เบื้องหน้าของพวกเขามีชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพสวมชุดสูทสีดำท่าทางเคร่งขรึมและสง่างาม
เมื่อเห็นบุคคลนี้ ทุกคนก็ยืนขึ้นและมองเขาด้วยดวงตาที่เร่าร้อน
แม้แต่จูจื้อเฉียงและอี้ผิงก็จ้องจับจ้องมาที่เขาและไม่ละสายตาแม้แต่วิเดียว
"ประธานหลิน!"
"ประธานหลินมาแล้ว!"
"ให้ตายเถอะ ประธานหลิน...หล่อจริงๆ! หล่อกว่าในทีวีเสียอีก!"
"ใช่...ฉันอิจฉาซูเหยียนจริงๆ!"
"ไม่รู้ว่าซูเหยียนนั่นทำไมถึงยังปกป้องสามีที่ไร้ประโยชน์นั่นอยู่!"
"ถ้าประธานหลินชอบฉัน ฉันก็ยอมที่จะละทิ้งทุกอย่าง"
ผู้หญิงหลายคนในสถานที่แห่งนี้อดไม่ได้ที่จะแสดงอารมณ์ออกมา ราวกับว่าผู้ประกอบการหญิงเหล่านี้แทบจะหยุดหายใจ
"ประธานหลิน!"
"ประธานหลินสวัสดี!"
"ประธานหลิน ยินดีที่ได้พบ!"
บุคคลใหญ่โตหลายคนในแถวหน้าลุกขึ้นและทักทายอย่างมีชีวิตชีวา
หลินหยางเผยรอยยิ้มออกมาและทักทายกับคนเหล่านี้
เมื่อเห็นภาพนี้ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้น
หลินหยางเดินขึ้นไปบนเวที ประจำตำแหน่งและกระแอมในคอ
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีเงียบลง
"ทุกท่าน ยินดีอย่างยิ่งที่ทุกท่านมาที่นี่และเข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้ หยางหัวยินดีต้อนรับพวกคุณ!" หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
มีเสียงปรบมือดังสนั่น
"ผมไม่คิดว่าผมต้องแนะนำตัวเองแล้ว ทุกท่านน่าจะคุ้นเคยกันดี ดังนั้นพวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า การสัมมนาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของคุณและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของคุณ หากเราสามารถบรรลุความร่วมมือได้ก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นผมคิดว่าหากทุกคนได้ร่วมมือกันแล้วจะยกระดับในอาชีพของทุกคนได้อย่างแน่นอน!" หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
"ประธานหลินพูดได้ดี!"
"ประธานหลินเข้าใจพวกเราอย่างยิ่ง!"
"ช่างเป็นคำพูดที่ดีมาก!"
ทุกคนต่างชื่นชม บรรยากาศค่อนข้างมีชีวิตชีวา
นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จยังไงก็คือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักจะพูดแต่เรื่องดีๆ ไม่พูดเรื่องแย่ๆ แม้ว่าสิ่งที่หลินหยางพูดจะไร้สาระทั้งหมด แต่พวกเขาก็มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ
"พูดแล้วก็ ประธานหลินน่าจะพูดเกี่ยวกับพวกเราเกี่ยวกับโครงการพัฒนาบนฝั่งใต้ของเจียงเฉินหรือไม่? ฮ่าๆ ประธานหลิน ผมชอบบุคลิกที่ตรงไปตรงมาของคุณจริงๆ! ถ้าไม่ว่าอะไรตอนนี้พวกเราสามารถพูดคุยเรื่องนี้ได้ทันที! ผมคิดว่าทุกคนน่าจะคงรอไม่ไหวแล้ว! ทุกคนว่าใช่ไหม!"
เลิ้นกุยยืนขึ้น พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"ใช่!"
ทุกคนต่างพูดเสริมตามๆ กัน
ทุกอย่างดูคึกคักขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม...
เมื่อเลิ้นกุยพูดจบ กลับทำให้หลินหยางหรี่ตาลง
เขาหยุดพูด ไม่พูดอะไรอีก
เลิ้นกุยสังเกตหลินหยางอีกครั้ง
เมื่อเห็นหลินหยางไม่พูดอะไร ก็รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย
อย่างไรก็ตามหลินนหยางเคลื่อนสายตามามองเลิ้นกุยอย่างเฉยเมย
"คุณคือใคร?"
คำพูดสามคำที่เรียบง่าย ทำให้รอยยิ้มของเลิ้นกุยแข็งทื่อ...
"ประธานหลิน คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรอ? ผมเลิ้นกุยไง! คุณจะไม่รู้จักได้หรอ? ถ้าคุณจะล้อเล่นแบบนี้ นั่นมันไม่น่าสนใจเลย!"
เลิ้นกุยยังคงยืนและยิ้มเล็กน้อย พูดด้วยเสียงหัวเราะ
อย่างไรก็ตาม...หลินหยางยังคงแสดงท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว และหันหน้าไปทางหม่าไห่: "คุณรู้จักเขาหรอ?"
