คำพูดของหลินหยางทำให้หลายคนตกใจ
แต่ทุกคนก็เข้าใจความหมายของหลินหยางดี
ในเมื่อโจแอลบีบคั้นเขา ต้องการให้หลินหยางเอาชีวิตมาเดิมพัน หลินหยางย่อมไม่มีทางรอความตายโดยไม่ทำอะไร
“แต่ผมเอาหัวใจแห่งเทพออกมาวางเดิมพันแล้ว!” โจแอลเหมือนไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ เขายักไหล่แล้วพูด
“พูดแบบนี้หมายความว่าคุณกลัวเหรอ?” หลินหยางถามกลับ
“กลัว? เป็นไปได้ยังไง? ผมแค่ไม่อยากถือสากับคนอย่างคุณก็เท่านั้น ไอ้หนู ผมรังเกียจคุณ! หน้าขาวของคุณ ท่าทางของคุณ! มันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอคุณ ผมก็อยากฉีกหน้าของคุณให้เละแล้ว!” โจแอลก้าวออกมา ใบหน้าของเขาแทบชนกับใบหน้าของหลินหยาง “แต่ในเมื่อคุณต้องการ ผมจะเล่นกับคุณก็ได้!”
หลินหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองไปล่วงเกินโจวแอลตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เขาเป็นคนไม่กลัวใครอยู่แล้ว ในเมื่ออีกฝ่ายบีบคั้นตนเอง เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องอดกลั้น
“เอามาทุกท่าน ในเมื่อพวกคุณตกลงกันได้แล้ว และไม่มีความเห็นอะไรอีก ถ้าอย่างนั้นพวกเรารีบเริ่มกันเถอะ” อาวุโสห้าปรบมือแล้วพูด
“ได้!”
“ใครเข้าไปก่อน?”
“ผมเอง!”
โจงซื่อเทียนก้าวออกมา เดินไปทางประตูใหญ่
คนของลัทธิโลหิตมารรีบก้าวถอยหลังทันที อาวุโสห้ายืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาปรบมือสามครั้ง หลังจากนั้นตะคอกเสียงดัง “ประตูเปิด!”
โครม…
ประตูใหญ่ที่หนาแน่นเปิดออกทีละนิด
แต่ด้านในกลับมืดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่าง
สีหน้าของโขงซื่อเทียนเคร่งขรึมลงเล็กน้อย ก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านใน
“ประตู ปิด!” อาวุโสห้าตะคอกอีกครั้ง
ประตูเริ่มปิดลงอย่างเชื่องช้า
“ทำไม? พวกเราดูสถานการณ์ด้านในไม่ได้เหรอ?” หนานฉินอดไม่ได้ที่จะถาม
“ไม่ได้ เพราะการเล่นหมากรุกจำเป็นต้องใช้จิตใจที่สงบ จะให้ผู้ชมรบกวนไม่ได้เด็ดขาด” อาวุโสห้าพูด
“โถ่!” หนานฉินรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
ทุกคนรออยู่หน้าประตูโดยไม่มีใครพูดอะไร
หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที
โครม…
ประตูเปิดอีกครั้ง
ทุกคนสะดุ้ง รีบหันไปมองทางประตู
พบว่ามีคนเดินออกมาจากความมืดที่อยู่ในประตูด้วยท่าทางที่โซซัดโซเซ!
ตั้งใจมอง! พบว่านั่นคือโขงซื่อเทียน!
ร่างกายของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยบาดแผลกระบี่ มุมปากมีคราบเลือดติด ท่าทางเหมือนใกล้จะเดินไม่ไหวแล้ว
“อะไรกัน?”
หนานฉินและโจแอลรู้สึกตกใจมาก
เพิ่งจะสิบห้านาที! โขงซื่อเทียนก็ไม่ไหวแล้ว?
เดิมทีทุกคนคิดว่าด้วยความสามารถของโขงซื่อเทียน อยู่ในนั้นสักครึ่งชั่วโมงคงไม่เป็นปัญหา แต่ทำไมเพิ่งจะผ่านไปสิบห้านาทีก็ออกมาแล้ว?
ยิ่งไปกว่านั้นท่าทางที่สะบักสะบอมของเขา เกรงว่าถ้าอยู่ต่ออีกสักพักสองนาที คงจะต้องตายอยู่ในนั้นแน่นอน!
“โขงซื่อเทียน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หนานฉินก้าวออกมา เหลือบมองเขาแล้วถาม
“ด้านใน…ร้ายกาจมาก! ร้ายกาจมาก!”
โขงซื่อเทียนพูดเสียงสั่น สีหน้าซีดเซียว ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจและตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าตั้งสติไม่ทัน
เห็นแบบนี้ หนานฉินและโจแอลสบตากัน
“คุณโขง คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ใครก็ได้ รีบพาคุณโขงเข้ารับการรักษา!” อาวุโสห้ารีบพูด
“ครับ!”
คนของลัทธิมารโลหิตรีบก้าวออกมาประคองโขงซื่อเทียน
“ไม่จำเป็น!”
