ทว่าหลินหยางกลับไม่สนใจ เขาหันไปมองเว่ยซินเจี้ยน พูดเสียงแหบ “เว่ยซินเจี้ยน การตัดสินใจของคุณล่ะ? คุณจะทำตามคำพูดคุกเข่าให้ผม หรือจะผิดคำพูดแล้วเดินจากไป กลายเป็นตัวตลกให้ผู้คนหัวเราะเยาะ? คุณตัดสินใจเอาเอง!”
คำพูดประโยคนี้เป็นดั่งมีดที่แหลมคมทิ่มแทงกลางใจเว่ยซินเจี้ยน
เขาเงยหน้าขึ้น เบิกตากว้างจ้องหลินหยาง
เงียบไปสักพัก
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรมองด้วยความตกตะลึง
อาวุโสและเจ้าตำหนักทุกคนก็มองเว่ยซินเจี้ยนไม่กระพริบตา
“ศิษย์พี่!”
“ศิษย์พี่เว่ย!”
“ศิษย์พี่! คุณรีบกลับมา!”
“อย่าให้เขาปั่นหัวคุณ!”
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิลรีบตะโกน
แต่…มันไม่มีประโยชน์!
เว่ยซินเจี้ยนเอาแต่จ้องหลินหยางอยู่แบบนั้นสักพัก ร่างกายของเขาโน้มตัวไปข้างหน้า สองมือค้ำพื้นดิน เขาโขกหัวลงพื้นต่อหน้าสายตาของทุกคน
“ลูกศิษย์…คำนับอาจารย์!”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้สถานที่เกิดเหตุเงียบสนิท…
ทุกคนตกตะลึง
เว่ยซินเจี้ยน…ยอมคำนับแล้ว?
“นี่…”
คนของสำนักสวรรค์อินทนิลมองตาค้าง
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรก็ตกตะลึง ไม่มีใครตอบสนองทันเหตุการณ์
สู้จนอีกฝ่ายคุกเข่าคำนับอาจารย์!
นี่มันเป็นเกียรติยศเพียงใด!
“ซินเจี้ยน! คุณ…ทำไมถึงต้องทำแบบนี้?” เจิ้งฮั่นซานตะโกนถาม ในแววตาเต็มไปด้วยความเสียดาย
“ลูกผู้ชายอกสามศอกพูดคำไหนคำนั้น จะผิดคำพูดได้ยังไง? ผมรู้ ผมทำแบบนี้จะทำให้ปีศาจครอบงำจิตใจ แต่ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ปีศาจจะกลืนกินจิตใจของผม! อาจารย์…ผมขอโทษที่ทำให้คุณเสียหน้า!”
ทันทีที่พูดจบ เว่ยซินเจี้ยนหยิบกระบี่หักที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แทงไปที่หัวใจของตนเองโดยตรง!
เขาคิดจะฆ่าตัวตาย!
“ซินเจี้ยน! ไม่!” เจิ้งฮั่นซานตั้งสติได้ รีบตะโกนพร้อมกับพุ่งเข้าไป
“ศิษย์พี่!”
“ศิษย์พี่ซินเจี้ยน!”
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิลที่เหลือก็ทยอยการตะโกน
ทว่าเว่ยซินเจี้ยนไม่คิดจะหยุด
แต่ในช่วงความเป็นความตาย
เพี๊ยะ!
มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมาคว้ากระบี่หักเล่มนั้นอย่างกะทันหัน
ตอนนี้ กระบี่หักอยู่ห่างจากตำแหน่งหัวใจของเว่ยซินเจี้ยนไม่ถึงครึ่งนิ้ว
“ซ่า!”
ทุกคนตกตะลึง!
เพราะมือที่คว้ากระบี่เป็นมือของหลินหยาง!
“อะไรกัน?”
คนของสำนักสวรรค์อินทนิลก็ตกตะลึงด้วย
แน่นอน คนที่ตกตะลึงมากที่สุดหนีไม่พ้นเว่ยซินเจี้ยน!
“คุณทำอะไร? ทำไมต้องห้ามผม?” เว่ยซินเจี้ยนออกแรงอย่างกะทันหัน แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามยังไง เห็นได้ชัดว่าแรงของเขาสู้หลินหยางไม่ได้
“ศิษย์โง่ ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?” หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“ผมยอมคุกเข่าโขกหัวให้คุณ ถึงแม้ผมได้ทำตามคำพูดแล้ว แต่มันทำให้สำนักสวรรค์อินทนิลต้องอับอาย วันนี้ถ้าผมไม่ตาย ผมจะมีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อได้ยังไง?” เว่ยซินเจี้ยนกัดฟันพูดด้วยความโกรธ
“ทำไม? เป็นลูกศิษย์ของผมมันน่าอายมากเลยเหรอ?” หลินหยางถาม
“คุณก็เป็นแค่ลูกศิษย์ของคนอื่น มีสิทธิ์อะไรมาเป็นอาจารย์ของผม?”
“แต่ผมชนะคุณแล้ว” หลินหยางพูด
เว่ยซินเจี้ยนก้มหน้าลง ดวงตาแดงก่ำ พูดอะไรไม่ออกสักคำ
หลินหยางสะบัดแขน โยนกระบี่หักลงบนพื้น
“เว่ยซินเจี้ยน! วิสัยทัศน์ของคุณแคบเกินไป คุณต้องเข้าใจ บนโลกใบนี้ใครก็สามารถเป็นอาจารย์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นใคร! สิ่งที่คุณควรสนใจคือคุณสามารถเรียนรู้อะไรจากเขา! เหมือนสุภาษิตที่ว่าในบรรดาสามคนต้องมีคนหนึ่งที่ให้ความรู้! ในเมื่อผมหลินหยางสามารถชนะคุณ! แสดงว่าผมมีข้อดีที่คุณไม่มี คุณไหว้ผมเป็นอาจารย์ เท่ากับคุณได้กำไร คุณได้ผลประโยชน์! แต่คุณกลับคิดจะตาย ไม่รู้สึกว่ามันน่าขำไปหน่อยเหรอ?” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เรื่องนี้…” เว่ยซินเจี้ยนเงยหน้าขึ้น เริ่มรู้สึกลังเล
“ทั้งชีวิตของผมหลินหยางเคยมีอาจารย์มาแล้วไม่รู้มากเท่าไหร่ บางคนสถานะสูงศักดิ์ บางคนสถานะต่ำต้อย แต่พวกเขาทุกคนที่อยู่ในใจของผม ล้วนแต่เป็นอาจารย์ผู้ให้ความรู้! พวกเขาสามารถสองผม ผมก็เรียนรู้ การไหว้อาจารย์เป็นเพียงพิธีเท่านั้น!” หลินหยางพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เว่ยซินเจี้ยนมองเขาด้วยความตกตะลึง เริ่มไม่เข้าใจ
คำพูดของหลินหยางมันก็สมเหตุสมผล ฟังแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้น
“หรือจะให้ยอมแพ้ทั้งแบบนี้เหรอ?”
“แล้วแบบนั้นพวกเราจะกลับไปพบศิษย์พี่ศิษย์น้องในสำนักยังไง?”
“ควรทำยังไงดี? ควรทำยังไงดี?”
...
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิลกระสับกระส่าย แต่เจิ้งฮั่นซานไม่ได้ตื่นตระหนก
เขาหันไปมองลูกศิษย์ของตนเองสักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “ฮ่าวซิน! ในเมื่อมาแล้ว ก็ไปลองดูสักหน่อย! ครั้งนี้ผมในฐานะอาจารย์ทำอะไรไม่ได้ ความหวังทั้งหมดของสำนักสวรรค์อินทนิล คงต้องฝากไว้ที่คุณทั้งหมดแล้ว!”
หลังจากพูดจบ มีผู้ชายผมยุ่งคนหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน
ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิลตกตะลึง หันไปมองผู้ชายคนนั้น
หลังจากที่ลูกศิษย์คนนั้นเงยหน้าขึ้น ทุกคนอุทานออกมาทันที
“ศิษย์พี่ไป๋?”
“เขาคือ…ไป่ฮ่าวซิน?”
ทางด้านของลูกศิษย์สำนักสวรรค์นิรันดรก็จำผู้มาได้ มีคนตะโกนเสียงดังทันที!
ทันใดนั้น มีเสียงฮือฮาดังขึ้นโดยตรง
“อะไรนะ? ไป๋ห่าวซิน?”
“พยัคฆ์ขาวไป๋ห่าวซิน? พยัคฆ์ขาวหนึ่งในสี่ผู้กล้าศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักสวรรค์อินทนิล?”
“เขามาได้ยังไง?”
“ก่อนหน้านี้ฉันมองไม่เห็นเขาเลย!”
มีเสียงอุทานดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงแต่ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าคนคนนี้มาได้ยังไง แม้กระทั่งคนของสำนักสวรรค์อินทนิลก็ไม่รู้
การมาโดยไม่ได้รับเชิญของคนคนนี้ทำให้ลูกศิษย์ทุกคนตกใจ แม้กระทั่งอาวุโสก็หวั่นไหวด้วย
“ศิษย์พี่ไป๋? คุณ…คุณมากับพวกเราด้วยเหรอ? ฉันจำได้ว่าคุณออกไปทำภารกิจแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงอยู่ที่นี่?” ลูกศิษย์หญิงก่อนหน้านี้เบิกตากว้างถาม
“ภารกิจของผมเสร็จสิ้นแล้ว ตอนที่กำลังกลับไปส่งมอบภารกิจ ได้ยินมาว่าพวกคุณอยู่ทางนี้ ผมก็เลยแวะมาดู!” ไป๋ฮ่าวซินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“แวะมาดู? แล้ว…คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ไม่นาน มาถึงตอนที่ซินเจี้ยนกำลังสู้กับหมอนี่พอดี” ไป๋ฮ่าวซินพูด
หัวใจของทุกคนเต้นรัว
สีหน้าของอาวุโสและเจ้าตำหนักดูน่าเกลียด
เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นความสามารถของเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...