สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1369

ผู้พิพากษาที่ตามหัวหน้าพิพากษาไปหาเจ้าสำนักหงเหยียนก่อนหน้านี้ล้วนแต่เป็นคนของหลินหยาง ผู้พิพากษาที่แท้จริงโดนหลินหยางจับมาขังไว้ที่นี่

“เลือดลมของหมอเทวดาหลินยุ่งเหยิง สีหน้าซีด แววตาอ่อนล้า ร่างกายมีบาดแผลหลายแห่ง ดูเหมือนจะโดนมาหนักไม่ใช่เล่น” หัวหน้าพิพากษากำลังนั่งดื่มชาและพลางพูดไปด้วยโดยไม่ลืมตา

“เวลาสามวัน ผมกังวลว่าจะผ่านไปได้ยาก เจ้าสำนักหงเหยียนถึงขั้นสามารถสลายร่างเทพยุทธ…ผมไม่มีอะไรให้พึ่งอีกแล้ว!”

หลินหยางถอนหายใจ นั่งลงพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง

“ร่างเทพยุทธของคุณไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน หรือแม้กระทั่งคนที่แข็งแกร่งกว่าคุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ว่า…ถ้าหากเผชิญหน้ากับคนที่อยู่เหนือกว่าคุณมากเกินไป ร่างเทพยุทธของคุณก็ไม่พอที่จะให้มอง” หัวหน้าพิพากษาส่ายหัว

“ดูเหมือนผมจะประเมินร่างเทพยุทธสูงเกินไป! ผมคิดว่าผมมีร่างเทพยุทธแล้วจะไร้พ่าย” หลินหยางส่ายหัว

“ไม่ ร่างเทพยุทธไร้พ่ายจริง คนที่พ่ายแพ้คือตัวของคุณ! มันไม่เกี่ยวอะไรกับร่างกายของคุณ” หัวหน้าพิพากษาพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“หืม? คุณหมายความว่ายังไง?”

“เธอสลายร่างเทพยุทธของคุณยังไง? ทำลายร่างกายของคุณเหรอ? ไม่ แต่เป็นการบั่นทอนกำลังของคุณ! บั่นทอนพลังของคุณ! รอจนกระทั่งพลังของคุณหมด คุณก็จะไม่สามารถปลุกพลังของร่างเทพยุทธ ก็ย่อมสามารถฆ่าคุณได้! คุณเคยเจอใครที่สามารถทำให้ร่างกายของคุณได้รับบาดเจ็บก่อนพลังของคุณจะหมดหรือเปล่า? ดังนั้นหมายความว่าร่างเทพยุทธไม่ได้อ่อนแอ คุณต่างหากที่อ่อนแอ” หัวหน้าพิพากษาวางถ้วยชาลง พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ร่างเทพยุทธเป็นร่างกายของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อยู่เหนือขอบเขตความเข้าใจ ตามหลักแล้ว คุณไม่ควรมีมันด้วยซ้ำ การที่คุณมีร่างกายแบบนี้ คงต้องบอกว่าเป็นวาสนาของคุณ! แต่พลังของคุณในปัจจุบันมันยังไม่เพียงพอ ดังนั้นไม่ต้องบ่นอะไรมาก แค่พยายามผลักดันตนเองไปให้ถึงขีดจำกัดก็พอ”

หลินหยางครุ่นคิด หลังจากนั้นพยักหน้า “ที่ท่านเทียนชี๋พูดมามีเหตุผล”

“ทำไม? มาเพื่อฟังผมอธิบายหลักการพวกนี้เหรอ? หมอเทวดาหลิน ผมคิดว่าคุณคงไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นหรอกมั้ง” หัวหน้าพิพากษามองเขาด้วยความประหลาดใจ

“ย่อมไม่ใช่ ผมมาเพราะมีเรื่องอยากถาม”

“เรื่องอะไร?”

“คนของหน่วยลงทัณฑ์จะมาถึงเมื่อไหร่?”