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกอย่างก็เดือดขึ้น
"ประธานหลินไม่รู้จักประธานเลิ้นหรอ?"
"จะเป็นไปได้ยังไงกัน? ประธานเลิ้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ประธานหลินจะไม่รู้จักได้อย่างไร? อีกทั้งการสัมมนาในครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือของประธานเลิ้นและหยางหัว ประธานหลินจะไม่รู้จักประธานเลิ้นหรอ? นี่มันใช่หรอ?"
"ผมว่า...น่าจะเป็นเพราะประธานหลินกำลังล้อเล่นแน่ๆ"
"น่าจะใช่..."
"แค่ว่ามุกของเขามันค่อนข้างแป็ก"
ทุกคนซุบซิบกัน
เลิ้นกุยขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจ
"ประธานหลิน นี่คือเลิ้นกุยประธานของเหิงย้วนกรุ๊ป ผมเคยแนะนำคุณแล้ว" หม่าไห่แนะนำอย่างเรียบง่าย เสียงของเขาไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"โอ้ะ อย่างงี้นี่เอง!"
ปกติแล้วอารมณ์ของเลิ้นกุยไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ประธานหลินตำหนิเขาโดยตรงต่อหน้าผู้คนจำนวน ไม่แม้แต่จะให้เกียรติเขา
เลิ้นกุยจะทนได้ยังไงกัน? ถ้าไม่ตอบโต้ หลังจากนี้เขาจะอยู่ในแวดวงธุรกิจยังไง?
"ผมใช้วิธีแบบไหนกัน? คุณเลิ้น ถ้าคุณมีอะไรไม่พอใจ ผมแนะนำให้คุณออกไปจากที่นี่ซะ!" หลินหยางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
"คุณ..."
เลิ้นกุ้ยโกรธจนหน้าแดง
นี่มันคือการไล่เขาออกไป!
ถ้าเขาออกไปเช่นนี้ สื่อข่าวด้านนอกต้องรายงานอย่างตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน เขาไม่สามารถเสียหน้าได้ เพราะไม่อย่างงั้นจะไม่กระทบเพียงแค่ตัวเขา แม้แต่บริษัทของเขาก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
เลิ้นกุยจะไม่ออกไปอย่างนี้แน่นอน
แม้ว่าจะต้องไป อย่างน้อยก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้
ตอนนี้อารมณ์ของเลิ้นกุยซับซ้อนอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะทำยังไงกับประธานหลิน ทำไมประธานหลินต้องทำให้เขาลำบากเช่นนี้
หรือว่า...จะเป็นเรื่องงานเลี้ยงเมื่อคืน?
แต่เงานเลี้ยงเมื่อคืนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประธานหลินไม่ใช่หรอ?
เลิ้นกุยสับสนอย่างมาก
"ประธานหลิน คุณเลิ้นทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ขอให้คุณโปรดให้อภัยด้วย เราต่างเป็นสหายกัน จากนี้ก็จะได้เจอกันบ่อยๆ อีกทั้งพวกเราเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกันน ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้!"
ในที่สุดก็มีคนทนดูไม่ไหว ลุกขึ้นมาและพยายามจะทำให้เรื่องนี้สงบลง
หลินหยางกวาดสายตามองคนนั้นและพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์: "คุณคือใครอีก?"
"ประธานหลิน ผมคือฉู่หาวจากม่ายเคอ พวกเราเคยพบกันมาก่อน!" คนนั้นพูดด้วยความแปลกใจ
"ฉู่หาวหรอ?" หลินหยางพยักหน้า ถามอย่างเฉยเมย: "แล้วคุณกำลังเทศน์ให้ผมฟังหรือคุณกำลังสอนผมอยู่?"
"เอ่อ...ประธานหลิน ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น ผมแค่คิดว่า...ทุกคนเป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องเล็กนี้ทำลายความรู้สึกกัน" ฉู่ห่าวพูดขึ้นมาอีกครั้ง
"โอเค!"
หลินหยางพยักหน้า หันไปมองหม่าไห่
หม่าไห่เข้าใจทันที รีบหยิบสัญญาขึ้นมาและวางบนโต๊ะ
"นี่คือโครงการและสัญญาทั้งหมดที่หยางหัวทำกับม่ายเคอ ตอนนี้ผมขอประกาศว่า หยางหัวจะยุติความร่วมมือทั้งหมดกับม่ายเคอ คุณฉู่ ตอนนี้พวกเราไม่ใช่เพื่อนทางธุรกิจกันแล้ว น่าจะไม่ต้องกังวลว่าจะทำร้ายความรู้สึกกัน ใช่ไหม?" หลินหยางพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เมื่อฉู่หาวได้ยินก็อึ้งค้าง
ทุกคนในที่นี้มองตาค้าง
ประธานหลิน...ทำอะไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...