ราชวงศ์จะทำอุตสาหกรรมด้านอู่ต่อเรือรึ? แล้วมันเป็นเรื่องดีๆสำหรับพวกเขาอย่างไร? นี่มันเรื่องการแย่งงานไม่ใช่รึ แย่งงานกับราชวงศ์ พวกเขาจะไปแย่งได้อย่างไร?
“หึหึ ในเมื่อข้าได้เรียกพวกเจ้ามาที่นี่ เช่นนั้นก็จะบอกความจริงให้ละกัน” ฉินอวี่พูดอย่างมีลับลมคมในว่า
“ยามบ่ายอ๋องเหยียนจะมาเยือนด้วยเช่นกัน หลักๆจะเจรจาการซื้อโรงงานต่อเรือของพวกเจ้า คิดจะรวมเป็นหนึ่ง”
“ซื้อรึพ่ะย่ะค่ะ?”
ทุกคนต่างมองหน้ากันสงสัยอย่างมาก
“ใช่ ซื้อ พวกเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องราคา อ๋องเหยียนได้เอ่ยปากแล้วว่าจะให้ราคาที่ดีกับพวกเจ้า”
ฉินอวี่ตบหน้าอก แล้วพูดรับรองว่า “อีกทั้ง หากมีพระราชสำนักเป็นที่พึ่งให้พวกเจ้า การงานของพวกเจ้าจะดีขึ้นเรื่อยๆ”
“อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ......”
ทันใดนั้นก็มีเจ้าของอู่ต่อเรือคนหนึ่งถามอย่างทนไม่ไหวว่า
“อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ อู่ต่อเรือหลวงเอาไว้ทำอะไรรึพ่ะย่ะค่ะ?”
คำถามนี้ได้ถามแทนสิ่งที่ทุกคนอย่างรู้ด้วยเช่นกัน อย่างไรอู่ต่อเรือของพวกเขา แม้ว่ากิจการจะใหญ่ แต่สำหรับพระราชสำนักแล้วมันไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย แล้วเหตุใดพระราชสำนักจึงหมายตาโรงงานของพวกเขา?
“เรื่องนี้ซับซ้อนหน่อย ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าฟังง่ายๆ”
ฉินอวี่กระแอม จากนั้นก็พูดว่า “ภารกิจหลักของอู่ต่อเรือหลวง คือการผลิตเรือรบ และจัดตั้งกองเรือของราชสำนัก”
เหล่าเจ้าของต่างตกตะลึงกันหมด
เพื่อสร้างกองเรือรึ? หมายความว่าพวกเขาต้องรับประทานจากหลวงจริงๆรึ? พวกเขาล้วนเป็นผู้ที่บริหารงานมาทั้งชีวิต จะไม่เข้าใจความหมายของฉินอวี่ได้อย่างไร
เรื่องนี้มีทั้งดีและร้าย ข้อดีก็คือไม่ต้องเคร่งเครียดเรื่องการงานในอนาคตอีกต่อไป ข้อเสียคือ หากผิดพลาดก็อาจถูกประหารได้!
“ไม่ทราบว่าอู่ต่อเรือหลวงนี้ จะสร้างกองเรือระดับอะไรรึพ่ะย่ะค่ะอ๋องอวี่” มีเจ้าของถามขึ้นอย่างกังวล
ฉินอวี่ได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้ว เอาจริงๆเขาก็ไม่รู้ว่าฉินเหยียนจะสร้างกองเรือแบบใด เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องกองเรือเลยแม้แต่น้อย
“อย่างน้อยก็ต้องหลักร้อยลำกระมัง” ฉินอวี่ลูบจมูกอย่างเก้อเขินเล็กน้อย แต่เขาก็พูดอย่างจริงจังว่า
เสิ่นเฟยครุ่นคิดแล้วก็ค่อยๆพูดขึ้นว่า “อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เงื่อนไขที่ตรัสมานั้นมีความจริงใจมากพอ เพียงแต่......”
“รอเดี๋ยว”
ทันใดนั้นเจ้าของพื้นที่อู๋ก็เงยหน้าแล้วพูดว่า “แม้ว่าเงินสองล้านตำลึงจะมาก แต่อย่างไรอู่ต่อเรือก็เป็นสิ่งที่เลี้ยงชีพของพวกกระหม่อม เป็นหยาดเหงื่อทั้งชีวิตของพวกกระหม่อม ยิ่งกว่านั้นก็มีแต่พวกกระหม่อมไม่กี่โรงงานแล้วที่อยู่ด้านอุตสาหกรรมนี้ พวกกระหม่อมต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดของเขาดูสมเหตุสมผล แต่จริงๆแล้วเขากำลังแอบบอกกับคนอื่นว่า อุตสาหกรรมทางเรือของพวกเขามีความผูกขาด ในเมื่อจะต้องขายธุรกิจที่ทุ่มมาด้วยหยาดเหงื่อทั้งชีวิต เช่นนั้นก็ให้ราคาที่สูง!
นี่คือความเป็นนักค้าขาย เป็นเรื่องปกติ เมื่อเจ้าของคนอื่นๆได้ยินก็ตั้งสติได้ทันที ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทุ่มเทสร้างอู่ต่อเรือมาทั้งชีวิต จะยอมปล่อยมันไปง่ายๆได้อย่างไร? ในเมื่อพระราชสำนักคิดจะซื้อ พวกเขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเงิน
เสิ่นเฟยเองก็กระแอมแล้วพูดว่า “ท่านเจ้าของหวังพูดถูก อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เรามาเจรจากันอีกหน่อยดีรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองว่ามาสิ ว่าต้องการเงินเท่าไร?” ฉินอวี่ยักไหล่แล้วพูดตรงๆ
“เอ่อ คือ......” เสิ่นเฟยลังเล
เจ้าของหวังพูดขึ้นว่า “อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ เราพูดขาดราคาขาดตัวกันดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ ห้าล้านตำลึงขาดตัวเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...