เจิ้งหนานเทียนรู้สึกอึ้งไปสักพัก ตะคอกด้วยความโกรธ "พวกมันใจกล้าไม่เบา! ถึงขั้นกล้าแตะต้องแม้กระทั่งยาที่ช่วยเหลือชีวิตผู้คน? พวกเขาไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาเลยเหรอ?"
หลินหยางส่ายหัว "ห้ามดูถูกใจมนุษย์เด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้!"
ใจมนุษย์คือสิ่งที่คาดเดายากมากที่สุดบนโลกใบนี้
แม้กระทั่งบางครั้งคาดเดาถูก ก็ต้องทำเป็นไม่รู้
"พูดมาเลย ไอ้หนู โรงงานของคุณต้องใช้คนเท่าไหร่ในการดูแล? ผมจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้!"
"มันก็ต้องยิ่งมากยิ่งดี! ตอนนี้ผมวางแผนใช้สามโรงงานในการผลิตยาตัวใหม่ พนักงานทุกคนเตรียมพร้อม เมื่อไหร่ที่เครื่องมือมาถึงก็สามารถเริ่มงานได้ทันที ผมคิดว่าพวกเลิ้นกุยคงไม่อยากให้ยาตัวใหม่ตีตลาดอย่างราบรื่นแน่นอน! ยังไงพวกเขาก็ต้องคิดหาวิธีก่อกวน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังต้องการกดดันผมให้ตาย ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถกำจัดไพ่ตายของผมทิ้ง พวกเขาก็ไม่สามารถล้มผม ดังนั้นผมคิดว่าพวกเขาต้องทำทุกวิถีทางแน่นอน!"
"คุณหมายถึง…พวกเขาต้องการสูตรยา?" เจิ้งหนานเทียนถามด้วยความสงสัย
"มันก็พูดยาก แต่ผมระวังเอาไว้ก่อนดีกว่า!"
"ตอนนี้สูตรยาอยู่ที่ไหน?"
"ก็ต้องอยู่ในมือผมอยู่แล้ว แต่ก็มีคนส่วนหนึ่งในโรงงานกำลังวิเคราะห์สูตรยา เพราะยังไงการผลิตยาก็ต้องทำตามขั้นตอนของสูบยา!"
"ได้ ผมจะส่งคนไปเดี๋ยวนี้! ผมจะปกป้องยาตัวใหม่ของคุณเอง!"
เจิ้งหนานเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมแล้วกดวางสาย
หลินหยางวางโทรศัพท์ลง ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เจิ้งหนานเทียนลงมือ ทุกอย่างก็เบาบางลง
ตอนนี้ แค่ต้องรอให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง
หึ่มหึ่ม…หึ่มหึ่ม…
ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง
หลินหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ซูเหยียนเป็นคนโทรมา
"มีอะไรเหรอ?" เขากดปุ่มรับสายแล้วถาม
"คุณอยู่ไหน? ไปกินข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อย" ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
เสียงของเธอฟังแล้วเหมือนผิดปกติ…
หลินหยางมองนาฬิกาแล้วถาม "คุณอยู่ที่ไหน?"
"ถนนเกาซิน"
"รอผมก่อน!"
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย หลังจากนั้นหยิบกุญแจรถลัมโบกินี่กัลลาร์โดคันหนึ่งขึ้นมา ขับตรงไปที่ถนนเกาซิน
ซูเหยียนสวมชุดสูทยี่ห้อOLยืนอยู่ตรงนั้น เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ดูแล้วน่าชื่นชมมาก
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง
แน่นอน ทันทีที่เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์หลินหยางดังขึ้น มีผู้คนไม่น้อยหันไปมองเช่นกัน
หลังจากที่กัลลาร์โดจอดลงข้างกายซูเหยียน ผู้คนไม่น้อยแอบกลืนน้ำลาย
"สุดยอด!"
"มีเงินมันดีแบบนี้นี่เอง!"
ซูเหยียนไม่ได้ยินคำพูดของคนที่อยู่โดยรอบ แต่เธอหันไปมองคนที่นั่งอยู่ด้านในรถยนต์ลัมโบกินี่กัลลาร์โดด้วยความสงสัย หลังจากนั้นถึงรู้ว่าหลินหยางเป็นคนที่นั่งอยู่ด้านใน
"หลินหยาง?"
ซูเหยียนรู้สึกประหลาดใจมาก
หลินหยางก็อึ้งเช่นกัน เห็นสีหน้าของซูเหยียน เพิ่งรู้ตัวว่าเหมือนเขาจะขับรถผิดคันมาแล้ว
เขาเป็นเพียงลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนหนึ่ง จะมีปัญญาขับรถหรูแบบนี้เหรอ?
