“คนคนนี้ไม่ธรรมดา! ลูกศิษย์ระดับจักรพรรดิยาออกไป ให้ลูกศิษย์ระดับดินและฟ้ารับมือแทน” เจิ้งฮั่นซานพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
คนของสำนักสวรรค์อินทนิลมองหน้ากัน คนส่วนใหญ่ไม่ได้พูดอะไร
แม้แต่อาเสี่ยนและจางหมันยังแพ้อย่างง่ายดายแบบนี้ แสดงว่าความสามารถของอีกฝ่ายน่ากลัวมาก
ลูกศิษย์ทั่วไปออกไปสู้กับเขา มีแต่จะทำให้ตนเองอับอายเท่านั้น ต้องส่งยอดฝีมือที่แท้จริงลงสนามแล้ว
ทว่าในตอนนั้นเอง มีเสียงพูดดังขึ้น
“ศิษย์น้องเหมา ศิษย์น้องเหลียง พวกคุณไปลองเชิงฝีมือของเขาก่อน จากนั้นฉันค่อยลงสนามทีหลัง!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนหันไปมอง ที่แท้เธอคือผู้หญิงที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดก่อนหน้านี้
สีหน้าของเธอเย็นชา เต็มไปด้วยเจตนาแห่งการต่อสู้
เห็นได้ชัด เธอรู้สึกไม่พอใจขี้โรคที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันคนนี้มาก
“ศิษย์พี่ ความหมายของคุณคือ…”
“ลองไปหยั่งเชิงเขาดู! ฉันอยากรู้ว่าตกลงอาการบาดเจ็บของเขาคืออะไร! ฉันจะคอยเฝ้าสังเกตอยู่ด้านข้าง!” ผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
คำพูดประโยคนี้ทำให้ดวงตาของทุกคนลุกวาวเป็นประกาย
“รับทราบ ศิษย์พี่!”
ลูกศิษย์ที่ชื่อศิษย์น้องเหลียงพุ่งออกไปโดยตรง
ทว่าเขากลับต้านทานได้ไม่เกินสิบวินาทีก็แพ้แล้ว
จากนั้นผู้หญิงที่ชื่อศิษย์น้องเหมาพุ่งเข้าไปต่อ
เธอแข็งแกร่งกว่าศิษย์น้องเหลียงเล็กน้อย ต้านทานได้สิบเอ็ดวินาที
หลังจากเห็นภาพนี้ สีหน้าของศิษย์พี่คนนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที
คนทั้งสองต้านทานได้ไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ จะให้เธอหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้อย่างไร?
ในตอนนั้นเอง หลินหยางพูด
“ทุกคน พวกคุณเข้ามาทีละคนแบบนี้มันเสียเวลาเกินไป หรือไม่พวกคุณเข้ามาพร้อมกันทั้งหมดเลยดีกว่า แบบนี้จะได้ช่วยประหยัดเวลาของทั้งสองฝ่าย!”
คำพูดประโยคนี้ทำให้คนของสำนักสวรรค์อินทนิลโกรธมาก
ส่วนลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรตกตะลึง!
“อวดดี! อวดดีมาก!”
“หลินหยางคนนี้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้ไร้เทียมทานเลย?”
“ยอดฝีมือที่แท้จริงของสำนักสวรรค์อินทนิลยังไม่ได้ลงสนามเลย! เขาจะอวดดีไปถึงไหน?”
“ใช่แล้ว!”
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่สบอารมณ์
ส่วนทางด้านของสำนักสวรรค์อินทนิลก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน คำพูดของหลินหยางทำให้ความประทับใจที่เขาสร้างขึ้นก่อนหน้านี้พังทลายลงโดยตรง
เห็นเพียงคนทั้งกลุ่มแยกออกจากกัน ผู้ชายผมสีเงินคนหนึ่งก้าวออกมา
“ให้ผมลองสู้กับคุณก็แล้วกัน!” ชายผมสีเงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“คุณเป็นใคร?” หลินหยางถามอย่างไม่ใส่ใจ
“เว่ยซินเจี้ยน!” ชายผมสีเงินพูด
คำพูดประโยคนี้
ซ่า!
มีเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที
“อะไรนะ? เว่ยซินเจี้ยน?”
“กระบี่อินทนิลในตำนาน! ก็คือคนคนนี้?”
“สวรรค์ เล่ากันว่าคนคนนี้เป็นหนึ่งในสิบอัจฉริยะผู้ใช้ทักษะกระบี่ของสำนักสวรรค์อินทนิล!”
“คิดไม่ถึงว่าเว่ยซินเจี้ยนก็มาด้วย!”
“หลินหยางยั่วโมโหบุคคลระดับนี้ คอยดูว่าเว่ยซินเจี้ยนจะจัดการเขายังไง!”
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ศิษย์พี่เว่ย! คุณกำลังทำอะไร? ให้ฉันสู้กับคนคนนี้ดีกว่า!” ศิษย์พี่คนนั้นรีบพูด
ทว่าเว่ยซินเจี้ยนกลับส่ายหัวโดยตรง
“ศิษย์น้อง คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างเห็นได้ชัด ให้ผมจัดการดีกว่า! วันนี้สำนักสวรรค์อินทนิลต้องอยู่เหนือสำนักสวรรค์นิรันดร ดังนั้นจะปล่อยให้คนคนนี้ชนะอีกไม่ได้เด็ดขาด!”
