อึก…
หลินหยางกลืนยาถอนพิษที่ตนเองเพิ่งปรุงเสร็จลงท้อง
ทันใดนั้น พิษในร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที มันกลายเป็นยาบำรุงชั้นเยี่ยมโดยตรง ไม่เพียงกำลังซ่อมแซมร่างกายที่ได้รับความเสียหายอย่างบ้าคลั่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อของเขาให้แข็งแกร่งขึ้น ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของผิวหนัง
หลินหยางถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกแขนขึ้น เขาพบว่าผิวหนังที่เริ่มเน่าเปื่อยของตนเองเริ่มเกิดขึ้นใหม่ ดูเรียบเนียนกว่าเดิม…
ยิ่งไปกว่านั้น…ผิวหนังของเขาเหมือนกับแม่เหล็ก กำลังดูดซับผงพิษที่อยู่โดยรอบเข้ามาหาตนเอง
หลังจากผงพิษโดนดูดซับจนหมด ประตูเหล็กที่ปิดกั้นทางเดินเริ่มเปิดใหม่อีกครั้ง
หลินหยางรู้สึกโล่งใจมาก
เห็นภาพนี้แล้วเขาคิดตาม
“กลไกพวกนี้เหมือนจะเอาชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนเป็นบททดสอบ ยิ่งไปกว่านั้น…เหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแพทย์”
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ…หลังจากผ่านบททดสอบเหล่านี้ ดูเหมือนจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น…มันยังไงกันแน่?”
หลินหยางมองโถงทางเดิน
ระยะทางที่เหลือห่างจากสุสานเจ้าสำนักเหลือเพียงไม่กี่เมตร
ถ้าหากก้าวเท้าใหญ่ ประมาณห้าหกก้าวก็น่าจะถึง
ตามสถานการณ์ คาดว่าน่าจะเหลือคนตายอีกหนึ่งด่าน หลังจากนั้นก็สามารถเข้าสู่ด้านใน
หลินหยางกลืนน้ำลาย มองไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวัง
ทว่าเดินไปเดินมา มีคนปรากฏตัวข้างหน้าอย่างกะทันหัน
หลินหยางตกตะลึง ฝีเท้าหยุดชะงัก ขยี้ตาของตนเอง
เขาไม่ได้ตาฝาด!
ข้างหน้ามีคนปรากฏตัวขึ้นจริงๆ!
เกิดอะไรขึ้น?
ในสุสานสวรรค์แห่งนี้ นอกจากเขาแล้วทำไมถึงยังมีคนอื่น?
หรือว่า…เขาเจอผี?
คงไม่มีเรื่องแบบนี้หรอกมั้ง?
หลินหยางโคจรกำลังภายใน หยิบเข็มเงินขึ้นมา ประสาทสัมผัสตื่นตัวเต็มที่
เห็นเพียงคนคนนั้นเดินเข้ามาอย่างใจเย็น และไปหยุดอยู่ตรงจุดที่ห่างจากหลินหยางประมาณสามเมตร
“ไม่ต้องกังวล พ่อหนุ่ม!” ผู้มาพูด
หลินหยางกวาดสายตามองอีกฝ่าย เขาพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายหล่อเหลามาก แถมยังมีหุ่นระดับซุปเปอร์โมเดล!
เขาสวมชุดเพ้าโบราณ แต่งตัวเหมือนเป็นคุณชายยุคโบราณ แต่ตอนนี้เขากำลังหลับตา ให้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งไม่อาจหยั่งถึง
“คุณเป็นใคร?” หลินหยางตะคอก
“ผมเป็นเจ้าของสุสานแห่งนี้ และเป็นผู้ก่อตั้งสำนักสวรรค์นิรันดร” คนคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
“อะไรนะ?”
ลมหายใจของหลินหยางหยุดชะงัก “คุณคือเจ้าสำนักรุ่นแรก?”
“ถูกต้อง”
“คุณ…คุณตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม…ถึงมาอยู่ตรงนี้ได้?”
“ผมตายไปแล้ว ที่คุณเห็นเป็นเพียงภาพติดตาของผม! ผมเฝ้ารอคุณมาโดยตลอด พ่อหนุ่ม” คนคนนั้นพูด
“รอผม?”
“ถูกต้อง ผมกำลังรอบุคคลที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศมาโดยตลอด! เพื่อที่จะให้เขาสืบทอดความรู้ทั้งหมดของผม! คุณได้ผ่านการทดสอบแล้ว ดังนั้นผมจึงเตรียมตัวถ่ายทอดวิชาความรู้ทั้งหมดให้คุณ! พ่อหนุ่ม! คุณเตรียมพร้อมหรือยัง?” คนคนนั้นพูด
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ หลินหยางรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น
ผู้ก่อตั้งสำนักสวรรค์นิรันดร!
บุคคลที่สามารถเปรียบเทียบกับเซียน!
ถ้าหากได้ครอบครองวิชาความรู้ทั้งหมดของเขา จะบรรลุถึงระดับไหน?
คงไม่กลายเป็นเทพแล้วมั้ง?
