สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1301

“ไม่มีใครสามารถดูดซับพลังของราชาหลินจือโลหิตได้อย่างสมบูรณ์! มันตั้งอยู่ตรงนั้น ผมสามารถสัมผัสได้ถึงพลัง…ที่ไร้ขีดจำกัด!” หลินหยางพูดพึมพำ

ถึงนำช้างหนึ่งร้อยตัวมามัดรวมกัน เมื่ออยู่ต่อหน้าราชาหลินจือโลหิต ก็จะระเบิดกลายเป็นเศษซาก!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินหยาง ถึงเป็นร่างดวงดาวโดยกำเนิดก็ไม่สามารถช่วยอะไร

ทว่าชายชรากลับไม่ยอมตายใจ ในทางกลับกันยิ่งโน้มหน้าเข้ามาใกล้หลินหยาง พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “พ่อหนุ่ม คุณเคยได้ยินร่างเทพยุทธหรือเปล่า?”

“ร่างเทพยุทธ?”

หลินหยางอึ้ง หลังจากนั้นส่ายหัว “ไม่เคยได้ยิน”

“ไม่เคยได้ยินก็ไม่เป็นไร เพราะวิชาเหนือธรรมชาติแบบนี้เริ่มเห็นน้อยลงตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน!”

ชายชรายิ้ม หลังจากนั้นจับข้อมือของเขาแล้วเลิกแขนเสื้อขึ้น

“คุณต้องรู้สึกขอบคุณแขนที่หายไปคือข้างนั้น ถ้าหากเป็นครั้งนี้ ลั่ววิญญาณลั่วหลินพวกนี้คงน่าเสียดายแย่”

“อันที่จริงผมสามารถใช้ราชาหลินจือโลหิตทำให้อวัยวะงอกขึ้นใหม่! ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนอาจจะทำไม่ได้ แต่อาศัยเห็ดหลินจือต้นนี้ ทุกอย่างมีความเป็นไปได้” หลินหยางส่ายหัวแล้วพูด

“ดังนั้นคุณฝึกร่างเทพยุทธก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย อาศัยพลังเลือดวิญญาณลั่วหลิน คุณได้ทำให้ร่างกายของตัวเองกลายเป็นร่างดวงดาวโดยกำเนิด ถ้าอย่างนั้นต่อจากนี้ คุณก็เหลืออีกเพียงก้าวเดียว!”

“อะไร?”

“วิวัฒนาการ!”

“วิวัฒนาการ?”

หลินหยางงงเป็นไก่ตาแตก

กลับเห็นชายชรายกแขนที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกขึ้น เลิกแขนเสื้อที่ฉีกขาดของตัวเอง หลังจากนั้นใช้มืออีกข้างคว้าไปที่ข้อมือของตนเอง

“อ๊าก! ! !”

ชายชราส่งเสียงคำราม ออกแรงกระชากอย่างกะทันหัน

ฉึก!

ผิวหนังตรงข้อมือถูกเขากระชากจนหลุด

เผยให้เห็นเลือดเนื้อ!

ภายใต้ผิวหนัง…มีจุดสีแดงหลายจุดปรากฏให้เห็น!

“เลือดวิญญาณลั่วหลิน!”

หลินหยางอุทาน!

“พ่อหนุ่ม ตอนนี้คุณสามารถรวบรวมเลือดวิญญาณลั่วหลินครบสามสิบหยด! สามารถใช้ร่างเทพยุทธได้แล้ว!” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง

หลินหยางคิดไม่ถึงว่าชายชราจะมีเลือดวิญญาณลั่วหลินมากเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น…เขาซ่อนมันไว้ยู่ใต้ผิวหนัง! ส่งผลให้หลายปีมานี้คนของลัทธิโลหิตมารไม่เคยรู้

“ทุกคนล้วนแต่บอกว่าคนของลัทธิโลหิตมารเจ้าเล่ห์ แต่อันที่จริงพวกเขาโง่มาก! ตอนที่ผมถูกจับ ผมจงใจถลกหนังข้อมือข้างซ้าย และนำมันมาปิดไว้บนข้อมือข้างขวา ใช้กำลังภายในเย็บมันเข้าด้วยกัน เพราะแบบนี้ทุกคนจึงเห็นว่าข้อมือข้างขวาของผมได้รับบาดเจ็บ จึงไม่มีใครมาตรวจดู พลังของผมสลายไปหมดแล้ว หลายสิบปีมานี้ถึงผมสามารถสายเลือดวิญญาณลั่วหลินฝึกฝนใหม่ แต่ท้ายที่สุดผมอายุมากแล้ว เพราะแบบนี้จึงขอมอบพวกมันให้คุณก็แล้วกัน คุณมีเลือดวิญญาณลั่วหลินสามสิบหยด สามารถใช้ร่างเทพยุทธ คนของลัทธิโลหิตมารทำอะไรคุณไม่ได้แน่นอน!”

ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง หลังจากนั้นยกแขนขึ้นหยดเลือดลงบนข้อมือของหลินหยาง

มองดูประกายสีแดงทั้งสามสิบจุด หลินหยางรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

สามสิบหยด!

