และในขณะที่ยอดฝีมือทั้งสองคนมุ่งหน้าเข้ามาที่หลินหยาง นักรบยอดฝีมือผู้น่าสะพรึงกลัวก็ต่างเข้ามารายล้อมข่งเหิงชุนจากจ้านอี้ตาว!
สีหน้าของจ้านอี้ตาวเริ่มตึงเครียด และเตรียมคิดจะเข้าไปจัดการข่งเหิงชุน
แต่ขณะเดียวกัน หลินหยางก็ตะโกนขึ้นมา
"อี้ตาว คุณไม่ต้องลงมือ ผมจัดการเอง!"
จ้านอี้ตาวตกใจ
และเมื่อเงยหน้ามองไปก็เห็นหลินหยางพุ่งชนเข้าไปยังสองคนนั้นราวกับพายุกระโชกแรง แขนของเขาราวกับแผ่นเหล็กที่แรกกระแทกไปที่ชชายสองคนนั้นอย่างแรง
ทั้งสองถูกโจมตีจากทั้งซ้ายและขวา เดิมทีใช้สองแขนขึ้นมากำบังการโจมตีของหลินหยาง แต่เมื่อสัมผัสก็เกิดการฉีกขาดลงอย่างน่าตกใจ
"ความสามารถของชายคนนี้น่าสะพรึงกลัวมาก! อย่าต่อสู้กับเขาตัวต่อตัว! ต้องใช้กลยุทธ์!" คนหนึ่งพูดขึ้นมา
จากนั้นอีกคนก็ไม่รอช้ารีบหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากเข็มขัด
กริ๊ง!
เขาดึงดาบอ่อนที่เรียวแหลมออกมาและทิ่มแทงไปที่ลำคอของหลินหยางราวกับงูพิษ
คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งเขย่าแขนของเขา และมีดสั้นสีดำก็ออกมาจากข้อมือ และในขณะที่เขาคว้ามันด้วยฝ่ามือ เขาก็แทงไปที่หัวใจของหลินหยางอย่างดุเดือด
ทั้งสองคนร่วมมือกันและต้องการจะฆ่าหลินหยางให้ตาย
แต่ขณะที่ทั้งสองจับอาวุธมีคมขึ้นมาเพื่อโจมตี สองมือของหลินหยางก็หยิบเข็มเงินขึ้นมาและเล็งไปที่พวกเขาทั้งสองคน
ทั้งสองสีหน้าเคร่งเครียดและหายใจติดขัดเล็กน้อย
หากเป็นคนปกติ สิ่งที่สมควรทำมากที่สุดในตอนนี้คือหาที่หลบหรือกำบัง! ต่อให้ต้องจู่โจมกลับ ก็ถือเป็นกระบวนท่าไม้ตายที่ใช้การโจมตีเป็นการป้องกัน เพื่อบีบบังคับให้ทั้งสองคนถอยไปถึงจะถูก
ทำไมอีกฝ่ายถึงใช้เพียงเข็มเงินแค่สองเล่ม?
หรือว่าเข็มเงินนี้สามารถเอาชีวิตคนอื่นได้?
ทั้งสองหน้าซีดเผือด และเดิมทีก็คิดจะถอยหนี
แต่ลูกธนูเมื่ออยู่บนคันธนูก็ต้องยิงออกไป หากถอยไปตอนนี้ก็จะเกิดความโกลาหลและเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายโจมตีกลับได้
ในช่วงเวลาคับขันแบบนี้ ทั้งสองมองหน้ากันและกำอาวุธในมือแน่น จากนั้นพุ่งตรงเข้าไปหาหลินหยางอย่างสุดกำลัง
ฉึก!
ฉึก!
และสุดท้ายเข็มเงินในมือของหลินหยางก็ปักไปที่กลางหน้าผากของพวกเขาทั้งสองคน
และในขณะเดียวกัน อาวุธร้ายของทั้งสองคนก็ปักไปที่ร่างกายของหลินหยางอย่างแรง
จากนั้น...
อั่ก!
อั่ก!
ทั้งสองร้องเสียงหลงออกมา
มีดสั้นและดาบที่ปักไปที่จุดสำคัญบนร่างกายของหลินหยางอย่างแรง กลับเหมือนกับทิ่มแทงไปยังเพชร มันแทงไม่เข้าแม้แต่นิดเดียวและไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิดเดียว
สถานการณ์ที่น่าแปลกประหลาดนี้ทำให้ทุกคนต่างพากันขนลุก
"เป็นไปไม่ได้!"
มีคนหนึ่งร้องอุทานออกมา
"รีบหนีไป!"
หนึ่งในนั้นตะโกนออกมา
ทั้งสองรีบถอยออกจากหลินหยางและเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นทันที
"ทำไมถึงแทงไม่เข้า? หรือว่าเราออกแรงน้อยเกินไป?" คนหนึ่งถามขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
"ไม่! ไม่ใช่เพราะฉันออกแรงไม่ดี แต่เป็นเพราะผิวหนังของเขาแข็งแกร่งมาก! ถ้าฉันเดาไม่ผิด ผิวหนังของเขาอย่างน้อยจะต้องเป็นร่างดวงดาวโดยกำเนิด!" อีกคนกล่าวเสียงทุ้มต่ำ
"อะไรนะ? ร่างดวงดาวโดยกำเนิด? อย่างน้อย? นี่...จริงเหรอ?"
"ถ้าเป็นร่างดวงดาวโดยกำเนิด งั้นเราก็ยังพอสู้ได้ ฉันเกรงว่า...จะมากกว่าร่างดวงดาวโดยกำเนิดน่ะสิ ถ้าเป็นแบบนั้นเราสองคนคงสู้ไม่ได้แน่นอน!"
"งั้นตอนนี้เราควรทำยังไงดี?"
"เล่นไปตามน้ำก่อน จากนั้นค่อยหยุดเขา เจ้าหมอนี่คิดเป็นศัตรูกับคุณข่งและคิดเป็นศัตรูกับทุกคนบนโลกนี้ ต้องมีคนจำนวนมากในที่นี้กำลังขอความช่วยเหลือจากภายนอก เราแค่ยื้อเวลาเพื่อให้กองกำลังใหญ่มาถึง จากนั้นก็สามารถจัดการเขาได้!"
"พูดถูก! คนคนเดียวจะคิดเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกได้ยังไง? เจ้าหมอนี่จะต้องตายอย่างไร้ข้อสงสัยแน่!"
"คุณและฉันจัดการลงมือ!"
"ตกลง!"
ทั้งสองพูดคุยกันและจ้องมองไปที่หลินหยางอย่างเยือกเย็นโดยไม่ลงมือโจมตีอีก
แต่หลินหยางกลับไม่คิดแบบนั้น เขาขยับนิ้วมือช้าๆ
กึกๆ!
มีเสียงดังขึ้นสองครั้ง
และเห็นว่าเข็มเงินที่ปักที่หน้าผากของพวกเขาได้ลอยออกจากพวกเขาและกลับไปที่หลินหยาง
ว่ากันว่าสองคนนี้คอยติดตามปรมาจารย์หมากรุกข่งมายี่สิบปีเต็มๆ ข่งเหิงชุนได้รับสมญานามว่าปรมาจารย์หมากรุกข่งได้เพราะเขาศึกษาทักษะการเดินหมากรุกมาตลอดชีวิต และทั้งสองต้องการมีส่วนร่วมในศิลปะการต่อสู้ด้วยหมากรุก จึงได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่สูงขึ้น
และจนถึงวันนี้ ความสำเร็จทางด้านการต่อสู้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้เป็นคำพูด แม้แต่คำว่าจุดสูงสุดก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายความสำเร็จนี้ได้
โดยเฉพาะหลายปีมานี้ ทั้งสองร่วมเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ไปกับข่งเหิงชุน และโค่นล้มจนเอาชนะยอดฝีมือจากที่อื่นๆ ได้มากมาย
ตามหลักแล้ว หากทั้งสองลงมือ ต่อให้ฆ่าหมอเทวดาหลินไม่ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จัดการเขาได้ แม้จะแพ้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นแพ้อย่างหนักหนาถึงจะถูก!
แต่ทำไมตอนนี้...พวกเขากลับตายลงอย่างน่าอนาถแบบนี้?
เป็นเพราะความสามารถของพวกเขาด้อยเกินไป...หรือเป็นเพราะหมอเทวดาหลินแข็งแกร่งมากเกินไป?
ทุกคนต่างคิดไม่ออก...
ทั้งสองตายลงทำให้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งและขัดขวางหลินหยางได้
เขาหันไปช้าๆ และจ้องมองไปยังข่งเหิงชุน
และตอนนี้ข่งเหิงชุนก็ไม่แน่นิ่งอีกต่อไป
จากนั้นก็เห็นหลินหยางก้าวเดินไปทางเขา
คนที่อยู่ข้างทางกลับไม่มีใครกล้าเข้าไปขัดขวางเขาอีก
สายตาที่ทุกคนจ้องมองหลินหยางเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
ราวกับกำลังจ้องมองมารร้ายยังไงยังงั้น!
หลินหยางเดินไปอย่างราบรื่น
"หยุด...หยุดเดี๋ยวนี้!"
เจียงหนานซงร้อนใจและรีบตะโกนออกมา
ทว่าหลินหยางกลับไม่สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว
และทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพุ่งเข้ามาข้างกายของข่งเหิงชุน และรายล้อมเขาไว้เพื่อป้องกันอันตราย
เมื่อมองดูกลับเป็นคนของตระกูลหลิน
"หมอเทวดาหลิน พวกควรพูดคุยกันหน่อย!" หลินเฟยอิงกล่าวสีหน้าเคร่งเครียด
"ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ผมแนะนำให้คุณรีบออกไปจากที่นี่ ไม่งั้นคุณคงต้องตายลงต่อหน้าของข่งเหิงชุน" หลินหยางกล่าว
"หมอเทวดาหลิน! คุณข่งเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลหลิน หากคุณคิดจะทำอะไรคุณข่ง ตระกูลหลินของเราไม่มีทางอยู่เฉยแน่ แต่ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรไปถึงขั้นนั้น ทำไมถึงไม่พูดคุยกันดีๆ? เพื่อปรับความเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น? หากคุณยังดื้อรั้นจะฆ่าทุกคนให้ตายลงที่นี่ งั้นต่อให้คุณออกไปจากยอดเขาเยียนหลงได้ คุณคิดเหรอว่าคนอื่นจะยอมทนคุณ? หมอเทวดาหลิน คุณไม่จำเป็นต้องคิดเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก! คุณเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง คุณคงรู้ว่านี่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คุณลองไตร่ตรองให้ดี!" หลินเฟยอิงกล่าวสีหน้าจริงจัง
หลินหยางเงียบไม่พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...