หลินหยางตัวสั่นไม่หยุด ภายในใจรู้สึกตื่นเต้นมาก
“พ่อหนุ่ม ตอนนี้ผมจะช่วยปรับแต่งร่างกายของคุณ! ทำให้คุณสามารถรับการถ่ายทอดจากผมได้ง่ายขึ้น!” คนคนนั้นพูด “คุณนั่งขัดสมาธิลงบนพื้น กดจุดชีพจรตามที่ผมบอก!”
“ได้!”
หลินหยางพยักหน้า รีบนั่งลงพื้นทันที
“ชีพจรซิงไค! ชีพจรลู่ไห่! ชีพจรหม่านซาน!” คนคนนั้นพูด
หลินหยางได้ยินแล้วรีบทำตามทันที
ไม่กล้ารอช้า!
ความโชคดีมาอย่างกะทันหันเกินไป จึงทำให้เขามึนงงเล็กน้อย
ตอนที่มือข้างนั้นพุ่งเข้ามาใกล้ หลินหยางหลับตาลง!
ในที่สุด
ฟู่!
มือข้างนั้นพุ่งไปถึงหน้าผากของหลินหยาง จากนั้นทะลุร่างหลินหยาง สุดท้ายกลายเป็นควันแล้วหายไปในที่สุด
หลินหยางลืมตาขึ้น ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ เขาตกใจจนร่างกายอ่อนแรงไปหมด…
เดิมพันถูกแล้ว…
หลินหยางหอบหายใจ ส่ายหัวสักพัก ในที่สุดก็สามารถดึงสติของตนเองกลับมาจากภาพหลอน
เขาพบว่าด้านหน้าของตนเองมีดอกไม้ปรากฏขึ้นหนึ่งดอกตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ดอกไม้คอยส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ให้ความรู้สึกแปลกมาก
เขากลั้นหายใจ เหยียบดอกไม้ตรงหน้าจนเละ หลังจากนั้นเดินไปข้างหน้าต่อ
“เป็นดอกไม้ที่แปลกมาก สามารถทำให้คนตกอยู่ในสภาวะหลอนโดยไม่รู้ตัว! ถ้าหากเป็นคนปกติคงต้านทานการสืบทอดของเจ้าสำนักรุ่นแรกไม่ไหวแน่นอน และคงทำตามที่เขาบอก ร่างกายระเบิดตายไปในที่สุด!”
ที่หลินหยางเริ่มสงสัยเป็นเพราะว่าเขาเคยเห็นทักษะกดชีพจรแบบนี้ในตำราโบราณของห้องเมตตาธรรม
มันไม่ใช่ทักษะหลอมกายอะไรทั้งนั้น แต่มันเป็นทักษะระเบิดร่างของตัวเอง
เนื่องจากวิธีการแบบนี้ค่อนข้างเก่าแก่ คนทั่วไปจึงไม่รู้ หากไวตัวไม่ทันก็จะตกหลุมพลาง
หลินหยางถอนหายใจ ในที่สุดก็สามารถเดินผ่านโถงทางเดิน เข้ามาถึงพื้นที่ที่เป็นสุสาน
ภายในสุสานมีโลงศพตั้งอยู่สิบกว่าโลง
ล้วนแต่เป็นโลงศพของเจ้าสำนักสวรรค์นิรันดร
หลินหยางกวาดสายตามองสักพัก
ด้านหน้าของโลงศพมีป้ายชื่อทุกโลง และบนป้ายมีการบันทึกประวัติความเป็นมาของเจ้าสำนักแต่ละรุ่น
“เจ้าสำนักสวรรค์นิรันดรรุ่นที่เจ็ด เสวี่ยปู้เม่ ครั้งหนึ่งเคยอาศัยความแข็งแกร่งของตนเองเอาชนะผู้แข็งแกร่งของสำนักเร้นกายทั้งเก้า วรยุทธสูงส่ง วิชาแพทย์ล้ำเลิศ ตกหลุมพลางของศัตรู”
“เจ้าสำนักสวรรค์นิรันดรรุ่นที่สิบเอ็ด เซียวหลาง ทั้งชีวิตเคยใช้วิชาแพทย์ช่วยเหลือคนมาแล้วสามแสนเจ็ดหมื่นสิบห้าคน เข้าถึงหลักการของลัทธิเต๋า ได้รับฉายาเทพแห่งผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์ อยู่ห่างจากวิถีเซียนเพียงแค่ก้าวเดียว”
“เจ้าสำนักสวรรค์นิรันดรรุ่นที่สิบสาม…”
หลินหยางอ่านประวัติความเป็นมาของเจ้าสำนักสวรรค์นิรันดรที่ละคนอื่น และเริ่มเข้าใจเกี่ยวกับตัวของพวกเขาบ้างแล้ว
เจ้าสำนักทุกคนล้วนแต่เป็นผู้ใช้ศิลปะการต่อสู้ทางการแพทย์ที่เหนือชั้น ทักษะการแพทย์ของพวกเขาบรรลุถึงระดับเทพ
ถึงหลินหยางในตอนนี้ เกรงว่าคงเทียบไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้วของพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...