“ถึงตอนนั้นเดี๋ยวก็รู้เอง” เยี่ยเจิ้นถิงยิ้มอย่างมีเลศนัย และเริ่มถามเกี่ยวกับเรื่องงาน
ผู้ถือหุ้นหลายคนรีบรายงานเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือปัญหาด้านบริการหลังการขายบางอย่างของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีรุ่นใหม่ ลูกค้ามากกว่าสามสิบรายจากทุกหนทุกแห่งทั่วโลกต่างเข้ามาร้องเรียนโดยพร้อมเพรียงกัน และยังเป็นคำค้นหายอดนิยมอีกด้วย
ตอนนี้สื่อให้ความสนใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ถ้าหากไม่ให้คำอธิบายอีกล่ะก็ เกรงว่าจะมีผลกระทบจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์
เยี่ยเจิ้นถิงอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ถูกร้องเรียนนั่น ฉันเพิ่งลองใช้ด้วยตัวเองไป ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ไปตรวจสอบดูซิว่ามีความเกี่ยวข้องระหว่างคำร้องเรียนของลูกค้าหรือเปล่า”
“นี่มัน...” ผู้ถือหุ้นหลายคนต่างมองไปที่กรรมการเจี่ยง
“ก่อนหน้านี้ผมก็สงสัยว่ามีใครจงใจทำหรือเปล่า ก็เลยตรวจสอบคำร้องเรียนเหล่านั้นของลูกค้า จนถึงตอนนี้ ก็ไม่มีเบาะแสอะไรเลย” กรรมการเจี่ยงกล่าว “อาจจะต้องใช้วิธีของคุณ ถึงจะสามารถตรวจสอบความลับที่อยู่เบื้องหลังได้”
เยี่ยเจิ้นถิงเลิกคิ้วมองไปที่เยี่ยฮุย “นายได้ยินหรือยัง?”
“รับทราบครับ” เยี่ยฮุยพยักหน้า “จะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้เลยครับ”
“ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤตรับมือกับสื่อไปก่อน ถ้าผลการตรวจสอบของเยี่ยจวินออกมาแล้ว ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” เยี่ยเจิ้นถิงดูวันที่ แล้วหันไปถามเยี่ยฮุย “สามวันพอไหม?”
“พอครับ” เยี่ยฮุยตอบกลับ “จะแจ้งรายละเอียดของผลการตรวจสอบภายในสามวันอย่างแน่นอนครับ”
“ทุกท่านพอใจใช่ไหม?” เยี่ยเจิ้นถิงมองไปทางผู้ถือหุ้นทั้งหลาย
“มีประธานเยี่ยออกโรงเอง พวกเราก็สบายใจแล้วล่ะ”
ผู้ถือหุ้นหลายคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ความสามารถในการจัดการเรื่องต่างๆ ของพวกเขามีจำกัด และปัญหาที่ยุ่งยากวุ่นวายมากมายมีเพียงเยี่ยเจิ้นถิงเท่านั้นที่สามารถแก้ไขได้
สุดท้ายแล้ว เขาก็ใช้อธรรมกับธรรมเข้ามา และมีความเป็นกลางอยู่ด้วย ตราบใดที่เขาออกโรงเอง ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร ก็สามารถแก้ไขมันได้อย่างง่ายดาย
“มีปัญหาอะไรอีกไหม?” เยี่ยเจิ้นถิงแก้ไขไปทีละปัญหา
“ผลิตภัณฑ์อัจริยะที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ติดอยู่ตรงช่วงหนึ่ง” กรรมการเจี่ยงหยิบแท็ปเล็ตขึ้นมาเปิดแผนการการออกแบบเสมือนจริง “ผลิตภัณฑ์ชุดนี้เดิมทีใช้ในการศึกษาของเด็กเล็ก ตอนนี้พบว่ามีปัญหาหลายอย่าง แล้วก็ยังแก้ไขไม่ได้...”
ผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เมื่อได้ยินดังนั้น ก็ต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มที่อยู่ภายใต้เยี่ยซื่อกวาดตลาดเอเชียแปซิฟิกไป ไม่มีใครสามารถโค่นล้มได้ และคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวนั่นก็คือเหลิ่งซื่อ
แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เหลิ่งซื่อนั้นบุกเบิกตลาดยุโรปมาโดยตลอด และไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ กับเยี่ยซื่อเลย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนนี้ถึงต้องการจะเข้าสู่ตลาดในประเทศขึ้นมาจริงๆ
เหลิ่งซื่อและเยี่ยซื่อเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตลอด สมัยก่อนก็มีบุญคุณและความแค้นอันใหญ่หลวงกัน
และยิ่งไปกว่านั้น มิสเตอร์แอลในตำนานที่กุมอำนาจเหลิ่งซื่อ ใช้กลอุบายกระทำการอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต เขาทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ เหลิ่งซื่อเริ่มก่อพลังสีดำทมิฬขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าหากต้องการจะเผชิญหน้ากับเยี่ยซื่อล่ะก็ เกรงว่าจะรับมือได้ยาก
ผู้ถือหุ้นหลายคนต่างมองไปที่เยี่ยเจิ้นถิง เพื่อรอคำตอบจากเขา
เยี่ยเจิ้นถิงไม่ได้สนใจมัน “ไม่ต้องแตกตื่นไปหรอก ถึงมันจะเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ว่าจะมาวิธีไหน เราก็สามารถรับมือได้ เราคือตระกูลเยี่ย ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว!”
“ใช่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก
เทกันแบบนี้เลยหรอมีต่ออีกมั้ย...
แอด..กลับบ้านด่วน...ยังรออยู่นะคะ😁😁...
ขอบคุที่ลงให้อ่านนะคะ สนุกมากเลย อย่าลืมมาลงต่อนะคะ 👍🏻...
อย่าหายไปนานนะแอด😁😁...
แอด..กลับมาอัพเดทแล้ว..น่ารักที่สุด👍👍👍...
แอด..อย่าเทกันเลย..กลับมาลงต่อหน่อยจ้า😂😂😂...