โหวซานได้ยินดังนั้นก็นึกว่านี่เป็นแผนการที่ลูกพี่อู๋คิดขึ้นเพื่อกำราบอวิ๋นฝูหลิง สีหน้าจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อย
อีกอย่างอวิ๋นฝูหลิงรูปงาม ลูกพี่อู๋อยากจะลองลิ้มรสชาติของนางก่อนก็เป็นเรื่องปกติ
โหวซานนึกว่าเดาใจลูกพี่อู๋ถูก จึงหัวเราะแล้วหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่ลูกพี่อู๋ จากนั้นเอ่ยขึ้น
“หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ หากฆ่าทิ้งคงเสียดายแย่ ไม่สู้ให้นางได้เล่นสนุกกับลูกพี่อู๋ก่อน รอให้พี่น้องทุกคนสนุกกันเต็มที่แล้ว ข้าค่อยสังหารนาง เพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่ก็ยังไม่สาย”
ลูกพี่อู๋ได้ยินดังนั้น แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม ทว่าในดวงตากลับเหี้ยมเกรียมขึ้นทันใด
เขาอยากจะตบแต่งอวิ๋นฝูหลิงด้วยใจจริง ย่อมทนฟังโหวซานเหยียดหยามนางด้วยคำพูดเช่นนี้ไม่ได้
ชายจมูกงุ้มหลายคนเห็นสีหน้าของลูกพี่ พลันรู้ได้ทันทีว่าเขาโมโหแล้ว
แต่โหวซานยังไม่รู้ตัว ยังคงพูดจาหยาบโลนต่อไปไม่หยุด
ดวงตาอวิ๋นฝูหลิงเยือกเย็น ทว่าใบหน้ากลับยิ้มแย้ม “ได้สิ งั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าก่อน”
พอดีกับยามนี้ที่มีสายลมพัดผ่านไปยังทิศทางของพวกลูกพี่อู๋
อวิ๋นฝูหลิงฉวยโอกาสตอนทุกคนเผลอ โปรยผงยาหนึ่งห่อ
ผงยาโชยไปตามลมใส่หน้าพวกลูกพี่อู๋ จากนั้นถูกพวกเขาสูดดมเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
เวลาเพียงสองอึดใจ พวกลูกพี่อู๋ที่มีกันกลุ่มใหญ่ แขนขาอ่อนแรงแล้วล้มลง
อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้วเท้าสะเอว “อย่างพวกเจ้าเนี่ยนะ ยังคิดจะมีเรื่องกับข้า?”
อวิ๋นจิงมั่วตะลึงงัน พลันมองอวิ๋นฝูหลิงตาวาว “ท่านแม่ ท่านเก่งมาก!”
อวิ๋นฝูหลิงยิ้มพร้อมลูบหัวเขา
ลูกพี่อู๋ดิ้นรนอยู่หลายที พบว่ามือเท้าตัวเองอ่อนแรง พละกำลังทั่วร่างคล้ายถูกบางสิ่งดูดไป จึงรู้สึกตกใจไม่น้อย
“เจ้า…เจ้าทำอะไรพวกข้า?”
เขาพยายามประคองสติ แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือแสดงให้เห็นความหวาดกลัวจากส่วนลึกของจิตใจ
อวิ๋นฝูหลิงเหยียบลงไปบนหน้าอกของเขาพร้อมยิ้มอ่อน “วางใจเถอะ ก็แค่ผงยาที่ทำให้พวกเจ้าหมดแรง ไม่เป็นอันตรายกับชีวิตพวกเจ้าหรอก”
ลูกพี่อู๋ได้ยินเช่นนั้น ยังไม่ทันได้โล่งอก พลันเห็นอวิ๋นฝูหลิงถือมีดเล่มยาวซึ่งไม่รู้ว่าไปหามาจากที่ใด
นางวาดดาบไปมาบนตัวเขา พร้อมกับหัวเราะแล้วกล่าวขึ้น
“อยากเล่นสนุกไม่ใช่หรือ?”
“เจ้าว่าหากข้าใช้มีดเฉือนลงไปบนร่างเจ้าหลายๆ ที ในป่านี้จะมีสัตว์ป่าตามมาถึงนี่เพราะกลิ่นเลือดหรือไม่?”
“พวกเจ้าถูกยาของข้า อยากหนีก็ไร้เรี่ยวแรง แหกปากให้ตายคนในหมู่บ้านก็ไม่ได้ยิน”
“ถึงตอนนั้นคงต้องทนเห็นตัวเองถูกสัตว์ป่าพวกนั้นรุมทึ้ง เลือดเนื้อถูกสัตวป่ากัดกินทีละคำ…”
แผ่นหลังลูกพี่อู๋เย็นวาบ รู้สึกแค่ว่ารอยยิ้มอ่อนโยนของอวิ๋นฝูหลิงในยามนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
ความรักใคร่ชอบพอที่มีให้นางก่อนหน้านี้พลันหายมลายสิ้น
เขาไม่กล้าคิดเป็นอื่นกับอวิ๋นฝูหลิงแม้แต่น้อย
ท่าทางเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิง ทำให้ลูกน้องคนอื่นๆ ของลูกพี่อู๋ตกใจไปตามๆ กัน
พวกเขาหลายคนร้องห่มร้องไห้ ต่างเอ่ยปากวิงวอน
พวกเขาไม่เคยบาดหมางกับอวิ๋นฝูหลิง แต่ล้วนถูกโหวซานซื้อตัว จึงได้มาหาเรื่องอวิ๋นฝูหลิง
โหวซานจำมีดในมืออวิ๋นฝูหลิงได้ แล้วนึกไปถึงความโหดร้ายที่อวิ๋นฝูหลิงฆ่าคนติดต่อกันสามคน ทำให้ใจเขาสั่นสะท้านอย่างลืมตัว
ทว่าเมื่อได้ยินชายจมูกงุ้มหลายคนโยนความผิดทั้งหมดให้เขา และปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆ กับเขา ทำให้เขาทั้งโกรธทั้งแค้น
จนด่าทอเสียงดังแล้วทะเลาะกับชายจมูกงุ้มหลายคนนั้น
ชั่วขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างดุเดือด
แม้โหวซานจะพูดจาฉะฉาน แต่เขาตัวคนเดียวจะเอาชนะพวกชายจมูกงุ้มได้อย่างไร
อวิ๋นฝูหลิงดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน กลับได้รับรู้ข่าวสารไม่น้อยจากการทะเลาะกันของพวกเขา
อวิ๋นจิงมั่วยังจำท่าทางดุร้ายของคนพวกนี้ตอนหาเรื่องเมื่อครู่ได้ ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาโยนความผิดให้กัน ทันใดนั้นจึงมือเท้าสะเอว แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