แต่ปากของไป๋ลู่ก็รุนแรงเช่นกัน ถูกตบจนสภาพเป็นแบบนั้นแล้วแต่ก็ยังไม่หยุดด่า ทำเอาฉู่จือหันกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
เนื่องจากภายในรถเป็นแบบเก็บเสียง บวกกับปัญหาด้านระยะทาง ทำให้เฟิงเชียนเสวี่ยได้ยินไม่ชัดว่าไป๋ลู่กำลังด่าว่าอะไร และไม่รู้ด้วยว่าฉู่จือหันพูดว่าอะไรบ้าง
เพียงไม่นาน ฉู่จือหันเดินลงจากรถมา ตอนที่ประตูรถเปิดออกนั้น เฟิงเชียนเสวี่ยก็เห็นว่าบอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ในรถกำลังกระชากเสื้อผ้าของไป๋ลู่ออก!
ไป๋ลู่ดีดดิ้นสุดชีวิตและร้องโวยวายราวกับเป็นบ้า “ฉู่จือหัน แกต้องไม่ตายดีแน่ แกต้องได้รับกรรม...”
ประตูรถปิดลง ฉู่จือหันออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดสองคนที่เฝ้ารถอยู่ “เฝ้าอดีตนายหญิงซือคนนี้ไว้ให้ดี เธออยากได้ความรักจากชายหนุ่มจนตัวสั่นเลย!”
“ครับ!” บอดี้การ์ดทั้งสองคนก้มหัวรับคำสั่ง
“ถ้าชายหนุ่มสองคนยังไม่พอก็ไปหามาเพิ่มอีก”
ฉู่จือหันแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว สายตาของเธอน่ากลัวกว่างูพิษเสียอีก
หลังจากนั้นเธอก็พาบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ออกไปอย่างรีบร้อน...
เมื่อเห็นฉากนี้ เฟิงเชียนเสวี่ยก็ตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก เธอรู้ตั้งนานแล้วว่าฉู่จือหันหมกมุ่น แต่ก็ไม่คิดว่าจะโหดเหี้ยมขนาดนี้
แม้ว่าเธอจะเกลียดไป๋ลู่ จะให้ตีหรือสั่งสอนก็ได้หมด แต่แบบนี้...
ตอนนั้นเอง รถตู้คันนั้นก็สั่นไหวขึ้นมา น่าจะเป็นเพราะกำลังฉุดกระชากลากดึงกันอยู่
เฟิงเชียนเสวี่ยคิดอยากจะบุกเข้าไป แต่สมองก็บอกกับเธอว่าถ้าเธอบุกเข้าไปทั้งแบบนั้น ไม่เพียงแค่จะช่วยใครไม่ได้ เธอก็จะพลอยอันตรายไปด้วย
พอคิดได้แบบนั้น เฟิงเชียนเสวี่ยก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อแจ้งความ...
แต่ในขณะนั้นเอง บอดี้การ์ดคนหนึ่งก็เห็นเธอ “ใครน่ะ”
สีหน้าของเฟิงเชียนเสวี่ยเปลี่ยนไปทันทีและรีบหนีออกไปอย่างรีบร้อน
บอดี้การ์ดตามมาด้านหลัง
เฟิงเชียนเสวี่ยร้อนใจมาก เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ดใกล้จะตามเธอทันแล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “พวกนายจะทำอะไร”
บอดี้การ์ดหยุดวิ่งตามทันที
เฟิงเชียนเสวี่ยหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นซือหย่วนที่วิ่งตามมาอย่างรีบร้อน บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ รถรีบอธิบายอย่างร้อนตัว
เฟิงเชียนเสวี่ยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็เร่งฝีเท้ากลับไปยังห้องโถงด้านหลังของโรงแรม
“เสี่ยวเฟิง!” ทันใดนั้นเอง พี่ฟางก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน “งานเลี้ยงจบก่อนเวลา เธอเลิกงานก่อนได้เลยนะ เงินยังได้สองหมื่นเท่าเดิม พรุ่งนี้ฉันจะโอนให้นะ”
“ขอบคุณค่ะพี่ฟาง” เฟิงเชียนเสวี่ยหันกลับไปมอง แขกทั้งหลายแยกย้ายกันกลับไปเกือบหมดแล้ว ส่วนนักดนตรีคนอื่นๆ ก็กำลังเก็บของเตรียมจะออกไปแล้ว
“ทำไมกระโปรงของเธอเลอะแบบนั้นล่ะ” พี่ฟางเห็นว่าชายกระโปรงของเฟิงเชียนเสวี่ยมีดินเปื้อนอยู่จึงขมวดคิ้วและถามขึ้น “เธอต้องซักให้สะอาดนะ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รู้จะบอกกับร้านชุดว่าอย่างไรดี”
“ขอโทษค่ะๆ คืนนี้ฉันจะกลับไปซักให้สะอาดแน่นอน แล้วพรุ่งนี้จะเอาไปพี่นะคะ”
เฟิงเชียนเสวี่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของต่างๆ จากนั้นก็เดินออกมาจากด้านหลังของโรงแรม
เมื่อเดินผ่านลานจอดรถ เธอก็หันไปมองอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับคิดในใจ ตอนนี้ไป๋ลู่คงจะไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมนะ
ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนไป๋ลู่จะเคยทำร้ายเธอมาก่อน แต่เธอก็ได้รับผลกรรมนั้นแล้ว
เธอไม่ได้หวังว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับไป๋ลู่...
เฟิงเชียนเสวี่ยออกไปอย่างรีบร้อนและเตรียมเรียกรถที่ข้างทาง แต่กลับได้ยินเสียงอ่อนแรงพูดขึ้นเบาๆ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก
เทกันแบบนี้เลยหรอมีต่ออีกมั้ย...
แอด..กลับบ้านด่วน...ยังรออยู่นะคะ😁😁...
ขอบคุที่ลงให้อ่านนะคะ สนุกมากเลย อย่าลืมมาลงต่อนะคะ 👍🏻...
อย่าหายไปนานนะแอด😁😁...
แอด..กลับมาอัพเดทแล้ว..น่ารักที่สุด👍👍👍...
แอด..อย่าเทกันเลย..กลับมาลงต่อหน่อยจ้า😂😂😂...