สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1823

เมื่อหยวนซิงได้รับข่าวก็รีบส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญไปที่คฤหาสน์ทันทีเพื่อวิเคราะห์เส้นทางการล่าถอยของแต่ละกองกำลัง เพื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา

แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับอย่างยิ่งและทีมงานมืออาชีพจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ

แต่สิ่งนี้ต้องใช้เวลาและหลินหยางก็ไม่จำเป็นต้องไปเฝ้าที่นั่น เขาเพียงแค่รอผล

จากนั้นตัวเขาเองกลับไปในคฤหาสน์เพื่อบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง

แต่คราวนี้เขาบำเพ็ญเพียรไปได้เพียงสองสามชั่วโมง จากนั้นก็มีสายเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา

เมื่อมองก็เห็นว่าเป็นลั่วเฉียนที่ไม่ได้ติดต่อมาเป็นเวลานาน

"ลั่วเฉียน มีธุระอะไรเหรอ?" หลินหยางถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องสะอึกสะอื้นของลั่วเฉียนดังขึ้นมา

"หลินหยาง คุณอยู่ที่ไหนเหรอ? คุณมาหาฉันได้ไหม?"

"เกิดอะไรขึ้น?" หลินหยางถามและรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติไป

จากนั้นลั่วเฉียนก็นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา "คุณปู่ของฉัน...จากไปแล้ว..."

"อะไรนะ?"

หลินหยางตกใจ

ลั่วเป่ยหมิงเสียชีวิตแล้ว?

หลังจากถามสิ่งที่เกิดขึ้นจนรู้เรื่องราวอย่างละเอียด หลินหยางก็รีบเดินทางไปที่บ้านของลั่วเฉียน

ตอนนี้ ตระกูลลั่วถูกจัดแต่งไปด้วยผ้าขาว มีเสียงดนตรีอันโศกเศร้าบรรเลงและผู้คนจำนวนมากเดินเข้าออกเพื่อมาแสดงความเสียใจ

ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของตระกูลลั่วดังไกลออกไปไกล

เมื่อหลินหยางเดินทางมาถึงตระกูลลั่ว ลั่วเฉียนกำลังคุกเข่าและนั่งอยู่ที่มุมบ้าน สวมผ้ากระสอบดวงตาของเธอเป็นสีแดงก่ำ และแก้มของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา

หลินหยางเดินเข้าไป แต่ไม่รู้จะพูดอะไรดี เวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็กล่าวขึ้นมา "คุณปู่จากไปตั้งแต่เมื่อไรเหรอ?"

"เมื่อคืน" ลั่วเฉียนกล่าว

"งั้นก็ไม่ถือว่าช้าเกินไป คุณรีบพาผมไปดูศพของคุณปู่ ผมจะลองดู...ว่าพอมีโอกาสแก้ไขอะไรได้ไหม" หลินหยางกระซิบ

"ไม่ต้องแล้วค่ะ"

ลั่วเฉียนส่ายหน้า "ก่อนที่คุณปู่จะหมดลมหายใจลงได้สั่งไว้ว่าห้ามให้คุณช่วยอะไรเขา!"

หลินหยางแสดงสีหน้าเคร่งเครียด

"หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น คุณปู่ก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย เขาใเป็นโรคซึมเศร้ามาตลอด หรืออาจเป็นเพราะเขารับไม่ได้กับทักษะทางการแพทย์อันน่าทึ่งของหมอเทวดาอย่างคุณกระมัง...การปรากฏตัวของคุณ ได้ปฏิเสธทุกความพยายามของเขาไปอย่างสิ้นเชิง! ดังนั้นเขาจึงจากไปด้วยโรคซึมเศร้า" ลั่วเฉียนกล่าวเสียงแหบแห้ง

หลินหยางนิ่งเงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร

จิตใจที่ตายไปสำคัญมากกว่าร่างกายที่ตายไป

เขาสามารถรักษาอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคนได้ แต่ไม่สามารถรักษาอาการทางใจของใครได้

อาการของลั่วเป่ยหมิง ต่อให้หมอเทวดาหลินมีทักษะสูงส่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้...

"เสียใจด้วยนะ!"

เวลาผ่านไป หลินหยางก็พูดสี่คำนี้ออกมา

เสียงร้องไห้ของทุกคนหยุดลงและต่างพากันมองไปยังเสียงฆ้องและกลองที่เกิดขึ้น

จากนั้นก็เห็นขบวนแห่สวมชุดสีแดงเข้ามาในบ้าน ผู้ที่นำมาได้ขี่ม้าขาวและสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงยืนอยู่หน้าห้องโถงไว้ทุกข์

ตระกูลลั่วโมโหอย่างมาก

บรรดาแขกที่มาก็ต่างพากันโกรธเคือง

ที่นี่จัดงานศพไว้ทุกข์อยู่ ทว่ากลับมีคนสวมชุดแดงตีฆ้องตีกลองเข้ามา

มาก่อเรื่องงั้นเหรอ?

"คุณเป็นใคร? ทำไมถึงมาก่อเรื่องบ้าๆ ที่นี่?"

อาคนหนึ่งของลั่วเฉียนโมโหอย่างมากและชี้หน้าด่าทอเขาคนนั้น

ทว่าคนที่เข้ามากลับไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไรและหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาโยนไปที่พื้นและกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ผมไม่ได้มาก่อกวน แต่มาตามคำสัญญา ตอนนี้ลั่วเป่ยหมิงก็เสียชีวิตแล้ว! พวกคุณควรยกลั่วเฉียนให้กับผมได้แล้ว!"

เมื่อตระกูลลั่วได้ยินเข้าก็หน้าถอดสี

ลั่วเฉียนเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความตกตะลึง เธอถอยหลังไปหลายก้าวด้วยอาการตัวสั่นและมองไปที่ชายที่สวมชุดสีแดงเจ้าบ่าวด้วยความหวาดกลัว!

"เฉียนเอ๋อร์ เขาเป็นใครเหรอ?"

หลินหยางขมวดคิ้วและถามขึ้น

"รีบพาฉันไปจากที่นี่...หลินหยาง รีบพาฉันออกไปจากที่นี่..."

ลั่วเฉียนตะโกนออกมาด้วยเสียงสั่น ราวกับจิตวิญญาณของเธอได้หลุดออกไปแล้ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา