เมื่อหยวนซิงได้รับข่าวก็รีบส่งทีมงานผู้เชี่ยวชาญไปที่คฤหาสน์ทันทีเพื่อวิเคราะห์เส้นทางการล่าถอยของแต่ละกองกำลัง เพื่อค้นหาเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับอย่างยิ่งและทีมงานมืออาชีพจะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ
แต่สิ่งนี้ต้องใช้เวลาและหลินหยางก็ไม่จำเป็นต้องไปเฝ้าที่นั่น เขาเพียงแค่รอผล
จากนั้นตัวเขาเองกลับไปในคฤหาสน์เพื่อบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง
แต่คราวนี้เขาบำเพ็ญเพียรไปได้เพียงสองสามชั่วโมง จากนั้นก็มีสายเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของเขา
เมื่อมองก็เห็นว่าเป็นลั่วเฉียนที่ไม่ได้ติดต่อมาเป็นเวลานาน
"ลั่วเฉียน มีธุระอะไรเหรอ?" หลินหยางถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องสะอึกสะอื้นของลั่วเฉียนดังขึ้นมา
"หลินหยาง คุณอยู่ที่ไหนเหรอ? คุณมาหาฉันได้ไหม?"
"เกิดอะไรขึ้น?" หลินหยางถามและรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติไป
จากนั้นลั่วเฉียนก็นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา "คุณปู่ของฉัน...จากไปแล้ว..."
"อะไรนะ?"
หลินหยางตกใจ
ลั่วเป่ยหมิงเสียชีวิตแล้ว?
หลังจากถามสิ่งที่เกิดขึ้นจนรู้เรื่องราวอย่างละเอียด หลินหยางก็รีบเดินทางไปที่บ้านของลั่วเฉียน
ตอนนี้ ตระกูลลั่วถูกจัดแต่งไปด้วยผ้าขาว มีเสียงดนตรีอันโศกเศร้าบรรเลงและผู้คนจำนวนมากเดินเข้าออกเพื่อมาแสดงความเสียใจ
ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของตระกูลลั่วดังไกลออกไปไกล
เมื่อหลินหยางเดินทางมาถึงตระกูลลั่ว ลั่วเฉียนกำลังคุกเข่าและนั่งอยู่ที่มุมบ้าน สวมผ้ากระสอบดวงตาของเธอเป็นสีแดงก่ำ และแก้มของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
หลินหยางเดินเข้าไป แต่ไม่รู้จะพูดอะไรดี เวลาผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็กล่าวขึ้นมา "คุณปู่จากไปตั้งแต่เมื่อไรเหรอ?"
"เมื่อคืน" ลั่วเฉียนกล่าว
"งั้นก็ไม่ถือว่าช้าเกินไป คุณรีบพาผมไปดูศพของคุณปู่ ผมจะลองดู...ว่าพอมีโอกาสแก้ไขอะไรได้ไหม" หลินหยางกระซิบ
"ไม่ต้องแล้วค่ะ"
ลั่วเฉียนส่ายหน้า "ก่อนที่คุณปู่จะหมดลมหายใจลงได้สั่งไว้ว่าห้ามให้คุณช่วยอะไรเขา!"
หลินหยางแสดงสีหน้าเคร่งเครียด
"หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นขึ้น คุณปู่ก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย เขาใเป็นโรคซึมเศร้ามาตลอด หรืออาจเป็นเพราะเขารับไม่ได้กับทักษะทางการแพทย์อันน่าทึ่งของหมอเทวดาอย่างคุณกระมัง...การปรากฏตัวของคุณ ได้ปฏิเสธทุกความพยายามของเขาไปอย่างสิ้นเชิง! ดังนั้นเขาจึงจากไปด้วยโรคซึมเศร้า" ลั่วเฉียนกล่าวเสียงแหบแห้ง
หลินหยางนิ่งเงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร
จิตใจที่ตายไปสำคัญมากกว่าร่างกายที่ตายไป
เขาสามารถรักษาอาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายของคนได้ แต่ไม่สามารถรักษาอาการทางใจของใครได้
อาการของลั่วเป่ยหมิง ต่อให้หมอเทวดาหลินมีทักษะสูงส่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้...
"เสียใจด้วยนะ!"
เวลาผ่านไป หลินหยางก็พูดสี่คำนี้ออกมา
เสียงร้องไห้ของทุกคนหยุดลงและต่างพากันมองไปยังเสียงฆ้องและกลองที่เกิดขึ้น
จากนั้นก็เห็นขบวนแห่สวมชุดสีแดงเข้ามาในบ้าน ผู้ที่นำมาได้ขี่ม้าขาวและสวมชุดเจ้าบ่าวสีแดงยืนอยู่หน้าห้องโถงไว้ทุกข์
ตระกูลลั่วโมโหอย่างมาก
บรรดาแขกที่มาก็ต่างพากันโกรธเคือง
ที่นี่จัดงานศพไว้ทุกข์อยู่ ทว่ากลับมีคนสวมชุดแดงตีฆ้องตีกลองเข้ามา
มาก่อเรื่องงั้นเหรอ?
"คุณเป็นใคร? ทำไมถึงมาก่อเรื่องบ้าๆ ที่นี่?"
อาคนหนึ่งของลั่วเฉียนโมโหอย่างมากและชี้หน้าด่าทอเขาคนนั้น
ทว่าคนที่เข้ามากลับไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไรและหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาโยนไปที่พื้นและกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย "ผมไม่ได้มาก่อกวน แต่มาตามคำสัญญา ตอนนี้ลั่วเป่ยหมิงก็เสียชีวิตแล้ว! พวกคุณควรยกลั่วเฉียนให้กับผมได้แล้ว!"
เมื่อตระกูลลั่วได้ยินเข้าก็หน้าถอดสี
ลั่วเฉียนเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยความตกตะลึง เธอถอยหลังไปหลายก้าวด้วยอาการตัวสั่นและมองไปที่ชายที่สวมชุดสีแดงเจ้าบ่าวด้วยความหวาดกลัว!
"เฉียนเอ๋อร์ เขาเป็นใครเหรอ?"
หลินหยางขมวดคิ้วและถามขึ้น
"รีบพาฉันไปจากที่นี่...หลินหยาง รีบพาฉันออกไปจากที่นี่..."
ลั่วเฉียนตะโกนออกมาด้วยเสียงสั่น ราวกับจิตวิญญาณของเธอได้หลุดออกไปแล้ว...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...