โขงซื่อเทียนตั้งสติได้ ผลักคนคนนั้นออก
“คุณโขง” อาวุโสห้าตกตะลึง
“อาการบาดเจ็บแค่นี้ไม่ถึงตาย ไม่จำเป็นต้องห่วง ต่อจากนี้ก็ถึงคิวของพวกคุณสามคนแล้ว” โขงซื่อเทียนกัดฟัน ท่าทางของเขาดูไม่พอใจกับผลของตนเองมากเท่าไหร่ เขาต้องการนั่งดูผลของคนทั้งสาม
อาวุโสห้าก็เข้าใจความคิดของเขา ครุ่นคิดสักพักก็ไม่ได้ยืนกรานต่อ
“ใครจะเป็นคนที่สอง?” โจแอลถาม
“ฉันก็แล้วกัน” หนานฉินสูดลมหายใจเข้า เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตู
โครม…
ประตูปิดลงอีกครั้ง ไม่มีใครสามารถมองเห็นการต่อสู้ที่อยู่ด้านใน
แต่ตอนนี้ไม่ได้มีคนสนใจว่าหนานฉินจะเป็นยังไง สิ่งเดียวที่ทุกคนสนใจคือ
เธอจะอยู่ได้นานแค่ไหน!
หลินหยางหลับตาพักสมองอยู่ด้านข้าง
ทว่าผลของโจแอลทำให้ทุกคนตกใจมาก!
เขาอยู่ด้านในจนครบหนึ่งชั่วโมงถึงจะออกมา!
ความแข็งแกร่งของเขา…น่ากลัวถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
โดยเฉพาะตอนที่โจแอลเดินออกมา ทุกคนเบิกตากว้าง
เห็นเพียงบนร่างกายของโจแอลเต็มไปด้วยดินโคลน ดูสะบักสะบอม แต่ว่า…นอกจากบาดแผลที่อยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง ก็ไม่มีบาดแผลใหญ่อะไรเลย!
“อะไรกัน?”
เสียงอุทานดังขึ้นไม่หยุด
“คุณโจแอล ดูเหมือนคุณจะไม่เป็นอะไรเลย น่าจะยังสู้ไหว แต่ทำไมถึงออกมาก่อนแล้ว?” โขงซื่อเทียนรีบเดินเข้าไปถาม
ทุกคนก็กำลังสงสัยแบบนี้เหมือนกัน
ทว่าโจแอลกลับพูดด้วยสีหน้าที่ดูน่าเกลียด “สู้ไม่ไหวก็ถอย”
“สู้ไม่ไหว?”
ทุกคนหันไปมองหน้ากัน งงเป็นไก่ตาแตก
“ทำไมถึงบอกว่าสู้ไม่ไหว? เห็นได้ชัดว่าคุณยังสามารถสู้ต่อได้” มีคนพูด
โจแอลพ่นลมออกจากจมูกดังฮึ่ม แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก
ส่วนอาวุโสห้าเป็นคนตอบคำถามแทนเขา
“กระดานโลหิตมารไม่ใช่เกมกระดานที่พึ่งพาทักษะการต่อสู้อย่างเดียว ต้องการเอาชนะมัน จำเป็นต้องมีทั้งกำลังและสติปัญญา! คุณโจแอลน่าจะโดนบีบจนฝาชนหลัง ถ้าหากเขาไม่ยอมแพ้ จะต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย เพราะแบบนี้ถึงเขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถสู้ต่อไปแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะตาย” อาวุโสห้ายิ้มเล็กน้อยแล้วพูด
“โดนบีบจนฝาชนหลัง?”
ทุกคนได้ยินแล้วรู้สึกเหลือเชื่อมาก
“ดูเหมือนเกมกระดานนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด” โขงซื่อเทียนถอนหายใจ ในแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
คนที่สามารถออกแบบกระดานแบบนี้ ต้องเป็นคนที่น่าทึ่งมากแค่ไหน
“แต่การที่คุณโจแอลสามารถอยู่ได้นานถึงหนึ่งชั่วโมง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก นับถือ! นับถือ!” อาวุโสห้ายิ้มแล้วพูด
“ฮึ่ม ก็แค่ชั่วโมงเดียว ถ้าไม่ได้เป็นเพราะผมไม่คุ้นเคยกับด้านใน มีเหรอจะอยู่ได้แค่ชั่วโมงเดียว? อาวุโสห้า หรือไม่ให้ผมเข้าไปอีกครั้ง? ผมจะฝ่าด่านด้านในให้หมด!” โจแอลพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“คุณโจแอล มันไม่ได้ง่ายเหมือนกับที่คุณคิด ที่คุณเห็นทั้งหมดเป็นแค่กระดานตายตัวเท่านั้น และกระดานตายตัวของกระดานมารโลหิตมีนับไม่ถ้วน คุณต้องการทำความเข้าใจทั้งหมด จำเป็นต้องใช้เวลาหลายสิบปี ถึงให้คุณเข้าไปอีกร้อยครั้งก็เป็นไปไม่ได้” อาวุโสห้าส่ายหัว
โจแอลกัดฟัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“เอาล่ะ ต่อจากนี้ถึงคิวของหมอเทวดาหลินแล้ว!” อาวุโสห้าหันไปมองทางหลินหยาง
ส่วนคนที่เหลือก็มองตามเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...