คำพูดประโยคนี้ทำให้สีหน้าของหัวหน้าพิพากษาเปลี่ยนไปทันที

“หมอเทวดาหลิน คุณถามเรื่องนี้ทำไม?” หัวหน้าพิพากษาถามกลับด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

“อีกหน่อยคุณก็จะรู้เอง ผมอยากรู้ว่าตอนที่พวกเขามาจะผ่านเส้นทางไหน!” หลินหยางพูด

“หมอเทวดาหลิน! ผมขอเตือนคุณเอาไว้ก่อน! คุณอย่าคิดดูหมิ่น ‘ลงทัณฑ์’ และอย่าคิดทำเรื่องโง่อะไรเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นไม่ได้มีแต่คุณที่จะตาย มันยังส่งผลกระทบต่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องอีกมากมาย! ทางที่ดีคุณทำตัวดีหน่อย!” หัวหน้าพิพากษาพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธมาก

หลินหยางคิดไม่ถึงว่าหัวหน้าพิพากษาจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงมากขนาดนี้ เขามองหัวหน้าพิพากษาด้วยความตกตะลึงสักพัก หลังจากนั้นส่ายหัวอย่างข่มขืน “ท่านเทียนชี๋เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้คิดจะลงมือกับลงทัณฑ์ ผมแค่รู้สึกว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ผมอยู่ไม่ถึงวันที่สามแน่นอน เพราะแบบนี้ผมจึงอยากล่อเจ้าสำนักหงเหยียนไปในช่วงที่คับขัน!”

“ล่อ?” หัวหน้าพิพากษาขมวดคิ้ว ถือว่าเข้าใจความหมายของหลินหยางแล้ว “คุณหมายถึงจะล่อเจ้าสำนักหงเหยียนไปหาลงทัณฑ์ ให้เธอได้รับการลงทัณฑ์ล่วงหน้า?”

“ใช่!” หลินหยางพยักหน้า

“เป็นแผนที่ดี แต่น่าเสียดายที่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ‘ลงทัณฑ์’ เลย!”

“เป็นไปได้ยังไง?”

“ผมไม่ได้โกหกคุณ ‘ลงทัณฑ์’ เป็นความลับระดับสูงสุด ข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับ ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย ผมแค่ทำหน้าที่ยื่นเรื่อง ส่วนการมาเยือนของพวกเขาไม่เกี่ยวกับผม! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘ลงทัณฑ์’ เป็นมนุษย์หรือวิธีการอะไรบางอย่าง และไม่รู้ด้วยว่าการลงทัณฑ์โหดร้ายถึงระดับไหน สิ่งเดียวที่ผมรู้คือคนที่กล้าต่อต้านการลงทัณฑ์ไม่เคยพบจุดจบที่สวยงาม!”

“ทำไม? มีคนเคยต่อต้านเหรอ?”

“นั่นมันเป็นเรื่องที่นานมาแล้ว ประมาณเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนได้! มีคนไม่พอใจ ‘ลงทัณฑ์’ ยิ่งไปกว่านั้นยังเห็นพวกเราเป็นศัตรู ก็เลยรวบรวมยอดฝีมือจำนวนมาก หวังกำจัด ‘ลงทัณฑ์’ แต่สุดท้ายคนพวกนั้นตายโดยไม่เหลือแม้กระทั่งซาก และทุกเมืองที่คนพวกนี้อาศัยอยู่…ล้วนแต่พบกับจุดจบที่น่าเวทนา…”

“น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หลินหยางขมวดคิ้ว

พบว่าผู้มาคือหลินหยาง เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย

“มีเรื่องไม่สบายใจ ก็เลยแวะมาคุยกับคุณ” หลินหยางยิ้มแล้วพูด

“ช่วงนี้งานของฉันยุ่งมาก…แต่กำลังจะพักกินข้าวพอดี หรือไม่…ไปกินข้าวกัน” ซูเหยียนแกล้งทำเป็นมองโทรศัพท์ หลังจากนั้นเก็บเอกสารแล้วลุกขึ้น

“ผมรู้จักร้านอาหารแห่งหนึ่ง รสชาติไม่เลว” หลินหยางยิ้มแล้วพูด

“ได้ ไปกันเลย”

ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ หลังจากนั้นหยิบเสื้อสูทที่อยู่ด้านข้างขึ้น

แต่ในตอนนั้นเอง เลขาวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ

“ท่านประธาน แย่แล้ว หมอนั่นมาอีกแล้ว!” เลขาพูดขึ้นด้วยความร้อนใจ

“อะไรนะ?”

ซูเหยียนรู้สึกอึ้ง สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ

หลินหยางที่อยู่ด้านข้างงงเป็นไก่ตาแตก “ใครมา?”

ทว่าก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรมากกว่านี้ มีเสียงฝีเท้าเดินออกมาจากลิฟต์ กำลังเดินตรงมาทางนี้

ไม่นาน มีผู้ชายสวมแว่นขอบสีทองและท่าทางสุภาพเรียบร้อยคนหนึ่งเดินเข้ามา

“หืม? คุณซูกำลังจะเลิกงานแล้วเหรอ?” ผู้มามองข้ามหลินหยาง ยิ้มให้ซูเหยียนเล็กน้อย “พอดีเลย ไปกินข้าวด้วยกันเถอะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา