“หา!! เจ้าบอกว่าอยากทำสิ่งใดนะ พูดให้พี่ฟังอีกทีซิ”
ภายในตำหนักขนาดใหญ่ที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม บ่งบอกถึงฐานะของผู้อยู่อาศัย บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง เบิกตามองสตรีใบหน้าจิ้มลิ้มที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องของตนด้วยความตื่นตระหนกตกใจระคนเหนื่อยหน่ายกับสิ่งที่นางเพิ่งจะเอ่ยขอ จนถึงกับต้องถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ รวมทั้งคาดหวังให้ตัวเองฟังผิด
“ข้าอยากปลอมตัวเข้าไปอยู่ในกองทัพของสหายท่าน อนุญาตเถอะนะเพคะ” เสียงใสตอบกลับกึ่งอ้อนวอน
“แต่เจ้าเป็นองค์หญิง!”
เฉินไป่ชางหรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่าองค์ชายชาง ว่าที่องค์
รัชทายาทแห่งแคว้นเป่ยหนานร้องออกมาอย่างเหลืออด สองมือจับไหล่บอบบางของน้องสาว แล้วมองเข้าไปในดวงตากลมโตสุกใสอย่างเคร่งขรึมจริงจัง
“เจ้าปลอมตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นไม่ได้ ไม่เด็ดขาดหยางจู”
ย้ำท้ายประโยคด้วยเสียงเด็ดขาดที่ไม่ค่อยได้ใช้กับนางบ่อยนัก แต่หากไม่ย้ำให้ชัด มีหรือที่น้องสาวจอมแก่นของเขาจะฟัง
ดรุณีน้อยที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ แววตาสุกสกาวเมื่อครู่หม่นแสงลงทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ แต่นั่นก็เป็นอยู่เพียงชั่วแวบเดียวเท่านั้น นางก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งตามนิสัย ครานี้ดวงตานางฉายแววเจ้าเล่ห์ซุกซนเหมือนกับทุกครั้งที่นางซุกซ่อนแผนการณ์ต่าง ๆ ไว้ เฉินไปชางเห็นดังนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ค่อยจะดี เพราะน้องสาวเขาผู้นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมป่วนอันดับหนึ่งแห่งวังหลวง ด้วยเพราะเสด็จพ่อรักและตามใจนางมาก
“แต่…ถ้าหากไปโดยมีคนช่วยเหลือ ก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายใด ๆ นี่เพคะ”
“แล้วผู้ใดจะมาช่วยเหลือเจ้า”
“รองแม่ทัพซื่อหมิงอย่างไรเล่า”
เขาส่ายหน้าช้า ๆ ต่อให้จางซื่อหมิงจะเป็นที่ไว้วางใจของเขารองจากมู่หรงเซียวหนานซึ่งเป็นแม่ทัพและเป็นสหายของเขา แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยน้องสาวไปตกระกำลำบากเช่นนั้นได้ มีอย่างที่ไหน สตรีจะปลอมตัวเป็นบุรุษเข้าไปในกองทัพที่อยู่ไกลถึงชายแดน นางจะต้องเจอกับสิ่งใดบ้างเมื่อเข้าไปอยู่ในนั้น ได้ตระหนักบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือคิดแต่จะเอาสนุกสนานเพียงอย่างเดียวถึงได้มาขออะไรที่เป็นไปไม่ได้เพียงนี้
“นี่พี่จะต้องอบรมเจ้า เรื่องหน้าที่พึงกระทำของผู้มีศักดิ์เป็น
องค์หญิงแห่งแคว้นเป่ยหนานอันยิ่งใหญ่ของเราอีกหรือ”
“จริงอยู่ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ข้าต้องกระทำเมื่อเกิดมาสูงส่ง แต่จะมีเพียงสิ่งเดียวไม่ได้เชียวหรือ ที่พอจะให้ข้าได้ทำตามใจตนเองบ้าง” หยางจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ จับมือของผู้เป็นพี่เอาไว้แน่นเป็นเชิงขอร้อง
“ไม่ได้ เจ้าจะทำสิ่งนี้ไปเพื่ออันใดกัน พี่ไม่เข้าใจ” เฉินไป่ชางพยายามทำใจแข็งกับลูกอ้อนของน้องสาว
นางนิ่งไปเล็กน้อยอย่างพยายามเรียบเรียงคำพูด ในขณะที่เขาเองก็คิดว่าความอยากเล่นสนุกอย่างเดียวคงไม่ถึงขนาดผลักดันให้นางคิดทำอะไรยิ่งใหญ่เพียงนี้ ถ้าไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝงอยู่
“ว่าอย่างไร ตอบพี่มาตามตรง”
“ก็เรื่องที่เสด็จพ่อทรงมีพระประสงค์จะให้ข้าอภิเษกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับต่างแคว้น ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าบุรุษผู้นั้นมาก่อน ซ้ำร้าย ข้ายังมีใจชอบพอผู้อื่นอยู่ก่อนแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้ามิสมควรได้รับโอกาสได้ทำตามหัวใจตัวเองก่อนหรือเพคะ ในเมื่อคนที่ข้าเลือกก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลยแม้แต่น้อย” นางตอบไปสะอื้นไป
“เจ้าหมายถึง...” เขาหยุดเพียงแค่นั้น เนื่องจากตัวเองก็พอจะรู้ว่าคนที่อยู่ในหัวใจของน้องนั้นคือใคร
หยางจูพยักหน้าเป็นเครื่องช่วยยืนยัน บุรุษที่นางคิดที่จะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเพื่อจะให้ได้อยู่ใกล้คือมู่หรงเซียวหนาน บุตรชายคนโตของท่านแม่ทัพใหญ่มู่หรงเซียนหลิว ซึ่งได้รับความไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของนางอย่างใหญ่หลวง คนทั้งตระกูลมู่หรงมีความสัมพันธ์อันดีกับราชวงศ์มาอย่างยาวนาน แม้แต่ธิดาเพียงคนเดียวก็ยังได้รับบรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิงและอภิเษกกับหลี่อวี้อ๋อง เสด็จอาของนางเช่นกัน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมนางถึงจะต้องการให้มู่หรงเซียวหนานมาเป็นพระสวามีของนางบ้างไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์