สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1427

“เกิดอะไรขึ้น?”

หลินหยางพี่อยู่ในสวนก็เงยหน้าขึ้นมอง เขาถามด้วยความสงสัย

“นี่เป็นเสียงระฆังแจ้งเตือน! เมื่อไหร่ที่เสียงระฆังนี้ดังขึ้น อาวุโสได้เจ้าตำหนักทุกคนจำเป็นต้องไปรวมตัวกันที่ตำหนักผู้กล้า! คาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีคนนอกมาก่อกวน” ชิวซ่านขมวดคิ้วพูด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมจะไปหอตำราแล้ว! ชิวซ่าน ถ้าหากมีเรื่องอะไรค่อยว่ากันทีหลัง”

หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย จากนั้นตรงไปที่หอตำรา

“พี่หลิน…”

ชิวซ่านตะโกนเรียก แต่กลับไม่รู้ควรจะพูดอย่างไร สุดท้ายถอนหายใจ ลังเลสักพักแล้วตรงไปที่ตำหนักผู้กล้า

ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ เธอก็ต้องไปที่นั่นด้วย

แล้วตอนนี้ ด้านนอกของตำหนักผู้กล้ามีผู้คนมากมายมารวมตัวกัน

ทันทีที่เสียงระฆังดังขึ้น สำนักสวรรค์นิรันดรทุกคนเหล่านี้ปิดล้อม

อาวุโสสามมาถึงแล้ว

อาวุโสสี่และห้ากำลังมา นอกจากนี้มีเจ้าตำหนักหกคนในสิบมาถึงแล้ว ยอดฝีมือ ผู้รับผิดชอบก็มากันเยอะพอสมควร

อาวุโสสามยืนอยู่หน้าตำหนัก เขาจ้องชายหญิงที่สวมชุดสีขาวแถบสีน้ำเงินที่อยู่ด้านนอก

ชายหญิงกลุ่มนี้ยืนเรียงกันเป็นหน้ากระดาน กำลังเดินตรงมาทางตำหนักผู้กล้า

สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ แม้ว่าโดยรอบเต็มไปด้วยยอดฝีมือของสำนักสวรรค์นิรันดร พวกเขายังคงดูสงบนิ่งมาก

“หยุดอยู่ตรงนั้น!”

อาวุโสสามตะคอก

น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังราวกับฟ้าร้อง!

“คำนับอาวุโสสาม!”

ชายหญิงกลุ่มนี้หยุดอยู่ตรงที่เดิม ผู้นำที่เป็นผู้หญิงถักผมหางม้าและสวมชุดรำกระบี่กับผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกัน พวกเขาโค้งคำนับให้อาวุโสสาม

แม้กิริยาท่าทางของเขาจะดูเคารพมาก แต่ผู้คนที่อยู่ด้านข้างกลับไม่รู้สึกถึงความเคารพเลยแม้แต่นิดเดียว

“จู่ๆสวรรค์อินทนิลของพวกคุณมาทำอะไรที่สำนักสวรรค์นิรันดร? ยิ่งไปกว่านั้นผมได้ยินมาว่าพวกคุณทำร้ายคนของเราที่อยู่โดยรอบจนได้รับบาดเจ็บ! ใจกล้าไม่น้อยเลยนะ? เป็นเพราะพวกคุณคิดว่าสำนักสวรรค์นิรันดรไม่กล้าฆ่าพวกคุณเหรอ?” อาวุโสสามพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์

“หากอาวุโสสามต้องการฆ่าพวกเรา พวกเราไม่ขัดขืน และไม่คิดจะสาปแช่งหรือโกรธเคือง เพียงแต่พวกเรามาสำนักของพวกคุณ กลับโดนพวกคุณเห็นพวกเราเป็นโจรชั่ว! จะให้พวกเรารับได้ยังไง? เพราะแบบนี้จึงลงมือทำร้ายคน” ผู้หญิงที่เป็นผู้นำยิ้มเล็กน้อยแล้วพูด

อาวุโสสามได้ยินแบบนี้ เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ดูเหมือนลูกศิษย์ที่กำลังตรวจสอบการปล้นห้องเมตตาธรรมเห็นพวกเขาเป็นบุคคลต้องสงสัย

คนของสวรรค์อินทนิลล้วนแต่เป็นคนหยิ่งยโส พวกเขาย่อมยอมรับความอัปยศเช่นนี้ไม่ได้อยู่แล้ว

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ช่วงนี้สำนักสวรรค์นิรันดรของเราไม่ต้อนรับแขก พวกคุณมาทำอะไร? ถ้าหากไม่มีธุระ รีบไปได้แล้ว” อาวุโสสามโบกมือ รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก

“นี่อาวุโสสามกำลังไล่แขกเหรอ? เหอะเหอะ พวกเราก็ไม่อยากอยู่นานหรอก แต่ถ้าหากอาวุโสสามยินดีคืนของของสำนักสวรรค์อินทนิลให้พวกเรา พวกเราก็จะไปจากที่นี่ทันที!”

“ของของพวกคุณ? ของอะไรของพวกคุณ?”

