“แกยังโอเคอยู่ใช่ไหม?”
หลินหยางหันกลับมาถามอย่างยิ้มๆ
“ไอ้สารเลว!”
โจวน่งรีบลุกขึ้นมาพร้อมเสียงคำราม และปล่อยหมัดอย่างดุเดือดไปยังหลินหยางอีกครั้ง
เป็นไปตามที่คาด หมัดที่ปล่อยออกมานั้น ปะทะเข้ากับอากาศ แถมยังมีแรงกระแทกแปลกๆ ดึงร่างเขาให้กระแทกไปข้างหน้าอีกด้วย
ร่างของเขาโซซัดโซเซและวิ่งพุ่งไปข้างหน้าสิบกว่าก้าว จากนั้นร่างของเขาก็ชนเข้ากับสิ่งกีดขวางและลงไปกองอยู่กับพื้น
เมื่อโจวน่งเงยหน้าขึ้น ก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูกของเขา ใบหน้าเลอะเทอะ ดูไปก็น่าสมเพชและน่าตลกดีเหมือนกัน
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…”
มีเสียงหัวเราะดังลั่นมาจากด้านล่างเวที
“โจวน่ง! แกเป็นอะไรหน่ะ? จะต่อยคนยังต่อยไม่โดนอีกหรือ?”
“ไม่ไหวแล้ว! ฉันขำจะแย่อยู่แล้ว น่าตลกจัง!”
“นี่คือความสามารถของบุตรแห่งโชคชะตางั้นหรือ? แตะต้องไม่โดนตัว มันยอดเยี่ยมเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันสู้ไม่ได้เลย สู้ไม่ได้จริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า...”
คนจำนวนไม่น้อยที่พากันหัวเราะจนท้องแข็ง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยการดูถูกและเหยียดหยาม
แต่บางคนกลับสังเกตได้ถึงความแตกต่างอันเล็กน้อยนั้น พวกเขาจ้องมองไปยังโจวน่งที่กำลังจนตรอก ราวกับว่ากำลังเฝ้ารอดูอะไรบางอย่าง
โจวน่งพยายามที่จะลุกขึ้นมา เขาที่กำลังหัวหมุนไม่เป็นท่าไปแล้วนั้น
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไม...ทำไมหมัดของฉันไม่เพียงแค่ทำอะไรแกไม่ได้ แถมยัง...แถมยังทำให้ร่างของฉันพุ่งไปข้างหน้าเองได้ด้วยอีกหรือ? ไอ้เด็กบ้า...หรือว่า...หรือแกทำบ้าอะไรกันแน่?”
โจวน่งใช้เวลาอยู่สักพักจึงได้สติกลับมา เขาจ้องมองหลินหยางและตะโกนถามออกไปอย่างเสียงดัง
“ตัวเองไม่ระวังเองแท้ๆ ทำไมมาโทษฉันหล่ะ?” หลินหยางถามเย้ยหยันกลับไป
“แก...ไอ้เด็กบ้าสารเลว!”
โจวน่งคำรามด้วยความโกรธ และปล่อยหมัดอย่างบ้าคลั่งออกมาอีกครั้ง
แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หมัดที่ปล่อยออกไปนั้นไม่ถูกตัวของหลินหยางเลยแม้แต่น้อย เขาเองคิดว่าเป็นเพราะแรงเฉื่อยที่เสียดทานเข้ากับกำแพงอากาศธาตุ ปะทะเข้ากับตัวจนทำให้เขารู้สึกสับสนงุนงงไปหมด
เสียงหัวเราะดังระงมขึ้นจากทั่วทุกทิศทาง
จากนั้นซานเสวียนจงทางฝั่งของโจวน่งต่างเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“มันน่าแปลก!มันผิดปกติ! ทำไมฝีมือของโจวน่งถึงได้เปลี่ยนเป็นงุ่มง่ามน่าตลกไปแบบนี้หล่ะ? มันดูไม่เหมือนความสามารถที่เขาแสดงออกมาตอนเวลาปกติเลย!” ผู้อาวุโสท่านหนึ่งของซานเสวียนจงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันเคร่งขรึม
เจ้าสำนักที่อยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรต่อ เขาเขม็งตาจ้องมองไปยังหลินหยาง ราวกับต้องการมองบางอย่างให้เห็นแบบทะลุปรุโปร่ง
ทันใดนั้น เจ้าสำนักผู้นั้นก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ราวกับพบเห็นอะไรบางอย่าง เขาพูดด้วยสีหน้าแปลกๆ ว่า “ไม่ได้การแล้ว! โจวน่งจะแพ้แล้ว! ไอ้เด็กคนนั้นมันไม่ได้กระจอกเหมือนอย่างที่พวกเราคิด!”
“อะไรนะ?”
ซานเสวียนจงรู้สึกสับสนงุนงงเป็นอย่างมาก
“ท่านเจ้าสำนัก หรือว่าไอ้เด็กนั้นมันจะเป็นคนทำเรื่องบ้าๆ นี้ขึ้นมาทั้งหมด?” ท่านอาวุโสถามขึ้นมาด้วยความตกใจ
“ถูกต้อง!” เจ้าสำนักซานเสวียนจงตอบอย่างกัดฟัน “ทุกครั้งที่โจวน่งออกหมัดมานั้น จะมีกระแสลมแผ่วเบากระจายออกมาจากรอบตัวของไอ้เด็กคนนั้น กระแสลมนี้จะพร้อมใจกันพุ่งเข้าใส่หมัดของโจวน่ง ฉันคิดว่ามันไม่ได้เป็นเพราะว่าโจวน่งควบคุมร่างกายของเขาไม่ได้หรอก แต่เป็นเพราะกระแสลมนี้แหละที่โอบล้อมหมัดของโจวน่งไว้ จนทำให้เขาต้องล้มลุกคลุกคลานเช่นนี้!”
“อะไรนะ?”
“แต่...แต่พวกเรามองไม่เห็นอะไรเลยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...