นั่นเป็นเพราะเขารีบเกินไปจึงไม่ทันได้คิดเรื่องนี้
ดูเหมือนช่วงนี้จะมีงานเยอะมาก…
หลินหยางโบกมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น "ขึ้นรถเถอะ!"
ซูเหยียนลังเลสักพัก เปิดประตูแล้วก้าวขึ้นนั่งบนรถ
"ไปกินร้านไหน?" หลินหยางเหยียบคันเร่งพลางถาม
"ร้านไหนก็ได้" ซูเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"ได้"
หลินหยางพยักหน้า นึกถึงร้านอาหารริมแม่น้ำที่เพิ่งเปิดใหม่ตามคำบอกเล่าของลั่วเฉียน
หลินหยางหันหน้าไปยิ้มแล้วถาม
ซูเหยียนเงียบ
ซูเหยียนในวันนี้ดูอ่อนล้า สีหน้าซีดขาว ดวงตามืดมน ท่าทางดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย เธอเอาแต่มองออกไปทางนอกหน้าต่างเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ?"
หลินหยางถาม
"เรื่องในบริษัท…บอกคุณไปคุณก็ช่วยอะไรไม่ได้" ซูเหยียนถอนหายใจ พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
หลินหยางรู้สึกอึ้งไปสักพัก หลังจากนั้นเข้าใจทันที
"หลังจากหยางหัวเกิดเรื่อง บริษัทของคุณก็ได้รับผลกระทบด้วยใช่หรือเปล่า? เพราะยังไงความร่วมมือระหว่างหยางหัวและเหยียนเยว่ก็ถือว่าค่อนข้างใกล้ชิด คู่แข่งของหยางหัวย่อมไม่มีทางปล่อยคุณไปอยู่แล้ว"
"ได้ยินมาว่าหยางหัวมีมาตรการรับมือแล้ว…ช่างเถอะ อย่าไปสนใจเรื่องพวกนี้เลย มาดื่มกับฉันสักแก้ว"
นานๆทีซูเหยียนถึงจะดื่มไวน์สักครั้ง
"อีกเดี๋ยวผมต้องขับรถ ขอไม่ดื่มดีกว่า" หลินหยางขมวดคิ้วพูด
ดูเหมือนปัญหาที่เกิดขึ้นในเยว่เหยียนอินเตอร์เนชั่นแนลจะหนักหนาสาหัสมากสำหรับเธอ เพราะน้อยครั้งที่จะเห็นเธอเป็นคนต้องการดื่มเอง
หลังจากดื่มไปได้ไม่กี่คำ ใบหน้าที่บอบบางของซูเหยียนเริ่มกลายเป็นสีแดง บวกกับรูปลักษณ์ที่สง่างามของเธอยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
หลินหยางมองเธออย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
"อันที่จริงฉันรู้สึกนับถือหมอเทวดาหลินมาก!"
ซูเหยียนวางแก้วลง พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา
"คุณคิดดู เขาเป็นแค่เด็กหนุ่มที่มีอายุยี่สิบกว่า เป็นคนรุ่นเดียวกับฉัน แต่กลับมีทักษะการแพทย์ที่น่าทึ่ง มีอาณาจักรธุรกิจที่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับโลก ของพวกนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าจินตนาการ"
"แต่…นับถือก็ส่วนนับถือ เคารพก็ส่วนเคารพ ฉันพยายามเว้นระยะห่างมาโดยตลอด ในมุมมองของฉัน เขาเป็นเพียงเพื่อนร่วมธุรกิจคนหนึ่ง คู่ควรที่จะให้ฉันเรียนรู้และเป็นแบบอย่างให้ฉัน แต่ข่าวลือในเจียงเฉินมีมากเกินไป มักจะนำฉันและเขาไปมัดรวมกัน…"
"หลินหยาง ฉันรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาคุณต้องลำบากมาโดยตลอด บางทีเมื่อก่อนฉันอาจจะรู้จักคุณไม่พอ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มเข้าใจคุณมากขึ้น อันที่จริงคุณไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่คนอื่นเขาพูด ถ้าหากคุณยอมพยายาม ฉันคิดว่าคุณก็น่าจะไม่ด้อยไปกว่าคนอื่น"
คำพูดของซูเหยียนเหมือนกำลังพูดเองเออเอง ในขณะเดียวกันก็เหมือนกำลังระบายความในใจให้หลินหยางฟัง
หลินหยางไม่ได้พูดอะไร เขารู้สึกว่าวันนี้ซูเหยียนผิดแปลกไปจากปกติ
จนกระทั่งในตอนนั้น สีหน้าของซูเหยียนดูจริงจังขึ้นอย่างกะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...