พูดจบ เว่ยซินเจี้ยนก้าวออกมาข้างหน้า
“คุณชื่อหลินหยางใช่หรือเปล่า?” เขาถามเสียงดัง
“ใช่”
“ห้ากระบวนท่า!” เว่ยซินเจี้ยนยกแขนขึ้น ชูนิ้วทั้งห้าออกมา
“ห้ากระบวนท่า? หมายความว่ายังไง?” หลินหยางถามด้วยความประหลาดใจ
“ในห้ากระบวนท่า! ผมต้องเอาชนะคุณ!” เว่ยซินเจี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนเงียบ…
อวดดี?
ไม่!
สำหรับเว่ยซินเจี้ยน แบบนี้ไม่เรียกว่ากันอวดดี!
ทุกคนสูดอากาศที่เย็นวูบเข้าปอด
คลื่นพลังที่ระเบิดเป็นวงกว้างแบบนี้ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน หลินหยางไม่มีโอกาสได้หลบเลยด้วยซ้ำ
ฟู่!
คลื่นพลังถาโถมเข้าไปอย่างรุนแรง
โครม…
พื้นดินแตกร้าว
ฝุ่นกระจายไปทั่ว!
พื้นที่โดยรอบกระจัดกระจายยุ่งเหยิงไปหมด
ทุกคนเบิกตากว้าง จ้องตำแหน่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น
หลังจากคุณจางลง ร่างเงาของหลินหยางปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาของทุกคน
“เขายังมีชีวิต?”
มีคนรีบอุทานเสียงดัง
“อะไรนะ?”
“โดนเข้าซะขนาดนี้ยังไม่ตาย?”
“เขาหลบได้เหรอ?”
มีเสียงฮือฮาดังขึ้น
เว่ยซินเจี้ยนหยุดการจู่โจม จ้องหลินหยางที่เดินออกมาจากฝุ่นควัน พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ “คุณไม่ธรรมดาจริงด้วย แต่ไม่สำคัญ เมื่อกี้แค่เรียกน้ำย่อยเท่านั้น! ตอนนี้ต่างหากถึงจะเป็นของจริง!”
ทันทีที่พูดจบ เว่ยซินเจี้ยนยกกระบี่ในมือขึ้นอีกครั้ง เขายืดอกหลังตรง ใช้มืออีกข้างกำคมกระบี่ จากนั้นรูดอย่างกะทันหัน
ฉึก!
กระบี่ที่แหลมคมเฉือนฝ่ามือของเขาจนฉีกขาด เลือดสีแดงสดไหลอาบคมกระบี่โดยตรง ในขณะเดียวกัน กลิ่นอายบนร่างกายของเว่ยซินเจี้ยนเพิ่มพูนขึ้นอย่างกะทันหัน เลือดบนกระบี่และพลังในร่างกายของเขาปลดปล่อยเจตจำนงที่เชื่อมต่อกันด้วยวิธีการบางอย่าง ชั่วขณะ กระบี่ทั้งเล่มระเบิดคลื่นพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง นอกตำหนักผู้กล้าถูกปกคลุมด้วยแรงกดดันของกระบี่
ผู้คนนับไม่ถ้วนอุทานด้วยความตกใจ แต่ละคนโดนแรงกดดันของกระบี่กดจนขาสั่น
อาวุโสและเจ้าตำหนักคนอื่นก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน
“เป็นพลังด้านลบที่น่ากลัวมาก! เว่ยซินเจี้ยนคนนี้…ไม่ธรรมดาจริงๆ! สำนักสวรรค์อินทนิลมีอัจฉริยะแบบนี้ ในห้าปีนี้ไม่มีวันตกอับแน่นอน!” เจ้าทำหนักคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะพูดชม
“ใช่แล้ว! เว่ยซินเจี้ยนอายุเพียงเท่านี้แต่กลับมีชื่อเสียงโด่งดัง ผมคิดว่าในอนาคตสำนักสวรรค์อินทนิลต้องปลุกฝังเขาเป็นเสาหลักของสำนักแน่นอน!” อาวุโสสี่ก็พูดเช่นกัน
“น่าเสียดายที่คนแบบนี้ไม่ชอบสายแพทย์ สำนักสวรรค์นิรันดรของเราเคยชักชวนเขาหลายครั้ง แต่เขาเกือบไม่เคยพิจารณา! ไม่อย่างนั้นสำนักสวรรค์นิรันดรต้องปลูกฝังเขาให้แข็งแกร่งกว่านี้แน่นอน” อาวุโสสามพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“อาวุโสสาม คุณว่าหลินหยางสู้เขาได้หรือเปล่า?” เจิ้งถงหยวนลังเลสักพัก อดไม่ได้ที่จะถาม
“น่าจะไม่ไหว! กระบวนท่าของเว่ยซินเจี้ยนรุนแรงมาก! เปลี่ยนเป็นผมที่รับกระบี่เล่มนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย! และการจู่โจมของเว่ยซินเจี้ยนต่อจากนี้มีแต่จะรุนแรงขึ้น ถึงหลินหยางโชคดีสามารถหลบกระบวนท่านี้ได้ แต่กระบวนท่าที่สามต่อจากนี้ เพียงพอที่จะเอาชีวิตของเขาแล้ว!” อาวุโสสามสองมือไขว้หลัง พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
เจิ้งถงหยวนพยักหน้าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...