกความจริงให้ละกัน” ฉินอวี่พูดอย่างมีลับลมคมในว่า

“ยามบ่ายอ๋องเหยียนจะมาเยือนด้วยเช่นกัน หลักๆจะเจรจาการซื้อโรงงานต่อเรือของพวกเจ้า คิดจะรวมเป็นหนึ่ง”

“ซื้อรึพ่ะย่ะค่ะ?”

ทุกคนต่างมองหน้ากันสงสัยอย่างมาก

“ใช่ ซื้อ พวกเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องราคา อ๋องเหยียนได้เอ่ยปากแล้วว่าจะให้ราคาที่ดีกับพวกเจ้า”

ฉินอวี่ตบหน้าอก แล้วพูดรับรองว่า “อีกทั้ง หากมีพระราชสำนักเป็นที่พึ่งให้พวกเจ้า การงานของพวกเจ้าจะดีขึ้นเรื่อยๆ”

“อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ......”

ทันใดนั้นก็มีเจ้าของอู่ต่อเรือคนหนึ่งถามอย่างทนไม่ไหวว่า

“อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ อู่ต่อเรือหลวงเอาไว้ทำอะไรรึพ่ะย่ะค่ะ?”

คำถามนี้ได้ถามแทนสิ่งที่ทุกคนอย่างรู้ด้วยเช่นกัน อย่างไรอู่ต่อเรือของพวกเขา แม้ว่ากิจการจะใหญ่ แต่สำหรับพระราชสำนักแล้วมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แล้วเหตุใดพระราชสำนักจึงหมายตาโรงงานของพวกเขา?

“เรื่องนี้ซับซ้อนหน่อย ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าฟังง่ายๆ”

ฉินอวี่กระแอม จากนั้นก็พูดว่า “ภารกิจหลักของอู่ต่อเรือหลวง คือการผลิตเรือรบ และจัดตั้งกองเรือของราชสำนัก”

เหล่าเจ้าของต่างตกตะลึงกันหมด

เพื่อสร้างกองเรือรึ? หมายความว่าพวกเขาต้องรับประทานจากหลวงจริงๆรึ? พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่บริหารงานมาทั้งชีวิต จะไม่เข้าใจความหมายของฉินอวี่ได้อย่างไร

เรื่องนี้มีทั้งดีและร้าย ข้อดีก็คือไม่ต้องเคร่งเครียดเรื่องการงานในอนาคตอีกต่อไป ข้อเสียคือ หากผิดพลาดก็อาจถูกประหารได้!

“ไม่ทราบว่าอู่ต่อเรือหลวงนี้ จะสร้างกองเรือระดับอะไรรึพ่ะย่ะค่ะอ๋องอวี่” มีเจ้าของถามขึ้นอย่างกังวล

ฉินอวี่ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้ว เอาจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าฉินเหยียนจะสร้างกองเรือแบบใด เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องกองเรือเลยแม้แต่น้อย

“อย่างน้อยก็ต้องหลักร้อยลำกระมัง” ฉินอวี่ลูบจมูกอย่างเก้อเขินเล็กน้อย แต่เขาก็พูดอย่างจริงจังว่า

เสิ่นเฟยครุ่นคิดแล้วก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า “อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เงื่อนไขที่ตรัสมานั้นมีความจริงใจมากพอ เพียงแต่......”

“รอเดี๋ยว”

ทันใดนั้นเจ้าของพื้นที่อู๋ก็เงยหน้าแล้วพูดว่า “แม้ว่าเงินสองล้านตำลึงจะมาก แต่อย่างไรอู่ต่อเรือก็เป็นสิ่งที่เลี้ยงชีพของพวกกระหม่อม เป็นหยาดเหงื่อทั้งชีวิตของพวกกระหม่อม ยิ่งกว่านั้นก็มีแต่พวกกระหม่อมไม่กี่โรงงานแล้วที่อยู่ด้านอุตสาหกรรมนี้ พวกกระหม่อมต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

คำพูดของเขาดูสมเหตุสมผล แต่จริงๆแล้วเขากำลังแอบบอกกับคนอื่นว่า อุตสาหกรรมทางเรือของพวกเขามีความผูกขาด ในเมื่อจะต้องขายธุรกิจที่ทุ่มมาด้วยหยาดเหงื่อทั้งชีวิต เช่นนั้นก็ให้ราคาที่สูง!

นี่คือความเป็นนักค้าขาย เป็นเรื่องปกติ เมื่อเจ้าของคนอื่นๆได้ยินก็ตั้งสติได้ทันที ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทุ่มเทสร้างอู่ต่อเรือมาทั้งชีวิต จะยอมปล่อยมันไปง่ายๆได้อย่างไร? ในเมื่อพระราชสำนักคิดจะซื้อ พวกเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเงิน

เสิ่นเฟยเองก็กระแอมแล้วพูดว่า “ท่านเจ้าของหวังพูดถูก อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เรามาเจรจากันอีกหน่อยดีรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองว่ามาสิ ว่าต้องการเงินเท่าไร?” ฉินอวี่ยักไหล่แล้วพูดตรงๆ

“เอ่อ คือ......” เสิ่นเฟยลังเล

เจ้าของหวังพูดขึ้นว่า “อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เราพูดขาดราคาขาดตัวกันดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ ห้าล้านตำลึงขาดตัวเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์