“ทำไมอาวุโสสามต้องแกล้งทำเป็นเลอะเลือนด้วย? มันก็ต้องเป็น ‘ตำราเทพลำพอง’ ของสำนักสวรรค์อินทนิล ตอนนี้มันอยู่ในหอตำราของพวกคุณ! อาวุโสสามโปรดส่งคืนให้พวกเราเถอะ!” ผู้หญิงหรี่ตาลง ยิ้มแล้วพูด

“ ‘ตำราเทพลำพอง’ ?” สีหน้าของอาวุโสสามดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที

ชิวซ่านก็มาถึงนอกตำหนักผู้กล้าแล้ว ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเธอ

ตอนที่ได้ยินผู้หญิงคนนั้นพูดว่า ‘ตำราเทพลำพอง’ เธอและลูกศิษย์ไม่น้อยแสดงสีหน้าที่มึนงง

“ศิษย์พี่ ‘ตำราเทพลำพอง’ คืออะไรเหรอ?” ชิวซ่านอดไม่ได้ที่จะถามยอดฝีมือด้านข้าง

เดิมทีลูกศิษย์คนนั้นไม่ได้สนใจ แต่เห็นสีหน้าที่ดูไร้เดียงสาของเธอ สุดท้ายก็ยอมอธิบายด้วยความอดทน

“ ‘ตำราเทพลำพอง’ เป็นตำราโบราณที่เก่าแก่มาก เมื่อสามเดือนก่อน อาวุโสสองไปพบในสุสานกิเลนที่อยู่หลิงหนาน ก็เลยเอามันกลับมาด้วย แต่คนของสำนักสวรรค์อินทนิลคิดว่าหลิงหนานเป็นถิ่นของพวกเขา พวกเขาบอกว่า ‘ตำราเทพลำพอง’ ควรจะเป็นของพวกเขา ดังนั้นจึงส่งคนมาขอคืนหลายครั้ง ก่อนหน้านี้พวกอาวุโสไม่ได้สนใจ คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้พวกเขาจะพาคนมา!” ลูกศิษย์คนนั้นพูด

ผู้คนที่อยู่โดยรอบเข้าใจทันที

มีคนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ก็แค่พวกเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มีอะไรน่ากลัว? ในเมื่อกล้ามาทำตัวอวดดีต่อสำนักสวรรค์นิรันดร! ก็สั่งสอนให้พวกเขาได้รู้จักจำไปเลย!”

“แน่นอน”

“ผมเคยพูดไปแล้ว ‘ตำราเทพลำพอง’ เป็นของสำนักสวรรค์นิรันดร! ไม่เกี่ยวอะไรกับสำนักสวรรค์อินทนิลของพวกคุณ! ถ้าหากพวกคุณมาคุยด้วยเหตุผล ถ้าอย่างนั้นคำพูดประโยคนี้ก็คือเหตุผลของเรา ถ้าหากมาคุยด้วยกำลัง ถ้าอย่างนั้นเชิญลงมือได้เลย!” อาวุโสพูดข่มขวัญอีกฝ่าย

ทว่าคนของสวรรค์อินทนิลย่อมมีการเตรียมพร้อมมาอยู่แล้ว

“พวกเรามีกันแค่ไม่กี่สิบคน ถ้าหากพวกคุณบุกเข้ามาพร้อมกัน พวกเราต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย! แต่สิ่งที่สำนักสวรรค์นิรันดรจะได้รับคือสงครามที่ไม่มีวันเลิกรา ผมคิดว่าถ้าหากเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักสวรรค์อินทนิลหรือสวรรค์นิรันดรก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้! อาวุโสสาม คุณเห็นว่ายังไง?” เจิ้งฮั่นซานพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“แล้วความหมายของคุณคือ?” อาวุโสสามถามกลับ

“พวกเรามาที่นี่เพราะต้องการจบปัญหา ‘ตำราเทพลำพอง’ ด้วยวิธีที่สันติ” เจิ้งฮั่นซานพูด

“วิธีที่สันติ?”

“ใช่ พวกเขาเป็นลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิล พวกเขาจะเป็นตัวแทนของสำนักสวรรค์อินทนิลท้าสู้กับคนของสำนักสวรรค์นิรันดร อาวุโสสาม! ถ้าหากลูกศิษย์ของพวกคุณสามารถเอาชนะพวกเขา ‘ตำราเทพลำพอง’ ก็จะเป็นของพวกคุณ แต่ถ้าหากพวกคุณเป็นฝ่ายแพ้ ‘ตำราเทพลำพอง’ จะเป็นของพวกเรา!” เจิ้งฮั่นซานพูดเสียงดัง

เขาจงใจใช้กำลังภายใน ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนที่อยู่โดยรอบได้ยินอย่างชัดเจน

อาวุโสสามได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที รู้แล้วว่าตนเองตกหลุมพรางของอีกฝ่าย

ดูเหมือนคนของสำนักสวรรค์อินทนิลเตรียมพร้อมมาแบบนี้แต่แรก!

พวกเขาจงใจก่อเรื่องก่อน จากนั้นบุกมาที่สำนักสวรรค์นิรันดร บีบคั้นให้เขาส่งสัญญาณแจ้งเตือน เรียกลูกศิษย์ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่

จากนั้นท้าสู้กับสำนักสวรรค์นิรันดรต่อหน้าลูกศิษย์ทุกคน!

ตอนนี้อาวุโสสามปฏิเสธไม่ได้แล้ว!

ถ้าหากปฏิเสธ ไม่เพียงแต่เสียหน้า จะสูญเสียความเชื่อใจจากผู้คนด้วย!

บวกกับห้องเมตตาธรรมเพิ่งถูกปล้น ถ้าหากปฏิเสธอีกฝ่ายตอนนี้ มันจะส่งผลกระทบตามมาทีหลัง

แต่ถ้าหากรับคำท้า ก็เท่ากับเดินอยู่บนกระดานของอีกฝ่าย

ทำยังไงดี?

อาวุโสสามเริ่มลังเล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา