ยอดฝีมือของสำนักสวรรค์อินทนิลก็เตรียมพร้อมที่จะลงมือมาสักพักแล้ว!
ขอเพียงเจ้าสำนักหลิงออกคำสั่ง พวกเขาจะพุ่งเข้าไปสยบหลินหยางทันที
แต่ในตอนนั้นเอง เจิ้งฮั่นซานก้าวออกมาอย่างกะทันหัน
“เจ้าสำนัก! ไม่ได้เด็ดขาด! !”
“หืม?” เจ้าสำนักหลิงขมวดคิ้ว “ฮั่นซาน คุณอยากพูดอะไร?”
เจิ้งฮั่นซานรีบเดินไปจุดอยู่ที่ด้านข้างเจ้าสำนักหลิง พูดเสียงเบา “เจ้าสำนัก แตะต้องเขาไม่ได้เด็ดขาด! คนคนนี้มีประโยชน์ต่อสำนักสวรรค์อินทนิล!”
“หมายความว่ายังไง?” เจ้าสำนักหลิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
กลับได้ยินเจิ้งฮั่นซานพูด “เจ้าสำนัก คุณรู้สึกว่าความสามารถของเขาเป็นยังไง?”
“ครอบครองร่างเทพยุทธ ความสามารถไม่ธรรมดา นิสัยโดดเด่นไม่เหมือนใคร! ไม่สามารถนำลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์อินทนิลเทียบกับเขา มีแต่ระดับอาวุโสขึ้นไปถึงสามารถรับมือ!”
“แล้วพรสวรรค์ของเขาล่ะ?” เจิ้งฮั่นซานถามอีก
เจ้าสำนักหลิงจ้องหลินหยางอยู่สักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เหนือสามัญ”
“ถูกต้องแล้ว”
“ทำไม? ฮั่นซาน คุณกำลังกังวลว่าผมจัดการคนนี้ไม่ได้? แม้ร่างเทพยุทธแข็งแกร่งก็จริง แต่ถ้าผมอยากฉีกร่างของเขาให้เป็นชิ้น มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!” เจ้าสำนักหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ
ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ!
นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริงแน่นอน!
ถึงเป็นหลินหยางก็ไม่คิดว่าเขาสามารถรับมือยอดฝีมือตั้งมากมายของสำนักสวรรค์อินทนิล
ทว่าเจิ้งฮั่นซานกลับส่ายหัว พูดเสียงเบา “เจ้าสำนัก! ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้น ผมแค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องลงมือกับคนคนนี้!”
“เพราะอะไร?”
“เพราะผมคิดว่า…สำนักสวรรค์อินทนิลสามารถชักชวนคนคนนี้เข้าสำนักของเรา ทำให้เขากลายเป็นคนของสำนักสวรรค์อินทนิล! หรือเจ้าสำนักไม่ต้องการคนแบบนี้เหรอ?” เจิ้งฮั่นซานพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ชักชวนเข้าสำนัก?” เจ้าสำนักหลิงรู้สึกประหลาดใจ แววตาของเขาเริ่มหวั่นไหว
“ถูกต้อง!” เจิ้งฮั่นซานพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ถ้าหากผมเดาไม่ผิด หลินหยาง…น่าจะมีความขัดแย้งกับสำนักสวรรค์นิรันดร!”
“ขัดแย้งเหรอ? เพราะแบบนี้คุณก็เลยพยายามปกป้องหลินหยาง?” เจ้าสำนักหลิงถาม
“ถูกต้อง!” เจิ้งฮั่นซานพยักหน้า “ดังนั้นพวกเราไม่ควรทำร้ายเขา และยิ่งควรปฏิบัติกับเขาอย่างดี! !”
ปฏิบัติกับเขาอย่างดี?
เจ้าสำนักหลิงขมวดคิ้ว เริ่มครุ่นคิด
ดูเหมือนเจิ้งฮั่นซานคิดไว้แบบนี้แต่แรก!
ถ้าหากสามารถชักชวนหลินหยางเข้าร่วมสำนักสวรรค์อินทนิล สำหรับพวกเขาแล้วถือเป็นเรื่องดี!
บุคคลที่มีพรสวรรค์แบบนี้ สามารถนำพาผลประโยชน์มาให้สำนักสวรรค์อินทนิลมากมาย อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ในงานประชุมใหญ่ สำนักสวรรค์อินทนิลสามารถเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบด้วยกันพึ่งพาหลินหยาง ทำให้ทุกคนไม่กล้าดูถูกพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากสามารถมัดใจหลินหยางได้อยู่หมัด มีคนคนนี้อยู่ สำนักสวรรค์อินทนิลจะต้องรุ่งโรจน์แน่นอน
นึกถึงตรงนี้ เจ้าสำนักหลิงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า แต่ในแววตายังมีความกังวลแฝงอยู่
“ฮั่นซาน สิ่งที่คุณเสนอมาน่าสนใจมาก แต่ว่า…ยังไงเขาก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดร…คุณบอกว่าเขามีความขัดแย้งกับสำนักสวรรค์นิรันดร นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของคุณเท่านั้น ถ้าหากมันไม่ใช่เรื่องจริง แบบนี้สำนักของเราไม่แย่หรอกเหรอ?”
“เจ้าสำนัก เรื่องนี้ตรวจสอบได้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งไปกว่านั้นที่ผมบอกว่าพวกเขามีความขัดแย้งกัน ผมก็พูดตามความเป็นจริง” เจิ้งฮั่นซานยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเขารีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนท้าประลองสำนักสวรรค์นิรันดร
เจ้าสำนักหลิงได้ยินแล้วตาลุกวาวเป็นประกายทันที
“คุณบอกว่า…อาวุโสสามของสำนักสวรรค์นิรันดรรู้อยู่แล้วว่าหลินหยางได้รับบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังบังคับให้หลินหยางสู้กับไป๋ห่าวซินโดยไม่สนคำคัดค้านของคนอื่น?”
“ใช่แล้ว อาวุโสสามอยากให้หลินหยางตาย! อันที่จริงหลินหยางมีความสามารถที่น่าตกใจ สามารถเอาชนะไป๋ฮ่าวซินได้อย่างง่ายดาย แต่เขากลับเลือกที่จะแสดงเหมือนพร้อมที่จะตายไปพร้อมกับไป๋ฮ่าวซิน!”
“ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนั้น?”
“ก็ต้องเป็นเพราะเรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่น ทำให้อาวุโสสามเสียหน้า! หลังจากที่เกิดเรื่องครั้งก่อน ลูกศิษย์ของสำนักสวรรค์นิรันดรพากันวิพากษ์วิจารณ์อาวุโสสามไม่เว้นวัน ส่วนสถานะของหลินหยางก็สูงขึ้นอย่างกะทันหัน”
“เขาใช้อาวุธโสสามเป็นเครื่องมือซื้อใจคน ทำให้ลูกศิษย์ของอาวุโสสามสูญเสียความน่าเชื่อถือ…เป็นแผนที่ร้ายมาก!”
“ไม่จำเป็นต้องพูดแล้ว ปี้หรู เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมจำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียด! จะปรักปรำคนดีเพราะฟังความของคุณฝ่ายเดียวไม่ได้” เจ้าสำนักหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“คนดี? เจ้าสำนัก หลินหยางเป็นคนทำร้ายลูกศิษย์ของสำนักเรา! มีคนมากมายเห็นกับตา เรื่องนี้ไม่มีทางโกหก แล้วคุณเอาที่ไหนบอกว่าปรักปรำคนดี?” หัวหน้าเหว่ยก็รีบก้าวออกมาพูดอีกคน
“แล้วซินเจี้ยนล่ะ?” เจ้าสำนักหลิงถามกลับอย่างกะทันหัน
คำพูดประโยคนี้ทำให้หัวหน้าเหว่ยพูดอะไรไม่ออกทันที
จู่ๆ เจ้าสำนักหลิงพูดถึงเว่ยซินเจี้ยนทำไม?
เกรงว่าเหตุผลคงมีแค่อย่างเดียว
เจ้าสำนักหลิงไม่อนุญาตให้ถามหาความผิดกับหลินหยาง!
ไม่อย่างนั้นไม่มีทางพูดถึงคนคนนี้แน่นอน!
ตอนนี้ถึงพูดอะไรไปมากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์! มีแต่จะทำให้เจ้าสำนักหลิงไม่พอใจ
หัวหน้าเหว่ยรีบก้มหน้าลงทันที แม้ในแววตาของเขาจะเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรมาก
แต่เจ้าศาลาหลัวยังไม่เข้าใจความหมายของเจ้าสำนักหลิง รีบพูด “เจ้าสำนัก! เว่ยซินเจี้ยนทรยศสำนัก พวกปี้หรูก็แค่ทำตามหน้าที่ในฐานะลูกศิษย์ พวกเธอไม่ได้ผิดอะไร โปรดตรวจสอบให้ละเอียด! จะปล่อยเว่ยซินเจี้ยนไปไม่ได้เด็ดขาด หลินหยางคนนี้ก็เหมือนกัน ไม่อย่างนั้น ความน่าเกรงขามของสำนักสวรรค์อินทนิลไม่หลงเหลือแน่! และเหล่าลูกศิษย์ก็จะเกิดความไม่พอใจ!”
ทันทีที่พูดคำพูดประโยคนี้ออกมา มีคนไม่น้อยหันไปมองทางเจ้าศาลาหลัว
เจ้าศาลาหลัวอึ้งเล็กน้อย รู้สึกถึงความผิดปกติ
แต่ในเมื่อพูดออกไปแล้ว เขาก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว
ทว่าตอนที่เขาหันไปมองเจ้าสำนัก ถึงตระหนักได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
สีหน้าของเจ้าสำนักในตอนนี้เคร่งขรึมมาก
“แล้วเจ้าศาลาหลัว คุณคิดว่าควรจะทำยังไง?” เจ้าสำนักหลิงถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“คือว่า…” เจ้าศาลาหลัวเริ่มไม่กล้าพูด
“เจ้าศาลาหลัว พูดมาสิ” เจ้าสำนักหลิงตะคอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...