องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 971

“ทรงมีความคิดอะไรใหม่ๆงั้นรึพ่ะย่ะค่ะ?” หลินเย้าจู้พูดอย่างตึงเล็กน้อย

ฉินเหยียนพูดอย่างจริงจังว่า “ใช่ ข้าครุ่นคิดดูแล้ว กองทัพเรือที่เราสร้างและกองเรือที่เคยมีนั้นไม่เหมือนกันเลยสักนิด จากการวิจัยและพัฒนา การสร้างเรือ การฝึกฝนทหารเรือ การฝึกฝนนายทหารชั้นสูง ถือเป็นงานใหญ่อย่างมาก”

“หากจะพึ่งเพียงคนจำนวนน้อยในสภาบริหารราชการแผ่นดินละก็ ในการวิจัยพัฒนาขั้นแรกก็ยังไหว แต่หากจะทำให้มันดำเนินการได้อย่างเป็นทางการนั้น เป็นไปไม่ได้เลย”

หลินเย้าจู้พยักหน้าเห็นด้วย

ฉินเหยียนพูดต่อว่า “ดังนั้นข้าคิดดูแล้ว เจ้านำคนจำนวนหนึ่งจากสภาบริหารราชการแผ่นดิน ย้ายเข้ามาในอู่ต่อเรือหลวง สร้างแผนกการวิจัยพัฒนาอีกแผนก มีภารกิจเพียงอย่างเดียวคือการวิจัยพัฒนาเรือ จะต้องทำการพัฒนา และการวนซ้ำได้”

“ไม่มีปัญหา ทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ” หลินเย้าจู้ตอบรับอย่างรวดเร็ว

ฉินเหยียนพูดว่า “แน่นอนว่าในเริ่มแรกเจ้าต้องช่วยจับตาดู เจ้าสามารถมาประจำการที่อู่ต่อเรือหลวงชั่วคราว เพื่อรับหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านกลวิธี”

“ได้พ่ะย่ะค่ะ”

เรื่องการสร้างอู่ต่อเรือนั้นเป็นเรื่องสำคัญในตอนนี้และอนาคตอย่างมาก ดังนั้นหลินเย้าจู้จึงตอบตกลงทันที

ฉินเหยียนครุ่นคิดแล้วก็เรียกฉินอวี่มา

“พี่เจ็ด ข้าคิดว่าเรายังต้องระดมทุนอีก ให้สร้างสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเรือ” สีหน้าของฉินเหยียนจริงจังอย่างมาก

ฉินอวี่พูดอย่างประหลาดใจว่า “เอาไว้สร้างคณะเพิ่มอีกหนึ่งคณะก็ได้แล้วไม่ใช่รึ?”

“ข้ามาคิดดูแล้วมันยังไม่พอ อย่างไรก็สร้างสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องกับเรือเอาไว้โดยเฉพาะก่อน”

ฉินเหยียนอธิบายว่า “สถานศึกษานี้ไม่เพียงแต่จะสั่งสอนความรู้การเดินเรือเท่านั้น เรายังจะเปิดคณะต่างๆ เช่นการผลิต การต่อเรือ ทักษะการต่อเรือเป็นต้น ยังมีคณะวิจัย เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับการต่อเรือ สนับสนุนผู้มีความสามารถ และฝึกฝนบังคับบัญชากองทัพเรือ ฝึกฝนกองกำลังฝ่ายธุรกรรมแนวหลังเป็นต้น ล้วนต้องการผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ”

ฉินอวี่เข้าใจในทันที เขาพยักหน้าพูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องใช้เงินสนับสนุนมหาศาล เงินก้อนนี้พระราชสำนักจะเป็นผู้ออกรึ?”

ฉินเหยียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “แน่นอน เราเป็นผู้นำ พระราชสำนักมีเงินทุน เมื่อไม่มีผู้อื่นมาเกี่ยวข้องก็จะตัดปัญหาไปได้มากมาย”

ฉินอวี่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “น้องสิบสี่ แล้วเราจะไปหาอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ได้จากที่ใด?”

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสิ่นเฟยก็ได้เข้ามา “เข้าเฝ้าท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ!”

เสิ่นเฟยคำนับอย่างเคารพ ฉินเหยียนยิ้มแล้วตบบ่าของเขาเบาๆ จากนั้นก็พูดว่า “นั่งสิ”

เสิ่นเฟยพยักหน้า เขายืนแล้วพูดว่า “ทรงเรียกกระหม่อมมาเพราะต้องการเจรจาเรื่องการซื้ออย่างเป็นทางการใช่รึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ใช่ แต่ก่อนหน้านั้นข้าอยากจะถามเจ้าว่า เจ้าอยู่ในอุตสาหกรรมต่อเรือมานานแค่ไหนแล้วรึ?”

เดิมทีเสิ่นเฟยคิดว่าอีกฝ่ายเพียงแค่อยากถามความสามารถการต่อเรือของพวกเขา แต่ไม่คิดว่าจะถามเช่นนี้ แต่ว่า เมื่อเขาครุ่นคิดแล้วก็ตอบอย่างจริงจังว่า

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้เรียนรู้การต่อเรือตามท่านพ่อของกระหม่อมตั้งแต่ยังเล็ก อีกทั้งตระกูลเสิ่นตั้งแต่รุ่นของกระหม่อมขึ้นไปบรรพบุรุษสามชั่วอายุคนก็ทำการต่อเรือมาตลอดพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนพยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็ถามต่อว่า “เจ้าคิดว่า หากข้าใช้เหล็กมาต่อเรือแทนไม้ จะได้รึไม่?”

“ว่าอย่างไรนะพ่ะย่ะค่ะ? เหล็กรึพ่ะย่ะค่ะ?” เสิ่นเฟยตกใจ เสิ่นเฟยรีบส่ายหน้าปฏิเสธว่า “ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ! ไม่ได้เด็ดขาด!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์