ศิษย์พี่ของตนเองมีความสามารถมากแค่ไหน เธอย่อมรู้ดีที่สุด แม้แต่เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ล่อเขามาหาหลินหยาง
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ความแข็งแกร่งของหมอเทวดาหลินเกินความคาดหมายของตนเอง
หลินหยางเองก็ไม่เกรงใจ จ้องผู้ชายคนนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา เขาชักกระบี่ที่โขงซื่อเทียนให้มา หลังจากนั้นฟันไปที่ผู้ชายคนนั้นโดยตรง
เห็นได้ชัดว่าหลินหยางต้องการฆ่าเขา!
แต่นี่จะโทษหลินหยางมีจิตใจที่โหดเหี้ยมไม่ได้ เพราะผู้ชายคนนี้ก็คิดจะฆ่าเขาเหมือนกัน
“หมอเทวดาหลิน ช้าก่อน!”
หนานฉินรีบตะโกนด้วยความร้อนใจ
แต่…หลินหยางไม่มีท่าทีที่จะใจอ่อน คมกระบี่พุ่งตรงเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น
หนานฉินทนไม่ไหวอีกแล้ว เธอชักกระบี่อ่อนที่ซ่อนอยู่ตรงเอวออกมา พุ่งตรงเข้าไปรับกระบี่ของหลินหยาง
ติง!
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น
แต่หนานฉินกลับโดนสะเทือนจนถอยหลัง มือที่ถือกระบี่อ่อนสั่นอย่างบ้าคลั่ง เกือบจะหลุดออกจากมือ
เป็นพลังที่น่ากลัวมาก
หนานฉินหรี่ตาลง รีบพูดเสียงเบา “หมอเทวดาหลิน! โปรดหยุดเถอะ!”
“คุณบอกให้ผมหยุดผมก็ต้องหยุดเหรอ? เรื่องนี้คุณเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่เหรอ?”
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นโดยไม่ต้องคิด
“บัดซบ!”
ผู้ชายคนนั้นโกรธแล้ว เขารีบกระโดดลุกขึ้นพุ่งเข้าไปหาหลินหยาง
แต่ความสามารถของเขากับหลินหยางแตกต่างกันเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นกระบี่ที่อยู่ในมือของหลินหยางคือกระบี่ปรมาจารย์ยุทธ และยังสู้กับเขาในขณะที่เจตนาแห่งการฆ่าเอ่อล้น ผู้ชายคนนั้นจะเอาอะไรมาสู้?
คนทั้งสองปะทะกัน แม้มีหนานฉินพยายามหยุดหลินหยาง แต่ผู้ชายคนนั้นก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“หมอเทวดาหลิน ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฉัน โปรดหยุดเถอะ อย่าทำร้ายศิษย์พี่อีกเลย! ศิษย์พี่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา ไม่ควรล่วงเกินเด็ดขาด!” หนานฉินพูด
“หมายความว่าสามารถล่วงเกินผมได้เหรอ?” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา หลังจากนั้นจู่โจมใส่ผู้ชายคนนั้นโดยไม่สนใจหนานฉินอีก
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ บนร่างกายของผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งเต็มไปด้วยบาดแผล ผ่านไปเพียงครู่เดียว เขากลายเป็นมนุษย์เลือดไปแล้ว
จนกระทั่งในต่อนั้นเอง…
“หยุดเดี๋ยวนี้!” มีเสียงตะคอกดังขึ้น
หลังจากนั้นมีคนของลัทธิมารโลหิตจำนวนมากวิ่งเข้ามาในที่พักของหลินหยาง พวกเขาปิดล้อมผู้ชายคนนั้นเอาไว้
แววตาของหลินหยางเย็นชาลง จ้องคนของลัทธิมารโลหิต พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “พวกคุณทำอะไร?”
“หมอเทวดาหลิน ทำร้ายคนคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!” อาวุโสห้ารีบเดินเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ทำร้ายไม่ได้?” หลินหยางมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา “แล้วที่เขาทำร้ายผม จะคิดยังไง?”
อาวุโสห้าเป็นคนฉลาด มีหรือจะมองสถานการณ์ไม่ออก
สายตาของเขาหันไปมองทางฉินหนานสักพัก หลังจากนั้นมองไปทางผู้ชายคนนั้น ในใจรู้สึกโกรธ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมา ทำได้แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ “หมอเทวดาหลิน เขาเป็นหลานชายของฉินไท่จื่อ ชื่อหยวนเซิน เขาอายุยังน้อยไม่รู้ความ นิสัยใจร้อนจนล่วงเกินหมอเทวดาหลิน หวังว่าหมอเทวดาหลินหยางจะไม่ถือสาเด็กน้อย ให้อภัยหยวนเซิน”
“ฉินไท่จื่อ? ไม่เคยได้ยิน”
“ฉินไท่จื่อเป็นผู้ฝึกฝนพเนจร ความสามารถแข็งแกร่ง ออกเดินทางทั่วหล้า ชื่อเสียงเกรียงไกร แม้กระทั่งลัทธิโลหิตมารของพวกเราก็ไว้ต้องหน้า คุณฉินก็เป็นลูกศิษย์ของเขา ส่วนเขาเป็นหลานชายของฉินไท่จื่อ ถ้าหากหมอเทวดาหลินยอมให้อภัยหยวนเซิน ผมคิดว่าฉินไท่จื่อต้องจดจำบุญคุณของคุณแน่นอน คุณคิดยังไง?”
“บุญคุณของเขาสำคัญต่อผมมากเลยเหรอ?”
หลินหยางหันไปมองหนานฉิน “คุณใช้ผมเป็นโล่กำบัง ทำให้ผมกับศิษย์พี่ของคุณเกิดความขัดแย้ง ดังนั้นคุณต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา”
“หมอเทวดาหลิน โปรดอย่าถือสา!” ในแววตาของหนานฉินเผยให้เห็นความไม่พอใจ แต่ก็ยังก้มหน้าลงแล้วพูด
“คำขอโทษมันไม่มีประโยชน์แล้ว ถ้าหากผมสู้เขาไม่ได้ คนที่นอนอยู่บนพื้นตอนนี้คงจะเป็นผมไปแล้วมั้ง? ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมผมต้องเกรงใจกับพวกคุณด้วย?”
พูดจบ หลินหยางเดินตรงเข้าไปหาหยวนเซิน
“หมอเทวดาหลิน!” อาวุโสห้ารีบตะโกนด้วยความร้อนใจ
“ใครเข้ามาขวางผม! ผมจะฆ่าคนนั้น! อาวุโสห้า ถึงเป็นคนของลัทธิโลหิตมารก็ตาม!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย
คนของลัทธิโลหิตมารหน้าถอดสี
สมองของหนานฉินว่างเปล่าไปหมด
เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องมันจะบานปลายถึงเพียงนี้ และไม่เคยคิดว่าหมอเทวดาหลินจะรับมือยากเช่นนี้ ถึงขั้นกล้าไม่ไว้หน้าลัทธิโลหิตมาร
อวดดีมาก!
เขาไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมาเหรอ?
หลินหยางก้าวออกไปข้างหน้า
อาวุโสห้าและคนอื่นรู้สึกกดดันมาก
เพื่อหยวนเซิน หนานฉินยินดีใช้ร่างกายของตนเองรับกระบี่?
นี่มันอะไรกัน?
หนานฉินรังเกียจศิษย์พี่ของตนเองไม่ใช่เหรอ?
ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย มีเสียงพิณที่สดใสและชัดเจนดังขึ้นกลางอากาศ
หลังจากนั้นคลื่นพลังสายหนึ่งพุ่งเข้ามาปะทะคมกระบี่ของหลินหยาง
กระบี่ของหลินหยางสั่นสะเทือน เหลือบมองไปที่กลางอากาศ เก็บกระบี่ก้าวถอยหลัง
“ฉินไท่จื่อ!”
มีคนจำเสียงพิณที่ลึกลับและซับซ้อนนี้ได้ จึงอุทานขึ้นทันที
เห็นเพียงเงาสีขาวสายหนึ่งพุ่งผ่าน ราวกับนกกระเรียงโบยบิน
หลังจากนั้น มีคนไปยืนอยู่ตรงภูเขาจำลองที่อยู่ด้านหลังของทุกคนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
มือข้างหนึ่งของเขาถือกระบี่ ส่วนอีกครั้งกอดพิณ กำลังมองทุกคนด้วยสายตาที่เฉยเมย
สายตาของทุกคนก็หันไปมองเขาเช่นกัน
ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ค่อนข้างหล่อเหลาแบบหนุ่มงาม รอบตัวมีกลิ่นอายของความอ่อนโยนและสง่างามรายล้อม แต่มีหมอเทวดาหลินที่สง่างามราวกับเทพบุตร ผู้ชายคนนี้ยังไม่พอให้มอง
“คุณลุง!”
หยวนเซินดีใจ รีบตะโกนเสียงดัง “คุณลุง ช่วยผมด้วย!”
หนานฉินรีบคุกเข่าลงพื้น “ศิษย์คำนับอาจารย์”
“พวกคุณมันบ้าบิ่นเกินไปแล้ว!”
ฉินไท่จื่อเหลือบมองหนานฉิน พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ฉินเอ๋อร์ การแสดงของคุณแย่มาก คุณมองไม่ออกเหรอว่าหมอเทวดาหลินเป็นคนที่ก้าวร้าวแค่ไหน คิดจะใช้เขาล่อผมออกมา?”
“หา? คือ…” หนานฉินอ้าปาก เข้าใจความหมายของเขาได้ทันที
การที่เธอพยายามปกป้องหยวนเซินแบบนี้ ทำให้ผู้คนเกิดความสงสัย มีเพียงเหตุผลเดียวที่สามารถอธิบายได้ นั่นก็คือฉินไท่จื่ออยู่ในละแวกนี้ ที่หนานฉินทำแบบนี้ก็เพราะต้องการทำให้ฉินไท่จื่อเห็น
“ฉินเอ๋อร์ผิดไปแล้ว” หนานฉินรีบคุกเข่าลงพื้น
ฉินไท่จื่อไม่ได้สืบสาวเรื่องนี้มาก เพียงแค่หยิบของบางอย่างที่ถูกห่อด้วยผ้าสีขาวออกมาโยนให้หลินหยาง
หลินหยางยื่นมือออกไปรับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...