ไม่ว่าฉินไป่ซงห้ามปรามอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
ทว่าสิ่งที่เธอทำมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ใช่คนดีอะไร
เขายกดาบราชวงศ์ถังในมือขึ้น ฟันตรงไปที่แขนของฉินหนิงอย่างไม่ลังเล
ลมหายใจของฉินหนิงหยุดชะงัก ก่อนที่จะตั้งสติได้ มีเลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกจากตรงหัวไหล่ หันไปมอง พบว่าแขนของตนเองไปตกอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้…
ก่อนที่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวด
ปัง!
ผู้ชายคนนั้นยกเท้าขึ้น ถีบไปที่ทองของฉินหนิง
“อ๊าก…”
ฉินหนิงกระอักเลือด ร่างกายลอยกระเด็นไปกระแทกใส่รถเบนท์ลีย์ที่พังยับเยินด้านหลัง สุดท้ายล้มลงพื้น ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เธอชักดิ้นจนเกือบหมดสติ
“เจ้าสำนักบอกแล้ว ฆ่าแค่ฉินไป่ซงกับพวก ส่วนคนที่เหลือถ้ากล้าเข้ามายุ่ง จัดการตามความเหมาะสม! อย่าทำให้เรื่องมันบานปลายเลย คุณถือว่าโชคดีแล้วที่ยังไม่ตาย”
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ เดินตรงเข้าไปหาฉินไป่ซงพร้อมกับดาบ
ในแววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี
“หยุด…เดี๋ยวนี้…” ฉินหนิงตะโกนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ต้องการเข้ามาห้ามอีก
แต่ความเจ็บปวดที่รุนแรงบนไหล่และท้องทำให้เธอไม่สามารถลุกขึ้นยืน
เธอทำได้แต่มองดูผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปหาฉินไป่ซงทีละก้าว และคมดาบกำลังฟันไปที่ลำคอของฉินไป่ซง
ทว่าในตอนนั้นเอง ดาบของเขาหยุดชะงักอย่างกะทันหัน
ฉินหนิงก็อึ้งเช่นกัน รีบหันไปมองโดยรอบ
พบว่ามีชาวบ้านจากละแวกโดยรอบมารวมตัวกันที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
พวกเขากำลังมองมาทางผู้ชายคนนี้ด้วยความโกรธ ปิดล้อมที่นี่อย่างกล้าหาญ
ผ่านไปเพียงครู่เดียว สถานที่เกิดเหตุอัดแน่นไปด้วยฝูงชน
“พวกคุณยังกล้ามาอีกเหรอ!”
“ตกลงผู้อำนวยการฉินมีความแค้นอะไรกับพวกคุณ ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไป?”
“น่าบัดซบที่สุด!”
“ครั้งก่อนพวกเราใจดีเกินไปเหรอ?”
“ครั้งนี้ต้องสั่งสอนหมอนี่ให้เข็ด!”
ชื่อคนที่อยู่โดยรอบตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ
มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งก้าวออกมา ตะคอกเสียงดัง “ไอ้หนู รีบวางดาบที่อยู่ในมือของคุณลงเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นตามพวกเราไปสถานีตำรวจ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ”
“เจ้าลัทธิบอกแล้ว ห้ามสังหารหมู่ แต่นอกจากสมาชิกระดับสูงของสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี ผมสามารถจัดการได้ตามความเหมาะสม”
ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ถ้าพวกคุณแยกย้ายตอนนี้ยังทัน เข้ามาอีกนิดได้เห็นเลือดแน่!”
“บัดซบ อวดดีมาก!”
ชายฉกรรจ์คนนั้นทนไม่ไหวอีกแล้ว เขาตะคอกเสียงดัง หลังจากนั้นยื่นมือออกไปคิดจะกระชากคอเสื้อของอีกฝ่าย
แต่ทันทีที่เขาเพิ่งยื่นมือออกไป
ฟิ้ว…
ดาบราชวงศ์ถังส่องแสงประกอบ
แขนของชายฉกรรจ์ตกลงสู่พื้น
“หา? อ๊าก!”
ชายฉกรรจ์เจ็บปวดจนร้องเสียงดัง
แต่ในขณะเดียวกันก็กระตุ้นความโกรธของฝูงชนอย่างสมบูรณ์
“จับเขา!”
ทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไปทันที
แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ใจอ่อน เขายกดาบขึ้นฟันอย่างบ้าคลั่ง
ผ่านไปเพียงผู้เดียว เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว
ข่าวได้แพร่กระจายออกไปแล้ว
แต่ข่าวในครั้งนี้ไม่ได้กระจายออกไปเร็วเหมือนกับก่อนหน้านี้
เพราะเสว่ฟงที่มาจากลัทธิโลหิตมารคนนี้ไม่ได้กระทำการอุกอาจเหมือนกับพวกอาวุโสใหญ่
ถึงแม้เขาจะถูกปิดล้อม แต่กลับเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว วิธีการค่อนข้างอำมหิต
ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
ดาบราชวงศ์ถังที่อยู่ในมือถูกย้อมกลายเป็นสีแดง
เลือดที่อยู่บนพื้นนองเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก
มีแขนขากระจายไปทั่วผืน
ผู้คนจำนวนมากกำลังส่งเสียงคร่ำครวญอยู่บนพื้น
บางคนเจ็บปวดจนหมดสติ บางคนกรีดร้องจนแทบขาดใจ
ไม่มีใครคาดคิดว่าเสว่ฟงจะอำมหิตได้ถึงเพียงนี้
เขาไม่ฆ่าคน แต่ตัดแขนตัดขา!
อย่างไร้ความปราณี!
ในมุมมองของเจ้าลัทธิโลหิตมาร ขอเพียงไม่ฆ่าประชาชนทั่วไป เรื่องมันก็จะไม่บานปลาย การตัดแขนตัดขาถือเป็นการเตือนที่เหมาะสมที่สุด
ดังนั้น เขาจึงอนุญาตให้เสว่ฟงทำเช่นนี้
เสว่ฟงยกดาบขึ้น ใช้ปลายลิ้นเลียคมกระบี่
ฟู่
ดาบหยุดชะงักกลางอากาศ
คมดาบอยู่ห่างจากศีรษะของฉินไป่ซงไม่ถึงหนึ่งนิ้ว…
ทุกคนตกตะลึง
เสวฟงเงยหน้าขึ้นมอง เขาพบว่ามีผู้ชายร่างสมส่วนคนหนึ่งไปยืนอยู่ที่ด้านหลังของฉินไป่ซงและคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ผู้ชายคนนี้สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบเล็กน้อย ผมและคิ้วเป็นสีขาวประกายทอง เหมือนเพิ่งงอกขึ้นมาใหม่ ดวงตาทั้งคู่ของเขาเป็นสีทอง กำลังจ้องเสว่เฟิงด้วยสายตาที่เฉยเมย สายตาคู่นั้น ราวกับกำลังมองมดที่อยู่บนพื้น…
สีหน้าของเสวฟงเคร่งขรึมลง
ไม่ใช่ว่าเขาต้องการหยุดดาบในมือ แต่เขาไม่หยุดไม่ได้ เพราะเขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ ถ้าหากตนเองฟันดาบลงไป ไม่เพียงแต่ไม่สามารถฆ่าฉินไป่ซง เกรงว่าตนเองก็จะตกอยู่ในอันตรายด้วย…
คนคนนี้…น่ากลัวมาก!
มีความคิดแบบนี้ผุดขึ้นในใจของเสว่ฟง
ในตอนนั้นเอง ผู้ชายคนนั้นก้าวออกมา
ทั้งด้านฉินหนิงและคนอื่นก็หันไปมองเช่นกัน
หลังจากเห็นผู้มา ดวงตาของทุกคนเต็มไปด้วยความดีใจ
“คุณชื่ออะไร?”
ผู้ชายคนนั้นเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉินไป่ซง เหลือบมองสภาพที่น่าเวทนาของฉินไป่ซงแล้วถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“เสว่ฟง”
เสว่ฟงถามกลับ “คุณคือ?”
“ผมคืออาจารย์ของเขา และเป็นผู้ก่อตั้งสถานที่แห่งนี้” หลินหยางตอบกลับ
“คุณคือหมอเทวดาหลิน?” มีอารมณ์ของความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าเสว่ฟงอย่างเห็นได้ชัด
เป็นไปได้ยังไง? หมอเทวดาหลินกำลังถูกย่างในคุกแดนต้องห้ามไม่ใช่เหรอ?
เสว่ฟงไม่เข้าใจ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องพวกนี้
“ถ้าหากคุณคือหมอเทวดาหลินจริง ผมคงต้องตัดหัวของคุณไปมอบให้เจ้าลัทธิ!”
เสว่ฟงตะคอก ยกดาบขึ้นฟันไปทางหลินหยางโดยตรง
ทว่าหลินหยางกลับยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับตัว
ติง!
คมดาบกระแทกใส่ลำคอของหลินหยาง
เกิดเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น
หลังจากนั้นดาบราชวงศ์ถังที่ฟันใส่ลำคอของหลินหยางเริ่มแตกร้าว สุดท้ายกลายเป็นแผ่นเหล็ก ตกลงสู่พื้น
เสว่ฟงตกตะลึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...