วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1020

เมื่อเยี่ยชิวลงจากรถ รถที่อยู่ข้างหลังเขาก็หยุดและมีชาวต่างชาติสองคนก็ลงจากรถ

มีเจตนาฆ่าออกมาจากร่างกายของเขาสองคน

เยี่ยชิวเหลือบมองชาวต่างชาติสองคนนั้นแล้วถามอย่างใจเย็นว่า:“นักฆ่า?”

“ฮ่าฮ่า สายตาไม่เลวเลยนิเจ้าหนู แต่น่าเสียดายที่นายต้องตายซะแล้ว”

สองพี่น้องสมิธพูดขึ้นว่า:“มีคนจ่ายเงินเพื่อซื้อชีวิตของนาย”

เยี่ยชิวถามขึ้น:“เป็นสวี่หมิงฮุยใช่ไหม?”

สองพี่น้องสมิธใช้สายตามองหน้ากัน คิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยชิวจะรู้ได้เร็วขนาดนี้ว่าใครเป็นคนจ่ายพวกเขามา

เพียงการกระทำเล็กๆนี้ ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าเยี่ยชิวนั้นทายถูก

จริงๆแล้วเมื่อสักครู่นี้เยี่ยชิวแค่พูดแบบโยนหินถามทางเฉยๆ เพราะช่วงนี้เขาเองก็ไม่ได้ไปไม่ลงรอยกับใครยกเว้นสวี่หมิงฮุย

และเยี่ยชิวก็ยังคิดไม่ถึงอีกว่านักฆ่าสองคนนี้จะไม่มีทักษะการแสดงเอาซะเลย แค่ถามเพียงคำเดียวก็ทำให้คนจ้างถูกเปิดเผยซะแล้ว

“คิดไม่ถึงเลยว่าสวี่หมิงฮุยจะจ้างนักฆ่าขยะมาข้าฉัน เขานี้โง่จริงๆ”

ในตาของสองพี่น้องสมิธเต็มไปด้วยความโกรธ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพวกเขานั้นเดินทางไปทั่วโลกและสังหารนักการเมืองนานาชาติและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกไปมากมาย ตอนนี้พวกเขากลับถูกเยี่ยชิวเรียกว่าขยะ เป็นเรื่องที่พวกเขายอมไม่ได้

“ปากดีไม่เบาเลยนิเจ้าหนู ถึงขนาดกล้าเรียกพวกฉันว่าขยะ นายคงไม่รู้สินะว่าพวกเราเป็นใคร”

“ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ พวกเราเป็นนักฆ่าที่ติดลำดับหนึ่งในสิบนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุกของโลก”

“เจ้าหนู ยอมรับความตายซะเถอะ!”

เมื่อพูดจบ

สองพี่น้องสมิธต่างก็หยิบกริชออกมาและเตรียมเดินไปหาเยี่ยชิว

ทันใดนั้น พลังแห่งดาบที่สองก็พุ่งออกมา

อย่างรวดเร็วและอย่างไม่น่าเชื่อ

สองพี่น้องสมิธนั้นยังไม่ทันได้ตอบโต้ บนหน้าออกช่วงบริเวณหัวใจของพวกเขานั้นก็ได้กลายเป็นรูไปซะแล้ว

“นี้.....”

สิบวินาทีต่อมา ทั้งสองพี่น้อองก็ล้มลงกับพื้น

และสิ้นลมหายใจ

“ขยะอย่างพวกนายน่ะหรอจะมาฆ่าฉัน เป็นไปไม่หรอก หาที่ตายจริงๆ”

เมื่อเยี่ยชิวพูดจบ เขาก็หยิบผงที่ใช้สำหรับโรยศพออกมาแล้วโรยลงบนศพทั้งสองพี่น้องสมิธ

หลังจากนั้นไม่นานก็มีกลิ่นฉุนรอยออกมา ร่างของสองพี่น้องสมิธก็กลายเป็นแอ่งน้ำอย่างรวดเร็ว

เยี่ยชิวเดินกลับไปขึ้นรถ และขับรถออกไปที่โรงแรม

และทั้งสองคนก็มีอะไรกันทั้งคืน

กลางดึก

เยี่ยชิวก็ฉวยโอกาสตอนนี้ฉินหวั่นหลับแอบออกมาจากโรงแรม

……

เวลานี้แต่อีกโรงแรมหนึ่ง

ภายในห้องประธานาธิบดี

สวี่หมิงฮุยนั้นนอนไม่หลับ เขายังคงรอข่าวดีจากพี่น้องสมิธอยู่

รอแล้วรออีก

รออีกรอแล้ว……

แต่ก็ยังไม่มีข่าวคาวอะไรเลย

ในเวลานี้ นางแบบสาวที่บอดี้การ์ดของเขาหามาให้ก็เดินออกมาจากห้องนอน ทำเสียงเล็กเสียงน้องว่า:“เจ้านาย คุณจะนอนตอนไหนหรอคะ?”

“ฉันอาบน้ำรอมาสามรอบแล้วน้า”

“เร็วๆหน่อยได้ไหมคะ~”

สวี่หมิงฮุยตะโกนเรียกบอดี้การ์ดแล้วสั่ง:“อีกสักพักติดต่อสองพี่น้องสมิธ ดูสิว่าพวกนั้นทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่ส่งข่าวมาอีก”

“ถ้าพวกมันทำสำเร็จล่ะก็ อย่าลืมมารายงานฉันด้วย”

“อ่อ อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าทุกอย่างราบรื่น นายก็เอาเงินที่เหลือให้พวกมันด้วย”

“ระดับพี่น้องสมิธไม่เคยทำพลาด ไม่แน่ในอนาคตข้างหน้าอาจจะได้เรียกใช้อีก”

บอดี้การ์ดพยักหน้า:“ฉันเข้าใจแล้วเจ้านาย ท่านพักผ่อนเถอะ ถ้ามีข่าวอะไรฉันจะมารายงาน”

“อืม”สวี่หมิงฮุยพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนไป

ไม่นาน สวี่หมิงฮุยกับนางแบบสาวก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเมามันส์

นางแบบสาวคนนี้เป็นงานมาก เธอนอนอ้าขาบนเตียงและใช้น้ำเสียงยั่วยวน ทำให้สวี่หมิงฮุยนั้นยุ่งมากและก็ถึงใจในเวลาเดียวกัน

“ฉันอยากให้คุณหมอช่วยตรวจโรคให้ฉันหน่อย”ชายชราพูด

ฟู่เหยียนเจี๋ยพูดขึ้น:“คุณตา หากคุณต้องการพบผู้อำนวยการเพื่อรับการรักษา อีกสองสามวันค่อยกลับมาใหม่นะ แล้วก็อย่าลืมหมอทางออนไลน์ล่วงหน้าด้วยล่ะ ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถรับนัดหมดนะ”

ชายชราเพิกเฉยที่ฟู่เหยียนเจี๋ยพูดและมองไปที่เยี่ยชิวแล้วพูดว่า:“ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นปราชญ์ทางการแพทย์คนแรกในรอบสามร้อยปี ไม่ว่าจะโรคอะไรก็รักษาได้”

“แต่ฉันไม่เชื่อ”

“ดังนั้นฉันถึงเดินจากมาถึงที่นี้เพื่อสิ่งนี้ ฉันอยากจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงเรื่องหลอกลวง”

เยี่ยชิวนั้นยังคงเงียบไม่ตอบโต้อะไร แต่ฟู่เหยียนเจี๋ยกลับโกรธมาก

“ทำไมคุณตาพูดจาแบบนี้ล่ะ?”

“ผู้อำนวยการของเราสามารถเป็นปราชญ์ทางการแพทย์ได้เพราะความสามารถที่แท้จริงของเขา”

“อย่าหาว่าฉันพูดจาโอ้อวยเลยนะ คนที่เก่งกว่าผู้อำนวยการของเรานั้นน่าจะยังไม่เกิด.......”

“เสี่ยวพ่าง!”เยี่ยชิวพูดแทรกขึ้น :“คุณตาเดินทางมาตั้งไกลเพื่อที่จะรักษา นี้คือการเชื่อมั่นในตัวฉันแล้ว พูดจาระวังหน่อยนะ”

ชายชราพูดต่อ:“เป็นความสามารถที่แท้จริงรึไม่ ลองก็รู้แล้ว”

เยี่ยชิวถามขึ้นว่า:“คุณตาไม่สบายตรงไหนหรอครับ?”

“ถ้าเป็นปราชญ์ทางการแพทย์จริง แค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วไหม?”น้ำเสียงของชายชราดูแข็งกร้าวเล็กน้อย หลังจากพูดแล้วเขาก็ยื่นมือซ้ายไว้ มาด้านหน้าของเยี่ยชิว

เยี่ยชิวจับชีพจรของชายชรา ตรวจดูสักพักแล้วพูดว่า:“คุณตาก็แข็งแรงดีนิครับ ไม่ได้ป่วยอะไร”

ชายชรายิ้มและตอบกลับว่า:“ใช่ คุณพูดถึง ฉันไม่ได้ป่วย”

“นี้คุณตาจะมาก่อความวุ่นวายอะไร.....”ฟู่เหยียนเจี๋ยยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกชายชรามองแรงใส่

ทันใดนั้นฟู่เหยียนเจี๋ยรู้สึกราวกับว่าเขาตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็ง และขนทั่วร่างกายของเขาก็ตั้ง

ดวงตาของชายชรานั้นน่ากลัวมาก

ฟู่หยานเจี๋ยตกใจมากจนกลืนน้ำลายลงไป

เยี่ยชิวสังเกตออกว่าชายชราคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงถามขึ้นว่า:“ถ้าคุณตาไม่ได้ไม่สบาย งั้นคุณตามาหาฉันทำไมหรอครับ?”

“คุณตาน่าจะมาหาฉันด้วยเรื่องอื่นถูกต้องไหม?”

“ขอโทษนะครับ คุณตาชื่ออะไรครับ?”

ชายชรายิ้มแล้วพูดว่า:“ฉันชื่อหลงเอ้อร์!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