มันคือตรรกะแบบไหน?

แม้แต่ฝันก็ยังไม่เคยฝันถึง

เกรงว่าบนโลกใบนี้คงไม่มีใครกล้าจินตนาการว่าจะได้ครอบครองเลือดวิญญาณลั่วหลินมากมายเช่นนี้…

“ตอนนี้ ผมจะสอนวิธีหลอมรวมร่างเทพยุทธให้คุณ!”

เสียงที่แผ่วเบาของชายชราดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฟังดูอ่อนล้ามาก

หลินหยางรู้ได้ในทันที หลังจากชายชราสูญเสียเลือดวิญญาณลั่วหลิน กลไกการทำงานในร่างกายลดต่ำลงอย่างมาก ตอนนี้เขาเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว ถึงเป็นหลินหยางก็ไม่สามารถรักษาชีวิตของเขา

เพราะสภาพแวดล้อมของที่นี่มีขีดจำกัด ไม่มีอุปกรณ์และวัตถุดิบยาที่เหมาะสม จึงไม่สามารถรักษาชีวิตของชายชรา

ก่อกำแพงจำเป็นต้องมีอิฐ

“ผมเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ดังนั้นเคล็ดวิชาต่อจากนี้ผมจะพูดแค่รอบเดียว พ่อหนุ่ม คุณต้องตั้งใจฟังให้ดี จิตใจห้ามวอกแวกเด็ดขาด! เข้าใจหรือยัง?”

“เข้าใจแล้ว! ผู้อาวุโส!”

หลินหยางพยักหน้าอย่างจริงจัง

ชายชรายิ้มอย่างชื่นชม เริ่มท่องบริบท

“ชีวิตคือความว่างเปล่า วิชายุทธคือวิญญาณ ฟ้าดินคือร่างกาย จิตวิญญาณรับรู้…”

ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายล้มลงไปด้านข้าง

หลินหยางเบิกตากว้าง รีบพุ่งเข้าไปประคองชายชรา ในขณะเดียวกันก็หยิบเข็มออกมาเสียบลงบนข้อมือของชายชรา

ผ่านไปสักพัก ลมหายใจของชายชราเริ่มคงที่

แต่ยังคงอ่อนแรงอยู่ดี

“ผู้อาวุโส คุณเป็นยังไงบ้าง?” หลินหยางถามเสียงเบา

“ผมบอกทุกอย่างที่ควรบอกให้คุณรู้หมดแล้ว ต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวของคุณ คุณไปตั้งใจทำความเข้าใจกับมันให้ดี บางทีมันอาจจะต้องใช้เวลา แต่ผมเชื่อ สักวันคุณจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากกว่าผม” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ในแววตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

แต่น่าเสียดาย เขาอยู่จนถึงวันที่หลินหยางได้ทะยานสู่ท้องฟ้าไม่ไหวแล้ว

“ผู้อาวุโส คุณต้องอดทนเอาไว้ ตอนนี้ผมช่วยทำให้ชีพจรของคุณคงที่แล้ว ผมจะพาคุณออกไปและรักษาคุณให้หายดี” หลินหยางพูดเสียงเบา

“ไม่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้ ถึงประตูบานนั้นจะแข็งแรงมาก แต่ที่นี่เป็นเพียงถ้ำ ถ้าหากคนของลัทธิโลหิตมารขุดรูเข้ามาจากด้านข้างก็ยากที่จะหยุดพวกเขา คุณเหลือเวลาไม่มากแล้ว จำเป็นต้องรีบปลดผนึกร่างเทพยุทธให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นสู้พวกเขาไม่ได้แน่นอน!” ชายชราพูดเสียงสั่น

“ผู้อาวุโส…”

“ไม่ต้องพูดมาก เร็ว…” ชายชราจับมือของหลินหยาง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหนักแน่นและเคร่งขรึม

หลินหยางไม่มีทางเลือก เขานั่งขัดสมาธิ ทำตามที่ชายชราพูด

แต่ในตอนนั้นเอง

โครม…

พื้นและกำแพงสั่นสะเทือน การสั่นสะเทือนครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา และมีเสียงของเครื่องจักรดังขึ้นไม่หยุด

หลินหยางได้ยินแล้วลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน

“คนของลัทธิโลหิตมารใช้เครื่องจักร?”

มันก็ถูก!

นี่ไม่ใช่ยุคสมัยโบราณแล้ว ถ้าหากต้องการทำลายประตู เครื่องจักรในปัจจุบันมีประโยชน์มากกว่ามือเท้าของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้! ถึงแม้ประตูบานนี้ถูกคิดค้นโดยบรรพบุรุษของลัทธิโลหิตมาร แต่บรรพบุรุษของพวกเขาก็ไม่สามารถแข่งกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ถ้าหากพวกเขาใช้เทคโนโลยีขั้นสูงทำลายประตู หรือแม้กระทั่งใช้ระเบิดแต่แรก ประตูบานนี้จะอยู่มาจนถึงตอนนี้หรือ?

นี่ก็ผ่านไปสามวันแล้ว คิดว่าลัทธิโลหิตมารคงไปหาของพวกนี้มาแล้ว…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา